เข้าพิธีวิวาห์เป็นที่เรียบร้อย สำหรับคู่ของ นักแสดงสาว "จ๊ะจ๋า พริมรตา" และนักร้อง-นักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่ "จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว” ล่าสุดฝ่ายชายเปิดใจถึงโมเม้นต์เหินฟ้าจดทะเบียนสมรส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หรูหรา! "จิ๊บ-จ๊ะจ๋า" วิวาห์สุดไพรเวท จดทะเบียนสมรสบนเครื่องบินส่วนตัว
- จ๊ะจ๋า-พริมรตา" ควง "จิ๊บ-วสุ" หอบเอกสารแจ้ง ปอท.หลังโดนมือดีแฮกไอจี
- “จ๊ะจ๋า พริมรตา” เตือนคนดังระวังไอจีปลิว รับ ยังหาทางออกงานแต่งไม่ได้
จิ๊บ วสุ เปิดใจหลังควง "จ๊ะจ๋า พริมรตา" นั่งเครื่องบินส่วนตัวไปจดทะเบียนสมรสกันที่หัวหิน ว่า หลังจากที่ต้องเลื่อนมาหลายรอบแล้ว ก็เห็นว่า 14 ก.พ. สำหรับผมคือวันที่คุณพ่อคุณแม่ผมจดทะเบียนแต่งงานกัน ซึ่งในสมัยนั้นมันยังไม่มีวันวาเลนไทน์เลย จึงนำมาเป็นฤกษ์ที่ดีสำหรับเรา
ส่วนเลข 29 คือเลขวันเกิดของผม และจ๊ะจ๋า จึงนำมาเป็นฤกษ์จดทะเบียนของเราทั้งคู่คือ 14.29 น. ซึ่งเราจดกันบนเครื่องบินเลย อย่างไรก็ดี ถามว่าเคยมีการจดทะเบียนเหินฟ้าแบบนี้ไหม ส่วนตัวไม่รู้เหมือนกัน แต่จากการสอบถามนายทะเบียนเขาก็บอกว่าไม่เคยมีมาก่อน แต่ที่เราทำเพราะสถานการณ์มันก็บังคับครับ จากเหตุโควิด-19
ทั้งนี้ สิ่งแรกที่ผมกับจ๊ะจ๋าคุยกันเลยคือ เราตั้งใจจะจัดงานแต่งให้เกิดขึ้นแน่ๆ แต่ต้องมีการรับผิดชอบต่อสังคม ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้ได้มากที่สุดดีที่สุด ก็ต้องมาหาสถานที่ที่เราควบคุมได้มากที่สุด ญาติผมราว 10 คน ทีมงาน กัปตัน แอร์โฮสเตส ผมขอให้มีการตรวจโควิด-19 เพื่อความมั่นใจ เรียกว่ายกการ์ดสูงที่สุดครับ
สื่อถึงเราทั้งคู่ที่รักการเดินทางทั้งคู่ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เราเดินทางไปไหนไม่ได้เลย มันก็เป็นงานที่ระลึกขึ้นมาถึงบรรยากาศดีๆ ก็บินกันในประเทศแทน อีกทั้งยังลิงก์กับเพลง Top of the World ที่จ๊ะจ๋าชอบอีกด้วยก็ถือว่าเรียบง่ายที่สุด
วินาทีที่จดทะเบียน จ๊ะจ๋า ก็น้ำตาไหล แม้ว่าจะมีการเตรียมใจมาก่อนก็ตาม เรียกว่า โมเม้นต์นี้ก็มีงงนะ แต่โชคดีที่ผมจดรายละเอียดไว้หมดเลย ซึ่งก็มีช็อตที่เขาก็หันมาถามผมนะว่า "หนูไม่โสดแล้วใช่ไหมคะ, ตกลงหนูไม่ใช้นางสาวแล้วใช่ไหมคะ" ก็บอกให้ดูกระดาษที่เธอเซ็นต์แล้วกัน
คำมั่นสัญญาที่สำหรับผมเชื่อว่า "การกระทำส่งเสียงดังกว่าคำพูด" คนเราจะพูดอะไรก็ได้ จะล่วงหน้าไป จะลอยลมอะไรได้หมด แต่ผมไม่ได้พูดอะไรมากมายแต่ผมทำ หลายปีที่ผ่านมา ผมมั่นใจว่าผมแสดงให้จ๊ะจ๋า และครอบครัวทั้งสองฝ่ายเห็นว่า เราตั้งใจและเราจริงใจ ทำดีที่สุดในทุกครั้งทุกเวลา ซึ่งมันก็กลับมาย้อนยืนยันได้เองโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรมาก
แพลนเรื่องทายาท เป็นสเตปที่ต้องค่อยๆ คุยกัน แม้ว่าเราจะพร้อมกันหมดก็ตาม แต่โลกจริงๆ ก็อยู่ไม่ง่าย การจะมีสมาชิกใหม่มันมีสิ่งที่ต้องคิดเพื่อเยอะ ไม่ได้จะปฏิเสธแต่รอคุยกันก่อน ตอนนี้ปรับโหมดการอยู่เป็นครอบครัวให้ดีที่สุดก่อน ส่วนเรื่องการปรับตัวนั้น เราคบหากันมาหลายปีแล้ว ความไว้วางใจ ความมั่นใจ ก็ผ่านบทพิสูจน์มาตลอด ที่ผ่านมาก็ขอบคุณที่เขาเชื่อมั่นไม่ปล่อยมือกัน จนเดินทางมาถึงวันนี้ได้.
