ลือสะพัดจับคดีชมพู่มี 3 คน ซี้ลุงพลยันขึ้นเขาแค่หาเด็ก เครียดถูกสอบซ้ำเมียทิ้ง (คลิป)

16 ก.พ. 64

กรณีนายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าน้องชมพู่ ได้แสดงอาการคุกคามสื่อมวลชน จนเกิดเป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลุงพลหลังจากที่ถูกนำเข้าเครื่องจับเท็จ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

910812

ภายหลังจากคดีน้องชมพู่เกิดขึ้นผ่านไปกว่า 9 เดือน ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย ซึ่งทำให้ชาวบ้านกกกอกได้มีเวลาทบทวนหลาย ๆ อย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ และพฤติกรรมของบางบุคคลที่กระทำในช่วงก่อนและหลังช่วงที่น้องชมพู่หายไป

ล่าสุดวันที่ 16 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพบกับ นายหว่าง ปู่ฝ้าย ชาวบ้านออกกอก หนึ่งในคนที่ขึ้นเขาภูเหล็กไฟในวันที่ 12 พ.ค.63 ช่วงเวลา 17.00-21.00 น. กับนายคล้าย และลุงพลนั้น

443249

นายหว่าง เปิดเผยว่า ตนเคยขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟวันที่ 12 พ.ค.63 หลังวันที่น้องชมพู่หาย โดนได้ไปพร้อมกับลุงพล และนายคล้าย ซึ่งวันดังกล่าว ได้ขึ้นไปที่ห้วยบุ่ง ตัดไปที่หลังเขา แวะพักที่อ่างกบ 15 นาที ซึ่งตอนนั้นเริ่มมืดแล้ว ต้องใช้ไฟส่องกบสำหรับเดินตามหาน้องชมพู่ แต่ช่วงที่แวะอ่างกบ ไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ตามที่มีชาวบ้านได้ยิน รวมถึงไม่เจอชาวบ้านมาหากบอยู่บริเวณดังกล่าวเช่นเดียวกัน หลังจากแวะพัก ก็ได้ขึ้นไปบนเขาจุดพบศพ เดินหาตามซอกหิน และถ้ำน้อยใหญ่ เดินตัดลงมาที่หลังบ้านน้องชมพู่

cg_26

แต่ในวันดังกล่าว นายคล้าย ลุงพล ได้พาไปดูถ้ำต่าง ๆ หลายจุด แต่ตนไม่รู้ว่าแต่ละถ้ำมีชื่อว่าอะไร แล้วทำไหนเรียกว่าถ้ำน้ำลอด กระทั่งมารู้ตอนหลังจากที่ออกข่าว แต่ในระหว่างที่กลุ่มของตนแวะพัก หรือสำรวจตามถ้ำบนเขาภูเหล็กไฟ ก็จะมีลักษณะอยู่กันเป็นเกาะกลุ่ม ไม่ได้มีเดินแยกหรือหายไป ที่สำคัญในวันนั้นก็ไม่ได้มีสัมภาระอื่น เช่น กระสอบหรือเด็ก มีเพียงกระเป๋าเป้สะพายหลังของนายคล้าย ซึ่งใส่น้ำดื่มเอาไว้ 1 ใบเท่านั้น แล้วก็ไม่สังเกตความผิดปกติของคนในกลุ่ม เพราะไม่ได้มีอะไรผิดแปลกนอกจากออกไปตามหาเด็ก

714646

ดังนั้นหากถูกตั้งข้อสังเกต หรือถูกสังคมจับตามองว่า แอบขึ้นไปบนเขาเพียงลำพัง ในช่วงกลางคืนของวันที่ 12 พ.ค.63 และยังมีลุงพลร่วมอยู่ด้วยนั้น นายหว่าง บอกว่า ตนไม่ได้มีความกังวล เพราะในวันดังกล่าวเป็นเพียงแค่การค้นหาน้องชมพู่ ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรู้เห็น และไม่ได้นำสิ่งของอะไรไปซุกซ่อนตามที่ถูกตั้งข้อสังเกต เพราะที่ผ่านมาได้ให้ข้อมูลและให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว

840918

ส่วนกรณีที่หลังจากค้นหาน้องชมพู่เจอแล้ว ช่วงวันที่ 30 พ.ค.63 ตนได้หนีไปบวช แล้วถูกมองว่าเป็นการหนีคดีหรือมีความผิดนั้น นายหว่าง บอกว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตนมีปัญหาในครอบครัว โดยทะเลาะกับภรรยาที่จะลงไปทำงานในกรุงเทพฯ ด้วยปัญหาดังกล่าวแก้ไขไม่ได้ตนจึงได้ตัดสินใจไปบวชเพื่อนหนีปัญหา แต่ช่วงที่บวชก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปสอบปากคำทุกวัน พร้อมยังขอให้ตนมอบตัว “มอบตัวซะ” แต่ตนก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำและไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะการบวชเป็นเพียงแค่บวชมีปัญหาครอบครัวเท่านั้น

จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีปัญหากับภรรยา เพราะล่าสุดเมื่อวานนี้ ภรรยาเพิ่งจะหนีไปกรุงเทพฯ ตนก็ต้องเลี้ยงลูก 3 คนเพียวลำพัง จึงทำให้ช่วงนี้ค่อนข้างเครียดพอสมควร พร้อมทั้งอยากจะฝากผ่านสื่ออัมรินทร์ทีวี ว่า “ขอให้แฟนสาวกลับมาอยู่บ้าน มาช่วยกันเลี้ยงลูก ไม่มีใครรักเท่าคนในครอบครัว” และหากครั้งนี้ตนยังแก้ปัญหาในครอบครัวไม่ได้ ก็คงจะตัดสินใจบวชอีกครั้ง หรือไม่ก็ต้องพึ่งยาพาราเพื่อหาทางออก

938465

บรรยากาศบ้านลุงพลในวันนี้ยังคงเงียบเหงา เพราะลุงพลป้าแต๋นก็ยังคงเก็บตัวอยู่ในบ้าน ไม่ได้ออกมาข้างนอกมากนัก ทำให้สื่อมวลชนที่เฝ้ารอไม่สามารถที่จะเข้าไปพูดคุยได้ ขณะเดียวกันยูทูเบอร์ก็ยังใช้ชีวิตปกติ โดยมีการเดินไลฟ์สดตลอดเวลาที่บริเวณรูปปั้นพญานาค ส่วนศาลเจ้าแม่ตะเคียนและรูปปั้นพญานาค ก็ไม่มีชาวบ้านมากราบไหว้เหมือนเมื่อก่อน

สำหรับความเคลื่อนไหวของลุงพลป้าแต๋นในวันนี้ ทั้งคู่ยังคงเก็บตัวอยู่ในบ้าน และในช่วงเวลา 09.00 น. ทีมข่าวเห็นป้าแต๋นยืนอยู่หลังบ้าน โดยทำงานบ้านแต่ไม่ยอมออกมาข้างนอก

เวลา 15.00 น. ลุงพลได้ออกมาไลฟ์สดสินค้าโดยมียูทูเบอร์คอยถ่ายภาย แต่ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพ และในช่วงเย็นทั้งลุงพลป้าแต๋นยังอยู่ในบริเวณบ้าน และไม่ออกมาข้างนอก เพราะยังมีสื่อยังเฝ้าอยู่ในละแวกใกล้เคียง

167973

ขณะที่พระอาจารย์เดือนชัย ธมฺวิจโย, หลวงปู่ดาร์กี้ ปุญญาวชิโร, หลวงปู่ประทุม โกมุโทมา สำนักสงฆ์ตลุกยาง บ้านตลุกยาง ต.หนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย ประธานฝ่ายสงฆ์พระครูถาวร ธรรมนิเวศ (พระครูกิตติมศักดิ์) ประธานฝ่ายฆราวาส พลเอกเสริมศักดิ์ วิเศษไชยศรี ประธานสมาคมธุรกิจอาเซียน และประธานสมาคมชาวอีสาน นายสายันต์ แสนสุข เจ้าของกิจการบัวใหญ่หลังคาเหล็ก ร่วมจัดงานปลุกเสกหุ่นปั้นไอ้ไข่ ที่สำนักสงฆ์ตลุกยาง ต.หนองแจ้งใหญ่ อ.บัวใหญ่

โดยประชาชนที่มาร่วมงานปลุกเสกต่างมุงดูน้ำตาเทียนในบาตรน้ำมนต์ หลังจากที่หลวงปู่เดือนชัยประกอบพิธีเสร็จสิ้น ว่าทุกคนต่างมองเห็นเป็นตัวเลข 1764 ซึ่งตรงกับเลขทะเบียนรถ ที่หลวงปู่เดือนชัยนั่งมา สามารถสร้างความประหลาดใจ ฮือฮา กับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

529150

ภายในงาน เปิดให้ประชาชนได้บูชารูปหล่อ เหรียญ และวัตถุมงคลอื่น ๆ ที่ปลุกเสกแล้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลในการค้าขาย ทั้งนี้มีการให้บูชา "ไอ้ไข่" 3 รุ่น ได้แก่ รูปหล่อขนาด 9 นิ้ว บูชา 999 บาท เหรียญขนาดกลางบูชา 199 บาท และเหรียญเล็กบูชา 99 บาท โดยรายได้จากการบูชาทั้งหมดจะนำไปสร้างศาลาพักศพ และเมรุเผาศพในวงเงินกว่า 1 ล้านบาท ให้กับชาวบ้านบ้านตลุกยาง และพัฒนาสำนักสงฆ์ต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส