เตรียมล้อหมุน! ลุงอัจแย้มตำรวจจ่อจับ 2 คันรถ ยูทูเบอร์เปรียบสื่อเป็นหมาทำข่าวกัดไม่ปล่อย (คลิป)

25 ก.พ. 64

กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ไลฟ์สดพูดคุยผ่านเพจเฟซบุ๊ก "ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญกรรม" ลักษณะทำนองว่า เตรียมที่จะมีการเอาผิดเรื่องเงินรับบริจาคสร้างพญานาค และการฟอกเงินของลุงพล-ป้าแต๋น เนื่องจากมีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ประกอบกับคดีมีความคืบหน้า ซึ่งคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีรถตู้ 2 คันไปรับที่บ้านนั้น

417373

ล่าสุดวันที่ 25 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปบริเวณด้านหน้าบ้านของนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ซึ่งพบว่าเจ้าตัวเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้าน ไม่ได้ออกมาพบเจอกับกลุ่มยูทูเบอร์เช่นเหมือนทุกวัน แต่ยังคงมีกลุ่มยูทูเบอร์ ไลฟ์สดผ่านช่องของตัวเองอยู่บริเวณหน้าบ้าน โดยปราศจากตัวลุงพล

อีกทั้งยังสังเกตว่า มีการปลดป้ายโฆษณาชา จากเดิมมีการติดตั้งเอาไว้จำนวน 2 ป้าย อยู่บริเวณศาลาข้างพญานาค แต่วันนี้ได้ปลดออกไปหนึ่งป้าย แล้วนำแบรนด์สินค้าผลิตภัณฑ์อื่นมาติดตั้งแทน

459900

ส่วนบริเวณหน้าบ้านยังคงมีป้ายแนวตั้ง ที่ปรากฏภาพของลุง วางเอาไว้ในตำแหน่งเดิม และยังพบว่ามีกลุ่มยูทูเบอร์บางคน สวมใส่เสื้อขายชา ซึ่งเป็นเสื้อดำสกรีนสีเหลืองทอง แต่ยูทูเบอร์คนสนิท อย่างนายอ๋อ นายจิมมี่ เดิมทีก็จะหยิบมาสวมใส่บ้าง พบว่าวันนี้ไม่ได้สวมใส่ ใส่เสื้อทั่วไป

ทีมข่าวยังสังเกตเพิ่มเติมอีกว่า บริเวณลานพญานาคปู่ปาริจิต หลังจากที่ถูกตัดต้นไม้ ซึ่งเป็นไม้กระถินป่า 4 ต้น โดยวันนี้พบว่า มีการนำต้นไม้ จำนวน 7 ต้น คือ “ต้นปรีดียาธร” มาปลูกทดแทน ซึ่งมีลักษณะปลูกเป็นแถวยาว แนวเดียวกับเสาไฟฟ้า ซึ่งห่างจากเกาะกลางถนน 9 เมตร ตามที่กรมทางหลวงชนบทแจ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ 

528531

วันเดียวกันนี้กลุ่มยูทูเบอร์ จึงได้มีการรวบรวมเงินคนละ 100-1,000 บาท เพื่อจัดซื้อขนมขบเคี้ยว โดยนำไปมอบให้กับทาง รร.บ้านกกตูม เนื่องในงานกีฬาสีประจำกลุ่มโรงเรียนอำเภอดงหลวงตอนบน แต่ทีมข่าวสังเกตว่าในขณะที่กลุ่มยูทูเบอร์ พากันเดินทางไปมอบขนมให้กับทางโรงเรียน มีเพียงตัวแทนกลุ่มยูทูเบอร์คนสนิท และยูทูเบอร์ช่องอื่น ๆ ที่มีการไลฟ์สดทำเนื้อหาช่องตัวเอง เดินทางไปเป็นตัวแทนมอบ แต่ไม่พบลุงพลและป้าแต๋น เดินทางไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว

547891

ตลอดช่วงที่ทีมข่าวเข้าไปบันทึกเก็บภาพการทำงานของกลุ่มยูทูเบอร์ และบันทึกภาพเพื่อนำเสนอข่าวเกี่ยวกับลานพญานาค หรือป้ายโฆษณาที่ติดอยู่บ้านลุงพล กลุ่มยูทูเบอร์ โดยเฉพาะคนสนิท เช่น นายอ๋อ และน.ส.เป้ จากช่องกินอิ่มพุงกาง ได้ติดตามและไลฟ์สดถ่ายการทำงานของทีมข่าวตลอดเวลา พร้อมทั้งได้มีการบรรยายเกี่ยวกับการทำงานของช่องอมรินทร์ ทีวี ซึ่งทุกครั้งที่ทีมข่าวหันกล้องเพื่อบันทึกพฤติกรรมของคนเหล่านั้น ก็จะหลบซ่อนตัวอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ แต่จะยื่นกล้องโผล่ขึ้นมาเพื่อบันทึกคลิปไปลงช่องของตัวเอง ลงเนื้อหาเพื่อเรียกกระแสจากกลุ่มแฟนคลับ ทั้งที่ทีมข่าวเดินทางไป เพื่อจะบันทึกถ่ายทำข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าทั่วไปเท่านั้น

833983

นางพงศ์สุดา เชื้อคนแข็ง หรือย่าน้องอชิ เปิดเผยว่า ตนไม่รู้ว่าความหมายของนายอัจฉริยะ หมายถึงอะไร แล้วจะมีความเกี่ยวข้องอะไรเกี่ยวกับคดีนี้ แต่ที่ผ่านมายอมรับว่าก็มีตำรวจแวะมาคุยมาเจอลุงพลบ้าง แต่เป็นเรื่องคดีป่าไม้และคดีอื่น ๆ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคดีชมพู่ ส่วนตัวเชื่อว่า “คดีคงไม่เร็วขนาดนี้ คงไม่จับไวขนาดนั้น” เพราะคดียังไม่ถึงไหนเลย แต่ในมุมทนายก็เคยมาคุยกับลุงพลบ่อยครั้งว่า ไม่ต้องกังวล

538581

พร้อมยังตั้งข้อสังเกตว่า หากจะเป็นเรื่องของคดีป่าไม้ ตนบอกว่าก็คงจะไม่รุนแรงถึงขั้นนำรถตู้มารับ เพราะเป็นแค่คดีต้นไม้เล็ก ๆ หน้าบ้าน ดังนั้นแค่ตำรวจเชิญตัวไปลุงพลก็คงไปให้ปากคำแล้ว ไม่ต้องถึงขั้นต้องส่งใครมารับขึ้นรถก็ได้

577502

ขณะที่ช่วงเช้าวันที่ 24 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ภายในหมู่บ้านกกกอก ยังมีพิธีอุปสมบท ของนายนริน เชื้อคมตา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอนาจารหลานสาวของตนเอง แต่ศาลได้มีการยกฟ้อง เพราะเนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ อีกทั้งยังเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีน้องชมพู่ก่อนหน้านี้ ได้เข้าร่วมพิธีอุปสมบท ที่วัดกกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร จำนวน 15 วัน หลังจากที่ผ่านพ้นคดีและเรื่องเลวร้ายในชีวิต จากนั้นได้เดินทางต่อไปที่วัดป่าไม้ ซึ่งเป็นสถานที่จำวัดหลังจากอุปสมบท

วันเดียวกันนี้ ในระหว่างที่ทีมข่าวเดินทางไปส่งพระนริน เชื้อคมตา เพิ่งจะเข้าพิธีอุปสมบทใหม่ และเดินทางไปจำวัดอยู่ที่วัดป่าไม้นั้น

797054

ทีมข่าวได้พูดคุยกับพระศิริชัย สันตจิตโต เจ้าอาวาสวัดป่าไม้ ในฐานะลุง ฝั่งทางนายอนามัย พ่อของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า อาตมาเป็นเครือญาตของน้องชมพู่ ซึ่งหลังจากทราบว่าน้องหายไป ก็ด้วยความเป็นห่วงเดินทางไปที่บ้านหลายครั้ง แต่ด้วยความเป็นพระ จึงไม่ได้ออกช่วยค้นหา ส่วนใหญ่จะไปที่บ้านน้องชมพู่ และไปจำอยู่ที่วัดกกกอก เพื่อติดตามความคืบหน้าในการค้นหา

