กรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ต่อมานายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าน้องชมพู่ ได้แสดงอาการคุกคามสื่อมวลชน จนเกิดเป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลุงพลหลังจากที่ถูกนำเข้าเครื่องจับเท็จ
กระทั่งนายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ หรือ ลุงพล ประกาศตัวว่าไม่ใช่ศิษย์ของพระพล วัดดานพระอินทร์ แต่ต่อมามีข้อมูลว่า พระพลนั้นเคยช่วยเหลือลุงพลป้าแต๋นในทุก ๆ ด้าน รวมเป็นเงินกว่า 7-8 แสนบาท
ด้านพระอาจารย์พล ให้สัมภาษณ์ผ่านอมรินทร์ ทีวี ว่า อาตมาไม่รู้ว่าทำไมลุงพลถึงออกมาปฏิเสธ หรือพูดทำนองดังกล่าว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วตนเองก็ยกให้ลุงพลเป็นลูกศิษย์
แต่ในเมื่อลุงพลเลือกที่จะพูดแบบนั้น ก็คงจะไม่ไปยุ่งเกี่ยว ต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า เพราะมีลูกศิษย์ลูกหาเคยเตือนตัวเองหลายครั้งว่าห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับลุงพล แต่ด้วยอาตมาอยากจะชี้แนะทางธรรมให้กับลุงพล จึงได้เข้าไปข้องเกี่ยว แต่สุดท้ายไม่ได้แม้แต่ความเคารพ ซึ่งอาตมาก็ไม่คิดว่าลุงพลจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
นอกจากนี้ พระพลยังได้ส่งกลอนข้อความมาให้ทีมข่าว ซึ่งฝากถึงใครบางคนว่า
"จงเตือนตน อย่าให้ใจ ใครไปทั่ว
จะหมองมัว เศร้าใจ ในภายหลัง
พูดอะไร ที่ไม่คิด ชีวิตพัง
ทั้งสติ และสตังค์ ระวังตน
อย่าคมใคร มองใคร แค่ใบหน้า
อย่าตีค่า ราคาใคร ให้สับสน
สักวันหนึ่ง จะเห็นค่า ความเป็นคน
ให้เวลา พิสูจน์ผล คนเฝ้ามอง"
ล่าสุดวันที่ 21 ก.พ.64 ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขามูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ไลฟ์สดเปิดเผยว่า ถึงแม้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่แรก แต่จากการพูดคุยกับลุงพล แล้วก็มีความมั่นใจว่าลุงพล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ของน้องชมพู่ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ตัดสินใจเป็นทนายให้กับลุงพล เมื่อพูดถึงเรื่องของค่าทนายตนยืนยันว่า ตนเข้าไปช่วยด้วยใจจริง ๆ เรื่องของเงินไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งตนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ตนยืนยันว่าไม่ได้คิดเงินค่าทนาย
เจ๊เปิ้ลสายฮา ยูทูเบอร์ที่เคยติดตามลุงพลและถอนตัวไปแล้ว ออกมาเปิดเผยว่า กรณีที่ลุงพลอ้างว่าไม่ใช่ลูกศิษย์ของพระพลนั้น ตนในฐานะที่เคยเป็นยูทูเบอร์และเห็นความเคลื่อนไหวมาตลอด กล้าพูดว่าสิ่งที่ลุงพลพูดนั้นไม่เป็นความจริง เพราะลุงพลมีความสนิทและเป็นลูกศิษย์ของพระพลตั้งแต่ช่วงแรก ๆ จนพระแต่งเพลงให้ร้อง พาไปถ่ายเอ็มวีที่อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น
โดยการถ่ายเอ็มวีนั้น พระพลก็เป็นผู้ดูแล จัดการ ควบคุม รวมถึงออกค่าใช้จ่ายให้ดังหมด ซึ่งในตอนนั้นก็มียูทูเบอร์กว่า 50 คน เดินทางไปถ่ายด้วย โดยพระพลเป็นผู้อำนวยความสะดวก จ่ายเงินเหมาปิดรีสอร์ตให้ทีมงานพัก ค่าข้าววันละ 3 มื้อ เลี้ยงหมูกะทะ ให้กับคณะลุงพลและยูทูเบอร์ทุกคน ลุงพลกับป้าแต๋นไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท ดังนั้นกรณีที่ลุงพลอ้างว่าไม่ใช่ศิษย์ของพระพลก็ไม่เป็นความจริง
เจ๊เปิ้ล กล่าวต่อว่า การที่ลุงพลอ้างว่าไม่ใช่ลูกศิษย์ ตนมองว่าลุงพลไม่รู้จักบุญคุณคน เพราะตนเห็นมาตลอดว่าพระพลให้การช่วยเหลือลุงพลมาตลอด ทั้งแต่งเพลงให้ร้อง อำนวยความสะดวกในเรื่องปั้นพญานาค ซึ่งเมื่อตนเห็นลุงพลตัดขาดสัมพันธ์พระพล ก็ไม่รู้สึกตกใจแต่อย่างใด เพราะขนาดคนที่เคยสร้างบ้านให้ซุกหัวนอน ยังไม่เคยขอบคุณคนที่สร้างบ้านให้ ซึ่งตนมองว่าลุงพลเป็นคนลืมตัว "เนรคุณ ไม่รู้จักบุญคุณคน" เขาทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม ตนอยากเตือนกับคนที่ช่วยสนับสนุนลุงพลและป้าแต๋น อย่าหวังจะได้อะไรตอบแทนจากคนทั้ง 2 คน เพราะเขาไม่เคยทำอะไรให้คนที่ทำดีกับเขา ส่วนตนนั้นรู้สึกเฉย ๆ แล้ว เพราะไม่ว่าจะดีกับเขาอย่างไร เขาก็ไม่เคยที่จะมาช่วยเหลือ ตนก็ไม่เหลือความศรัทธาแล้ว เชื่อว่าทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ได้แต่ภาวนาให้คดีจบเร็ว ๆ
บูมน้อยร้อยเอ็ด ยูทูเบอร์ที่เคยติดตามลุงพลและถอนตัวไปแล้ว ออกมาเปิดเผยว่า ถ้าลุงพลจะพูดว่าไม่ใช่ศิษย์ของพระพล ตนก็มองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อลุงพลมีงานทางศาสนา เช่น บวงสรวงสร้างพญานาค พระพลก็เดินทางมาทำพิธี เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณในการสร้างพญานาค รวมถึงที่ผ่านมาพระพลก็ให้คำสั่งสอนดี ๆ กับลุงพลมาตลอด เหมือนกับอาจารย์ที่สั่งสอนลูกศิษย์ และเมื่อมีงานสำคัญที่วัดดานพระอินทร์ ลุงพลก็จะไปร่วมงานตลอด ซึ่งตนรู้สึกสงสารพระพลมาก ๆ และคนทั้งประเทศก็คงรู้สึกไม่ต่างจากตน เพราะการที่ลุงพลประกาศว่าไม่ใช่ลูกศิษย์ ก็คงส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของพระพล เพราะท่านเคยเป็นผู้ช่วยเหลือในทุกด้าน แต่ลูกศิษย์มาทำแบบนี้ ท่านก็คงจะเสียใจ
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้เกลียดชังลุงพลและป้าแต๋น แต่ตนยอมเดินออกจากลุงพล เพราะลุงพลเลือกปฏิบัติกับคนข้างกาย และมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกในกลุ่มยูทูเบอร์ ซึ่งสุดท้ายให้สังคมเป็นคนตัดสินเรื่องทั้งหมด
บรรยากาศบ้านลุงพลในวันนี้ค่อนข้างคึกคัก เพราะลุงพลออกมาอยู่นอกบ้าน ก็มีแฟนคลับและผู้ที่เดินทางผ่านมาแวะมาถ่ายรูปคู่กับลุงพล ซึ่งลุงพลก็มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และไร้ความกังวล ขณะเดียวกันยูทูเบอร์ก็ยังใช้ชีวิตปกติ โดยเดินไลฟ์สดบริเวณหน้าบ้านลุงพล รวมถึงคอยถ่ายกิจกรรมของลุงพล อย่างไรก็ตาม ลุงพลป้าแต๋นยังคงปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
