จากคดีตำรวจหนุ่มแต่งซ้อน ชาวเน็ตได้แชร์คลิปหญิงสาวคนหนึ่งถือทะเบียนสมรสบุกงานแต่งสามีตนเอง ซึ่งไปแต่งงานใหม่โดยที่ทั้ง 2 คนยังไม่ได้หย่าขาดกัน ทำให้ชาวเน็ตพากันแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวอย่างหนัก ซึ่งล่าสุดฝ่ายภรรยาหลวง ได้ปรึกษาทนายเพื่อยื่นฟ้องหญิงที่แต่งงานซ้อนแล้ว ส่วนฝ่ายชายลางานตำรวจแล้ว 5 วันนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เมียหลวงยืนหนึ่งซึ้งแม่ผัวพาลุย ฟ้องเจ้าสาว 3 แสนเหตุรู้คบซ้อน เผยอดีตหวิดดับผัวขับรถบี้ (คลิป)
- เจ้าบ่าวแต่งซ้อนขอรับผิดคนเดียวป้องสาวไม่รู้ พ่อฉะขาดจริยธรรม จ่อถูกฟันวินัยขัง 30 วัน (คลิป)
- ทัวร์ลง! เจ้าสาวเบอร์ 2 ตกงานพ่วงโดนคดี ญาติจี้เขยตำรวจโชว์สปิริตรับผิดชอบ (คลิป)
- เปิดใจแม่ผัวแห่งชาติ ตบลูกชายแต่งงานซ้อนยุฟ้อง - เมียช้ำถูกเย้ยน้ำพริกถ้วยใหม่ (คลิป)
ล่าสุด วันที่ 22 ก.พ. 64 เวลา 15.00 น. นางดรุณี มนัสวานิช พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท นางวาริน วีระสุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางมายังบ้านสิบตำรวจเอกศรันญู เพื่อพูดคุยกับทางฝั่งของนางนิภาพรรณ หรือ จอย เมียหลวง พร้อมให้คำปรึกษาต่าง ๆ รวมไปถึงการสอบถามสภาพจิตใจของคนในครอบครัว และลูกสาวทั้ง 2 คน อายุ 15 ปี และ 5 ขวบ ซึ่งลูกทั้ง2คนนั้นยังไม่มีอาการผิดปกติ จากนั้นได้ทำการมอบถุงยังชีพเพื่อเป็นกำลังใจ
นางนิภาพรรณ ภรรยาหลวง เผยว่า ตอนนี้สภาพจิตใจทุกคนยังปกติ มีช็อกอยู่บ้าง แต่ก็ยังคุมอยู่ ยังไม่ได้คุยกัน ไม่มีการติดต่อกันกับสามี เรื่องการแก้ปัญหานั้นยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ต้องมานั่งคุยกันในครอบครัวก่อน จะได้รู้ว่าจะเดินหน้าต่อไปกันอย่างไร ทุกอย่างต้องใช้เวลา ส่วนเรื่องฟ้องร้องนั้นยังไม่ได้คุยกับทางทนายเพิ่ม ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ถ้ามีมีปัญหาอะไรทางเราก็พร้อมจะสู้คดีจนถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่แฟลตตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อตรวจสอบเบาะแสที่ชาวเน็ตแจ้งมาเรื่อง ที่ฝ่ายชายพาเจ้าสาวมาอยู่ที่นี่ ซึ่งจากการสอบถามผู้ที่พักอาศัยอยู่ในแฟลตทุกคนจะบอกคล้ายกัน คือไม่เห็นฝ่ายชายมานานแล้ว เพราะไม่ค่อยมานอนที่แฟลต จะกลับไปนอนที่บ้านทุกวัน และตั้งแต่หลังเกิดเรื่องก็ไม่มีใครเห็นอีกเลย ทราบว่าทำเรื่องลาพักผ่อนไว้ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. 64
โดยแม่ค้าร้านขายของชำหน้าแฟลต บอกว่า ตั้งแต่เป็นข่าวก็ไม่มีใครเห็นหมู่เปาเลย ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการแอบเข้ามาพักในแฟลต เพราะบันไดทางขึ้นลงมีแค่ 2 ทาง ถ้ามาอยู่ตามกระแสข่าวจริง ก็ต้องมีคนเห็น ส่วนเจ้าสาวตามคลิปงานแต่งที่ถูกบุกนั้น คนในแฟลตเองก็บอกว่าไม่เคยเห็นหมู่เปาพาเข้ามาที่แฟลต จึงไม่มีใครรู้จักหน้าตาว่าเป็นอย่างไร ถึงตอนนี้ยังไม่มีใครทราบว่าหมู่เปาไปพักอยู่ที่ไหน เพราะไม่มีใครสามารถติดต่อได้
