อินโดฯ ลุยฉีดวัคซีนระยะที่ 2 ตั้งเป้า 38.5 ล้านคน ครอบคลุมแม่ค้า-ครู-ข้าราชการ

18 ก.พ. 64

"อินโดนีเซีย" ฉีดวัคซีนขนานใหญ่ ระยะที่ 2 ตั้งเป้า 38.5 ล้านคน ครอบคลุมประชากรนอกเหนือจากบุคลากรการแพทย์ อาทิ แม่ค้า ครู ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร 

สำนักข่าวซินหัว รายงาน วันนี้(18 ก.พ.64) อินโดนีเซีย เริ่มดำเนินโครงการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ขนานใหญ่ ระยะที่ 2 เมื่อวันพุธ (17 ก.พ.) ที่ผ่านมา โดยโครงการฉีดวัคซีนฯ ระยะที่ 2 มุ่งเน้นประชากรกลุ่มสำคัญ จำนวน 38.5 ล้านคน ครอบคลุมพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ผู้สูงอายุ ผู้ให้การศึกษา บุคคลสำคัญทางศาสนา ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจและทหาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นักข่าว ตลอดจนคนงานในโรงพยาบาล สำนักงานคมนาคมขนส่ง และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ญี่ปุ่น" เริ่มฉีดวัคซีนแล้ว ตั้งเป้าฉีดบุคลาากรการแพทย์ 3.7 ล้านคนใน มี.ค.
- "อนามัยโลก" อนุมัติวัคซีนแอสตราเซเนกา เตรียมกระจายให้ประเทศ "โคแวกซ์"
-
 ด่วน! "อนุทิน" เผย วัคซีน "ซิโนแวค" ถึงไทย 24 ก.พ.นี้ 
"มาเลเซีย" เตรียมฉีดวัคซีนโควิดให้ชาวต่างชาติในประเทศฟรี
กัมพูชาเริ่มฉีดวัคซีนโควิดแล้ว ลูกชาย "ฮุน เซน" ฉีดเป็นคนแรก!

โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้ร่วมสังเกตการณ์การฉีดวัคซีนให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสิ่งทอทานาห์อาบัง (Tanah Abang) ทางตอนกลางของกรุงจาการ์ตา ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนให้บุคคลในตลาดรวม 1,500 คน

“วันนี้ (17 ก.พ.) เราดำเนินการฉีดวัคซีนที่ตลาดทานาห์อาบัง ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น การจัดการภาคสนามก็ดีเยี่ยม” วิโดโดกล่าว

การฉีดวัคซีนในตลาดครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นการฉีดวัคซีนขนานใหญ่ ระยะที่ 2 ของประเทศ หลังจากการฉีดวัคซีนระยะแรก ซึ่งมีบุคลากรสาธารณสุขเป็นกลุ่มเป้าหมาย เริ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือนมกราคมและจะเสร็จสิ้นในไม่ช้านี้ วิโดโดเผยว่าการฉีดวัคซีนระยะที่ 2 จะดำเนินต่อไปในภูมิภาคอื่นๆ ถัดจากกรุงจาการ์ตา และหวังว่าจำนวนผู้รับวัคซีนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกๆ วัน 

get-75-1

โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขนานใหญ่ในอินโดนีเซียเริ่มต้นวันที่ 14 ม.ค. หลังจากวิโดโดและเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนรับวัคซีนที่พัฒนาโดยซิโนแวค ไบโอเทค (Sinovac Biotech) บริษัทชีวเวชภัณฑ์สัญชาติจีน

ปัจจุบันอินโดนีเซียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมมากกว่า 1.2 ล้านราย นับตั้งแต่การระบาดใหญ่อุบัติขึ้นในประเทศเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน และผู้ป่วยเสียชีวิตมากกว่า 33,500 ราย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม