ไดโนเสาร์คัมแบ็คที่แท้ทรู สำหรับ
Jurassic World: Fallen Kingdom จูราสสิค เวิลด์: อาณาจักรล่มสลาย ที่พึ่งสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ทุบสถิติรายได้ให้กับแฟรนไชส์ หลังจากภาพยนตร์เข้าฉายในไทยเมื่อ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยสามารถทำรายได้รวม .150 ล้านบาท (เฉพาะกรุงเทพฯและเชียงใหม่) ในเวลาเพียง 4 วันหลังจากเปิดฉาย และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ใม่กี่เรื่องที่ทำรายได้ผ่านหลัก 100 ล้านในเวลาแค่ 3 วัน ส่งผลให้ Jurassic World: Fallen Kingdom จูราสสิค เวิลด์: อาณาจักรล่มสลาย เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ในสุดสัปดาห์เปิดตัวสูงสุดในตระกูลภาพยนตร์
Jurassic Park อีกทั้งยังเป็นอันดับสองของภาพยนตร์จาก
Universal Pictures ในประเทศไทย เป็นรองเพียง
Fast and Furious7 และครองตำแหน่งภาพยนตร์รายได้เปิดตัวสูงสุดในเดือนมิถุนายนของไทย
เมื่อเทียบกับรายได้รวมจากทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ 151.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท รายได้ของ Jurassic World: Fallen Kingdom จูราสสิค เวิลด์: อาณาจักรล่มสลาย ในไทย อยู่ในอันดับ 10 จาก 48 ประเทศทั่วโลก ที่ภาพยนตร์ออกฉายในสัปดาห์เดียวกัน ซี่งสะท้อนให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้ชมชาวไทย และ การเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศไทยที่อยู่ในแถวหน้าของประเทศในเอเซีย
คุณปัณณทัต พรหมสุภา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด หรือ ยูไอพี ประเทศไทย กล่าวว่า “Jurassic Park เป็นภาพยนตร์ที่คนไทยและทั่วโลก มีความผูกพันกันมายาวนาน ส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น และปีนี้ นับว่าเป็นโอกาสพิเศษสำหรับแฟน ๆ เพราะแฟรนไชส์จูราสสิคครบรอบ 25 ปี นับจากออกฉายครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2536 ล่าสุด Jurassic World: Fallen Kingdom ได้เข้าฉายในไทยตั้งแต่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา เราจึงได้เห็นภาพของผู้ชมในหลายช่วงอายุโดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และได้รับการสนับสนุนจากผู้ชมที่ห่างหายไปจากการชมภาพยนตร์ในโรงมาเป็นเวลาหลายๆปี มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้กับแฟรนไชส์และวงการภาพยนตร์ โดยที่ภาพยนตร์ยังคงเดินหน้าสร้างสถิติใหม่ๆ ต่อไป ผมขอขอบพระคุณ แฟน ๆ ภาพยนตร์จูราสสิคทุกท่าน รวมทั้ง พาร์ตเนอร์ผู้สนับสนุนจัดแคมเปญส่งเสริมการขายร่วมกับภาพยนตร์ อีกทั้งเครือโรงภาพยนคร์ทุกๆเครือ ที่ร่วมสร้างปรากฏการณ์ให้กับภาพยนตร์อันเป็นที่รักและผูกพันกับคนไทยเรื่องนี้ รวมทั้งการร่วมสร้างสถิติใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยในครั้งนี้ด้วยครับ”