ด้านทนายพัฒน์ ทนายความของภรรยาหลวง โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ถึงข่าวอาจจะห่างไป แต่คดีเราก็ต้องดำเนินการต่อไป เจอกัน 26 เมษายนนี้ เวลา 09.30 น. ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท มาเจอกันด้วยนะ อย่าลืม #ทีมเมียหลวง"
ส่วนอีกโพสต์ระบุว่า "เวลาโพสต์อวดผัวให้เมียหลวงเขาเจ็บใจสนุกสนาน ตอนนี้ขอโทษ มันใช่หรือ? ผมให้คำปรึกษาคดีเขามาเกือบปี เขาทำอะไรคุณไม่ได้ เพราะหลักฐานไม่ชัดพอ เขาร้องไห้แทบทุกครั้ง เจ็บมาเป็นปีรู้บ้างไหม? ทีนี้เข้าใจเขาหรือยัง รู็ทั้งรู้ แต่ก็ยังทำ ให้มันจบที่ศาล..." และ "เวลาแต่งงานกันนี่ พ่อแม่ฝ่ายชายไม่มางาน ญาติผู้ชายไม่มางานนี่ คือแต่งกันแบบนี้หรือ? บ้านผมไม่มีนะแบบนี้ งงพิธีงานแต่ง!!!"
ทั้งนี้ ทนายพัฒน์ ระบุว่า เพราะอย่างน้อยถึงแม้กฎหมายจะไม่แข็งแรงเท่าที่พวกเราคาดหวัง แต่พลังพระชาชนที่รวมกัน จะจัดการผู้ที่กระทำความผิดด้วยกฎของสังคม ต้องขอขอบคุณทีมเมียหลวงทุกคนและผู้รักความเป็นธรรม
ด้าน "ใหม่ สุคนธวา" นักแสดงและพิธีกร โพสต์ภาพตัวเองขณะนั่งอยู่ที่เบาะคนขับ ซึ่งเป็นรถหรูของสามี พร้อมแคปชั่นสั้น ๆ ว่า "ค่ะ รถเมียนั่ง ไม่ใช่รถเมียน้อย! ชัดนะคะ (ที่นั่งเมีย ไม่ใช่ที่นั่ง _ึง)", "เอ๊ะ! หรือว่าไปทำอะไรผิดมาแน่ๆ เลยซื้อของขวัญมากลบเกลื่อนความผิด เหอะ แหวนรุ่นนี้ยิ่งมีประเด็นอยู่ ซื้อไปกี่วงเนี่ยะ 2วงแล้วให้ใครซ้ำกับฉันไหมนี่ ขอเช็คแป๊บนะ ระแวงละ! ใครเป็นกิ๊ก หรือ เมียแอบ แสดงตัวได้นะคะ ฉันจะจ่ายหนัก ให้หนัก กว่าที่ได้จากผู้ชายคนนี้เลย"
"ใหม่-สุคนธวา เกิดนิมิตร" เปิดเผยว่า เมื่อตนได้เห็นข่าวที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ตอนนี้ ยอมรับว่าเกิดความหวาดระแวงในตัวสามี มีแอบเช็กกับคนขับรถว่าสามีไปทำงานจริงไหม แล้วก็แกล้งโพสต์ขู่ออกไป เผื่อฟลุ๊คไปโดนกิ๊กคนไหนของเขาเข้าสักคนหากเขามีจริง ๆ ซึ่งหลังจากโพสต์ไปก็มีคนทักหลังไมค์มาถามตนเยอะมากว่าเกิดอะไรขึ้น ตนก็อยากจะบอกตรงนี้เลยว่า "ยังไม่มีอะไร ตนแค่ลองหว่านแหเล่น ๆ ดู"
ทั้งนี้ ที่ตนโพสต์บอกว่าใครที่เป็นกิ๊กกับสามีตนให้บอกมาได้เลย จะจ่ายให้หนักกว่าที่เขาเลี้ยงดูอีกก็เป็นเรื่องจริง เพราะตนไม่อยากถูกหลอก ซึ่งหากรู้ก็เลิกแน่นอน ไม่มีการให้อภัย แล้วก็จะไม่มีการตบตีใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะตนเชื่อในเรื่องของธรรมะ เขาคงจัดสรรมาให้แล้ว
สำหรับข่าวเมียหลวงตามไปถึงงานแต่งงาน ตนรู้สึกว่าได้ใจมาก ถ้าหากตนเป็นแม่สามี ตนตบคว่ำกว่านี้อีก ถึงอยู่ต่อหน้าพระก็เถอะ เห็นข่าวนี้ตนก็แทบอยากจะเอาสีไปพ่นตรงประตูฝั่งข้างคนขับของรถสามีเลยว่า "รถเมียนั่ง ไม่ใช่รถเมียน้อย" คนจะได้เห็น เพราะตนรู้สึกว่าเรื่องบางเรื่องก็หยามกันไม่ได้ สุดท้ายในฐานะที่เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายคนหนึ่ง อยากจะฝากถึงบรรดาคนที่ชอบลักกินขโมยกินว่า "ผู้หญิงสวยแล้วต้องมีสมอง แล้วก็มีคุณค่า ไม่ควรดูถูกตัวเอง ไม่ควรใช้ความสวยความสามารถตัวเองไปในทางที่ผิด เวรกรรมมันตามทันไว วันนี้คุณได้ครอบครองเขา สุดท้ายคุณก็จะโดนเวรกรรมวนเวียนอยู่แบบนี้แน่นอน อย่าไปอยากได้ของ ๆ คนอื่น มันเหมือนดูถูกพ่อแม่ตัวเองด้วย เพราะคุณไม่ได้โดนด่าคนเดียว แต่พ่อแม่คุณจะโดนไปด้วย มันไม่คุ้ม"
"ธัญญ่า" ธัญญาเรศ เองตระกูล นักแสดงชื่อดัง เปิดเผยว่า สำหรับคนที่เป็นภรรยาและเป็นแม่ ซึ่งมีครอบครัว มีลูก ที่สำคัญคือยังมีทะเบียนสมรสอยู่ แต่สามีกลับไปแต่งงานกับคนอื่นหน้าตาเฉยนั้น ถือว่าแรงพอสมควร สะเทือนใจมาก ส่วนตัวจึงรู้สึกสงสารเมียหลวง และแม่สามีที่อาจจะเกิดความอับอาย รวมถึงลูกอีก 2 คน ที่ไม่แน่ใจว่าจิตใจจะเข้มแข็งมากน้อยเพียงใด สามารถรับมือกับสิ่งเกิดขึ้นได้ขนาดไหน
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าหากสามีของตนทำเช่นนี้ ก็จะเดินทางไปให้เห็นกับตาเหมือนที่เมียหลวงในข่าวทำเช่นกัน และดูจากสถานการณ์แล้วเมียหลวงถือว่ามีสติมากที่ไม่ใช้ความรุนแรง แต่กลับกลายเป็นทางแม่สามีที่ออกโรงแทน ตนมองว่าเป็นการลงโทษแก่ลูกที่กระทำความผิดอย่างหนึ่งในฐานะคนเป็นแม่ ส่วนเรื่องความรู้สึกของคนทั้ง 3 คน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายชาย เมียหลวงหรือเมียอีกคนจะยังคงรักกัน หรือหมดรักไปแล้ว ก็ควรจะคุยกันก่อน ที่สำคัญหากมองถึงความถูกต้องก็ควรจะหย่าให้เรียบร้อยร้อย ก่อนที่จะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนอื่น ในส่วนของเมียคนที่สอง เมียหลวงซึ่งเป็นภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายก็สามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนได้ "ถ้าเป็นตน ตนก็จะฟ้องเพื่อทวงคืนสิทธิของเรา"
เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัว คนอื่นไม่สามารถไปตัดสินใจแทนได้ แม้จะแท็กทีมเมียหลวงขนาดไหน ก็ควรปล่อยให้คน 2 คนคุยกันน่าจะดีที่สุด ตนในฐานะคนที่เคยผ่านเรื่องราวการเป็นเมียหลวง ก็ขอเป็นกำลังใจกับคนที่เป็นเมียหลวงให้เข้มแข็ง จะทำอะไรก็ให้นึกถึงหน้าลูกเยอ ะๆ เพราะไม่เช่นนั้นความรุนแรงอันเกิดมาจากความหึงหวงก็สามารถทำให้เกิดฆ่ากันตายได้
ด้านเฟซบุ๊กของภรรยาหลวงมีการโพสต์ถึงธัญญ่า ระบุว่า "ขอบคุณพีธัญญ่ามากๆค่ะ ไม่คิดว่าชีวิตหนึ่งจะได้รับกำลังใจจากดาราดังในดวงใจ #ทีมเมียหลวง #พี่ธัญญ่า"
