หายเข้ากลีบเมฆ! โต๊ะบอลออนไลน์ชิดรั้ว ม.ดัง ปิดร้านเผ่น-ตร.ชี้ไร้หลักฐานเอาผิดยาก (คลิป)

จากกรณีที่ รายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ทีวี 34 นำเสนอเรื่องราวการเล่นพนันทายผลฟุตบอล โดยพบว่ามีโต๊ะพนันฟุตบอลหลายแห่ง เปิดให้บริการบริเวณใกล้เคียงมหาวิทยาลัย ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น (อ่าน : อึ้ง! โต๊ะบอลกลางกรุง เปิดโจ่งครึ่ม ชิดรั้ว 2 มหา’ลัยดัง)

วานนี้ (14 มิ.ย. 61) ขณะรายการทุบโต๊ะข่าว ออกอากาศเวลาประมาณ 19.40 น. ทีมข่าวลงพื้นที่ย้อนรอยดูโต๊ะพนันดังกล่าว ซึ่งใกล้กับมหาวิทยาลัยดังย่านรัชดา พบว่าโต๊ะพนันฟุตบอลเปิดโทรทัศน์รับชมรายการทุบโต๊ะข่าว ในช่วงสกู๊ปข่าว โต๊ะบอลกลางกรุง ตอนที่ 4 “เปิดท้าทาย รอบมหาลัย มอมเมานักศึกษา” ออกอากาศ โดยขณะนั้นยังคงเปิดให้บริการตามปกติ และมีคนอยู่ภายในห้องกระจกชั้นล่างของตึก

ระหว่างนั้น ทีมข่าวพบพฤติกรรมของชายคนหนึ่ง สวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้น เดินออกมาจากห้องดังกล่าว ด้วยท่าทีกระวนกระวายคล้ายตกใจหลังจากรับชมสกู๊ปข่าว และได้โทรศัพท์พูดคุยกับใครบางคน เพื่อรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทีมข่าวได้บันทึกเหตุการณ์และจับใจความการสนทนาได้ว่า ให้รีบย้ายโต๊ะพนันออกจากตึกในช่วงขณะนี้ ซึ่งดีกว่าจะย้ายหนีตอนกลางวัน เพราะเกรงว่าทางทีมข่าวหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะแอบเข้ามาหาข้อมูลอีกครั้ง

นอกจากนี้ ทีมข่าวตามไปดูโต๊ะพนันฟุตบอล จุดที่ 2 พบว่าภายในห้องยังคงปิดเงียบ และติดป้ายด้านหน้าว่า "ปิดปรับปรุง" จากนั้นทีมข่าวสอบถามวินมอเตอร์ไซค์ใกล้กับตึกเช่า โดยได้ข้อมูลว่าโต๊ะพนันฟุตบอลย้ายออกไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ ทีมข่าวเดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยชุดตำรวจนอกเครื่องแบบ และชุดตำรวจปราบปรามสน.พหลโยธิน พาทีมข่าวย้อนกลับไปดู จุดที่มีการนำเสนอข่าว จุดแรกคือบริเวณใต้หอพัก พบว่ายังคงปิดล็อกเงียบ ไม่มีใครอยู่ โดยจากการสอบถามคนพักอาศัยและร้านค้าใกล้เคียงให้ข้อมูลตรงกันว่า ไม่มีใครอยู่ตั้งแต่ช่วงดึกที่ผ่านมา จากนั้นไปตรวจสอบจุดที่แหล่งข่าวแจ้งเบาะแส ซึ่งก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวจะมีป้ายติดเอาไว้ แต่ขณะตรวจสอบไม่พบป้าย เบื้องต้ หลังจากโต๊ะพนันบอลแห่งนี้ตกเป็นข่าว ตำรวจคาดว่าเจ้าของโต๊ะพนันเกิดความกลัวจึงย้ายหนี หรือปิดกิจการไปแล้ว ส่วนการดำเนินคดีหลังจากนี้ ตำรวจระบุว่า ภาพจากเนื้อหาสกู๊ปไม่สามารถดำเนินคดี หรือใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องเอาผิดในข้อหาจัดให้มีการพนัน ตามพ.ร.บ.พนัน กับผู้เช่าหรือเจ้าของสถานที่ดังกล่าวได้ เพราะมีน้ำหนักไม่เพียงพอ ยกเว้นจะมีผู้ร้องเรียน หรือพบเจอหลักฐาน ณ เวลาที่เข้าตรวจ จึงจะมีน้ำหนักเพียงพอต่อการตั้งข้อหา หรือเรียกให้เจ้าของเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และหลังจากนี้ตำรวจจะเข้าติดตามและตรวจสอบมากยิ่งขึ้น

จากนั้นทีมข่าวเดินทางต่อมาที่ สน.ดินแดง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพาทีมข่าวตรวจสอบโต๊ะพนันฟุตบอล ที่ติดป้ายหน้าร้านเพื่อบังหน้าไว้ว่าเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ พบว่าประตูทางเข้าติดป้ายข้อความที่เขียนด้วยมือ ระบุว่า “ปิดปรับปรุง” และประตูถูกล็อกไว้ ส่วนด้านบนยังคงติดป้ายร้านไว้เช่นเดิม ส่วนภายในไม่สามารถมองเห็นได้ เนื่องจากประตูเป็นกระจกบานทึบ

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้รับข้อมูลจากกลุ่มนักศึกษา และแม่ค้าบริเวณข้างโต๊ะสนุกเกอร์ว่า ร้านดังกล่าวปิดปรับปรุงได้ประมาณไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ ก่อนหน้าที่แหล่งข่าวจะส่งข้อมูลและภาพถ่ายมา โดยข้อมูลจากฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. - 14 มิ.ย. 61 มีการจับกุมโต๊ะพนันฟุตบอลแล้ว 2 โต๊ะ และจับผู้เล่นได้ 32 คน คือบริเวณย่านประชาสงเคราะห์ และริมถนนราชปรารภ