โดยในวันที่ 12 พ.ค.63 ช่วงประมาณ 09.00 น. อาตมาเดินทางไปที่บ้านน้องชมพู่ นำน้ำดื่มไปมอบให้ครอบครัว เพื่อจะใช้สำหรับการค้นหา แต่ยืนยันว่าเจอแต่เพียงครอบครัวและชาวบ้านคนอื่น ไม่ได้เจอลุงพล ซึ่งไม่รู้ว่าวันที่ 12 พ.ค.63 ออกไปรับร่างทรง หรือไปที่ไหน เพราะเท่าที่รู้ลุงพลไม่ได้ออกค้นหา แต่เน้นด้านความเชื่อหรือติดต่อกับร่างทรงมากกว่า

770693

จนกระทั่งวันที่ 14 พ.ค.63 ช่วงบ่าย อาตมาก็เดินทางไปที่หมู่บ้านอีกครั้ง โดยนำมะละกอและเงินปัจจัยไปช่วยเหลือครอบครัวน้องชมพู่ แต่ในวันดังกล่าวก็ไม่เห็นลุงพลออกช่วยติดตามค้นหา กระทั่งช่วงเวลาปรับ 15.00-16.00 น. มีชาวบ้านที่ออกไปเก็บผักหวานมาบอกว่าเจอรองเท้าเด็กอยู่บนเขา จึงได้มีการจัดกำลังเพื่อขึ้นไปจำนวน 2 ชุด ซึ่งทราบว่าชุดแรกมีลุงพลขึ้นไปล่วงหน้า ส่วนชุดที่สองเป็นชุดของอาตมา ขึ้นไปพร้อมกับผอ.รร.บ้านกกตูม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

638832

แต่ในตอนนั้นทราบแล้วว่าน้องชมพู่เป็นศพอยู่บนเขา เพราะระยะเวลากลุ่มแรกกับกลุ่มขึ้นเขาทิ้งห่างกันประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อไปถึงก็ไม่ทันได้สังเกตพฤติกรรม หรือความเปลี่ยนแปลงของลุงพล ต่างคนต่างอยู่ในอาการเสียใจ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจพลิกศพแล้ว ได้เคลื่อนย้ายร่างของน้องชมพู่ลงมาจากเขา เพื่อประกอบพิธีบางสกุล จุดธูปเทียนเพื่อเชิญดวงวิญญาณน้องชมพู่ออกจากจุดนั้น ซึ่งเป็นการเชิญดวงวิญญาณในฐานะญาติ แต่ก็ทราบมาภายหลังอีกครั้ง ว่าครอบครัวของน้องชมพู่ได้มีการนิมนต์พระ 4 รูป ไปประกอบพิธีบังสุกุลและเชิญวิญญาณอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าพ่อแม่น้องชมพู่หรือลุงพลขึ้นไปด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม พระศิริชัย ยังเปิดเผยว่า หลังจากที่เจอศพน้องชมพู่แล้ว รวมถึงได้ทำพิธีบังสุกุล ยอมรับว่าน้องชมพู่ไม่เคยมาเข้าฝัน ไม่เคยมาหา ซึ่งส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หรือเกี่ยวข้องอะไรเกี่ยวกับเรื่องของไสยศาสตร์มนตร์ดำหรือไม่ ที่ทำให้คนในครอบครัวรวมถึงอาตมาในฐานะญาติที่เป็นพระ ไม่สามารถสื่อสารกับดวงวิญญาณของน้องชมพู่ได้ จึงเชื่อว่าอาจมีเรื่องของไสยศาสตร์มนตร์ดำเข้ามาเกี่ยวข้องตามที่ตำรวจตั้งข้อสมมติฐานเอาไว้ และเกี่ยวข้องกับเรื่องของการสะกดดวงวิญญาณหรือไม่

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส