เปิดคลิป! สาวรุมตบอาม่าฟันร่วง เพื่อนบ้านงัดคลิปสุดแสบหิ้วถุงขี้ปาข้ามบ้านอ้างเสียงดัง (คลิป)

กรณีอาม่า วัย 75 ปี อ้างว่าถูกเพื่อนบ้านที่มีสามีรับราชการทหาร และเปิดร้านซ่อมไดนาโมจูนกล่องไฟฟ้ารถยนต์ ซึ่งมีบ้านติดกันทำร้ายร่างกายจนอาม่าได้รับความบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดในพื้นที่หมู่ 2 ถนนติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 2 ก.พ.64 ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันที่ 22 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ในพื้นที่หมู่ 2 ถนนติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นกำแพงติดกัน บ้านอาม่าอยู่ตรงกลางและติดกับบ้านอาม่าฝั่งขวามือ จะเป็นร้านซ่อมรถคู่กรณี ซึ่งกำแพงติดกันทั้งหมด

ต่อมาทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับ นางนวรัตน์ องค์วัฒนะพัฒน์ อายุ 75 ปี หรือ อาม่า ทีมข่าวพบว่าบ้านอาม่า และบ้านคู่กรณีติดกันใช้กำแพงเดียวกัน และวันนี้อาม่ายังคงปิดบ้านไม่ให้นักข่าวเข้าไปด้านใน แต่ขอให้ทีมข่าวคุยกันนอกบ้านแทน

โดยอาม่านวรัตน์ ชี้ให้ทีมข่าวดูร่องรอยเขียวช้ำที่ยังหลงเหลืออยู่จากเหตุการณ์วันที่ 2 ก.พ.64 ซึ่งที่แขนขวาอาม่ายังมีรอยเขียวช้ำ ส่วนที่ปากไม่มีรอยเขียวแล้ว ส่วนฟันที่หลอของอาม่าคล้ายฟันที่หักออกนานแล้วตามอายุที่ชรา

อาม่า เล่าว่า ตอนนี้ยังเจ็บที่ใต้ราวนม ปวดแขน เจ็บตามตัว เดินไม่ค่อยได้ ตนโดนลากกับพื้นและเจ็บมาก ๆ ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน แล้วก็ไม่เคยหาเรื่องใคร ตนอยู่มานานร่วม 20 ปี แต่คู่กรณีมาเช่าอยู่ได้ 6 ปี ที่ผ่านมาตนเดือดร้อนมาก โดนร้านคู่กรณีเบิ้ลเครื่องเสียงดัง มลพิษเข้าบ้านจนต้องปิดบ้านไว้ตลอด บางวันเคาะข้างฝาด้วยตนนอนไม่ได้ ส่วนร้านคู่กรณียังต่อเติมพื้นที่ รุกพื้นที่ริมทางเท้าด้วย บางคนจอดรถไม่ได้ ร้านที่มาเช่าเจ้งไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย เพราะไม่มีที่จอดรถ ร้านซ่อมรถไม่ยอมให้คนอื่นจอด บางวันจอดรถกินพื้นที่บ้านตน

ส่วนที่ข่าวบอกว่า ตนไปแกล้งเทขยะใส่หน้าบ้าน ยืนยันว่าไม่ใช่ แต่เป็นถุงของคู่กรณี บางทีตั้งไว้ 10 กว่าถุง วางทิ้งไว้ 5-6 วัน บางทีกินเหล้าดึกอีกด้วย และยันว่าตนไม่ได้นำอุจจาระ ปัสสาวะไปเทไปป่วน บางทีตนเจอคู่กรณีนำเก้าอี้มาตั้งหน้าบ้านไม่ให้ตนเข้าออก ลูกชายก็โดน จากนี้ตนยืนยันว่าจะอยู่ที่นี่ไม่หนีไปไหน บ้านไม่ใช่บาท 2 บาท ตนขอยืนยันไม่คืนดี ร้ายกับตนมาก ชกตนจนฟันร่วงหมดปากกินอะไรไม่ได้

ด้านนางนันทพัธท์ เจ้าของร้าน เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า สาเหตุที่ตนต้องทำร้ายหญิงวัย 75 ปี หรื อาม่า เป็นเพราะตนทนเก็บสะสมอัดอั้นมากว่า 6 ปี ตั้งแต่ที่ตนและครอบครัวมาเปิดร้านแห่งนี้ ซึ่งเป็นร้านซ่อมไดนาโมรถ ย่อมต้องมีเสียงดัง ตนก็ยอมรับ แต่ตลอดเวลาอาม่า ไม่เคยมาบอกกล่าวให้ทราบ ซ้ำยังเดินสายร้องเรียนใส่ร้ายตนต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถ ลูกค้าตนก็ไม่เคยไปจอดหน้าบ้านเขา เพราะตนรู้ถึงนิสัยใจคอดีว่า นางนวรัตน์ จะด่าเก่งและด่าคำหยาบด้วย

แม้แต่การต่อเติมในส่วนฟุตพาทหน้าร้าน ก็ยังไปร้องเทศบาล ซึ่งตนยืนยันว่าได้ไปขออนุญาติอย่างถูกต้อง ส่วนช่างในร้านและลูกชายที่มีบิ๊กไบก์ ซึ่งก็ทราบดีว่าเสียงของรถมันจะดังกว่าปกติ ตนก็จะกำชับเสมออย่าเบิ้ลเสียงรถ ส่วนการกระทบกระทั่งที่มีกันมายาวนาน เป็นเพราะตนไม่อาจทนฝีปากของอาม่าที่มักจะด่า เหน็บแนมตนอยู่ตลอด บางครั้งเจอต่อหน้าไม่มีอะไรก็จะด่าลอย ๆ แต่ที่ทนไม่ได้จนต้องก่อเหตุ เพราะด่าถึงบรรพบุรุษ "พ่อแม่ไม่สั่งไม่สอน" จนตนทนไม่ไหวจริง ๆ หรือบางครั้งก็นำน้ำปัสสาวะสาดเข้ามาชั้นบนดาดฟ้าที่ตากเสื้อผ้า นำถุงขยะมาทิ้งหน้าบ้าน แต่ก็พยายามอดทนมาตลอด เพราะเห็นว่าเป็นคนแก่ อยากให้สังคมเข้าใจด้วยว่า ไม่มีใครที่อยู่ดี ๆ จะไปทำร้ายคนแก่ 

ทีมข่าวพบกับนางรุจรี ปรีชาเวชกุล อายุ 52 ปี เจ้าของร้านเครื่องเสียงรถยนต์ บอกกับทีมข่าวว่า อาม่าเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน โดยจะชอบมาหาเรื่องร้านคู่กรณี เเละร้านตนก็โดนบ่อยมากเช่นกัน เเต่คนที่ร้านไม่ค่อยมีใครอยากยุ่งกับอาม่า เวลาทำกับข้าวอาม่าก็จะออกมาด่า เเละไม่ให้ทำ ทำให้เจ้าของเดิมย้ายออกไป เเละอาม่าจะใช้วิธีการร้องเรียนอย่างเดียว 

พฤติกรรมอาม่าชอบหาเรื่องคนอื่นเเละไม่เอาใคร ไม่พึ่งพาอาศัยกัน มีเเต่จะหาเรื่องทะเลาะ บางครั้งเรื่องเล็ก ๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ซึ่งตนเคยต่อว่าอาม่าไปครั้งหนึ่ง เเละมีหลักฐานว่าอาม่านำขยะมาทิ้งหน้าร้านเเละฉีกเพื่อให้กระจัดกระจาย บางทีเอากระถางต้นไม้มาโยนทิ้งบ้านตน ซึ่งตนเคยพูดคุยกับอาม่าเเล้วว่า ถ้าทำอีกจะเเจ้งความ เพราะมีกล้องวงจรปิด อาม่าเลยไม่มายุ่ง ส่วนทางลูกสาวลูกชายของอาม่าไม่เคยสนใจและบอกว่า ห้ามแม่แล้วแต่แม่ไม่ฟัง แต่ร้านซ่อมไดนาโมคู่กรณีอาม่าที่ทนไม่ไหว เพราะอ่าม่าไปด่าถึงบรรพบุรุษว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน

ส่วนประเด็นที่ทะเลาะกันมีมานานแล้ว เพราะอาม่าไม่พอใจร้านซ่อมรถคู่กรณี และจะทะเลาะกันบ่อยมาก เเละบางครั้งอาม่าเข้าเเจ้งความในเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนทำให้เรื่องใหญ่โต ซึ่งปกติไม่ค่อยมีใครยุ่งกับอาม่าอยู่เเล้ว เพราะรู้ว่านิสัยอาม่าเป็นอย่างไร 

ทั้งนี้เวลาพักผ่อนอยู่ในบ้าน บางวันได้ยินเสียงอาม่าเอาไม้หรือของแข็งกระทุ้งบ้านเสียงดังไปหมด บางทีเช้า ๆ อาม่าใช้กล่องอะไรสักอย่างพร้อมไม้ เคาะเรียกลูกชายจนตนสะดุ้งตื่น จริง ๆ วัยอาม่าควรกินนอนพักผ่อนอยู่ในบ้าน ไม่ควรออกมาหาเรื่องใครแบบนี้ อาม่าผิดเต็ม ๆ เจ้าของเดิมยังอยู่กับอาม่าไม่ได้ เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว สุดท้ายตนกลัวจะถูกคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนบ้าน มาทำร้ายอาม่าหนักกว่านี้

นอกจากนี้ ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับ นายธงชัย ณรงค์ศักดิ์ อายุ 32 ปี ลูกชายนางนันทพัธท์ คู่กรณีอาม่าที่อยู่บ้านติดกัน โดยวันนี้นายธงชัย พาทีมข่าวขึ้นไปดูที่ดาดฟ้าชั้น 3 ของบ้าน ที่เป็นอาคารพาณิชย์กำแพงติดกันกับบ้านอาม่า โดยนายธงชัย ชี้ให้ทีมข่าวดูสภาพดาดฟ้าที่ต้องใช้แผ่นยิปซั่มบังไว้ เพราะวันดีคืนอีอาม่าชอบนำขยะสาดมา หรือไม่ก็น้ำปัสสาวะ จนต้องปิดทึบกันไว้ 

นายธงชัย ให้สัมภาษณ์ขณะกำลังซ่อมเกียร์รถ ตนยืนยันได้เสียงเครื่องยนต์ที่เบิ้ลเครื่องตอนซ่อมไม่ได้ดังถึง 100 เดซิเบลด้วยซ้ำ อย่างมากก็ไม่เกิน 90 เดซิเบล และตนขับรถไปลองเครื่องบนถนน ไม่ได้มาเบิ้ลทำที่ร้าน บางทีรถจักรยานยนต์ หรือรถที่วิ่งไปมาบนถนนติวานนท์ยังดังกว่าอีก

ทั้งนี้ตนอยู่ที่นี่มา 7 ปีแล้ว บางทีก็ท้อเพราะถูกหาเรื่องตลอด เมื่อข่าวแพร่ออกไปตอนที่แม่ตนไปทำร้ายอาม่า พวกเขาอาจไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง หากอยู่ตรงนี้จะเข้าใจว่าฝ่ายตนหรืออาม่าที่เป็นฝ่ายแกล้งกันแน่ ส่วนเรื่องอุจาระและปัสสาวะบ่อยมาก บางวันโยนขยะลงมาบนถนน ให้รถเหยียบเละเทะ 

อย่างไรก็ตาม หาถามว่าลูกหลายอาม่าเห็นใจตนหรือไม่ บางทีคุยกันก็เหมือนเห็นใจ แต่ข่าวแพร่ออกไปก็ต้องเข้าข้างแม่เป็นธรรมดา วันเกิดเหตุวันที่ 2 ก.พ.64 แม่ของตนทนไม่ไหวแล้ว อาม่าด่าหนักมากไป จึงมีลงไม้ลงมือ แม่ตนไม่เคยไปหาเรื่องใครก่อน จริง ๆ อาม่าแก่แล้วน่าจะทำตัวดี ๆ แบบนี้ถ้าเป็นอะไรไปตนก็ไม่ช่วย