ความคืบหน้า กรณีพ่อแม่สุดช้ำติดป้ายประจานลูกชาย-สะใภ้ ล่าสุดลูกสะใภ้ยอมถอนฟ้อง 1 คดี ส่วนพ่อแม่ชนะคดีเรียกทรัพย์สินคืน อยู่ระหว่างรอการอุธรณ์ วอนอยากให้ลูกกลับมาพูดคุยกัน พร้อมให้อภัยและจะจัดสรรที่ดินคืนให้ลูกทุกคนอย่างเป็นธรรม
ที่จังหวัดอุทัยธานี จากกรณีนายจิว อายุ 84 ปี ติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ใส่ภาพตนเองและภรรยาไว้ที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาลานสักจังหวัดอุทัยธานีพร้อมข้อความว่า "ความยุติธรรมมีจริงที่ดินและปั๊ม ปตท.ลานสักเป็นของนายจิว-นางน้อย (พ่อ-แม่) ลูกเนรคุณ-สะใภ้ไม่มีสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น" เป็นการประจานลูกชายและลูกสะใภ้ ที่มาเรียกเก็บค่าเช่าที่ทั้งที่เป็นกิจการของตนเอง และได้ทำการฟ้องเรียกทรัพย์สินคืนทั้งหมดจากลูกชาย ซึ่งศาลชั้นต้นให้ฝ่ายพ่อแม่เป็นชนะคดีได้ทรัพย์กลับคืนมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พ่อแม่ขึ้นป้ายประณาม "ลูกชาย-สะใภ้" เนรคุณเก็บค่าเช่าปั๊มที่สร้างมากับมือ
ล่าสุดในวันนี้ (16 ก.พ.) นายจิวและนางน้อย ผู้เป็นภรรยา พร้อมกับนายสมศักดิ์ ถนอมวาจามั่น ทนายความส่วนตัวได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดอุทัยธานี กรณีที่ลูกสะใภ้ได้ยื่นฟ้องขับไล่ให้นายจิวออกจากปั๊มน้ำมัน โดยวันนี้ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ แต่ทางด้านโจทก์ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ไม่ได้เดินทางมาในวันนี้ โดยมอบหมายให้ทนายฝ่ายโจทก์มาดำเนินการทางด้านคดีแทน
นายสมศักดิ์ ทนายความส่วนตัวของนายจิวได้เปิดเผยว่า กรณีที่ลูกสะใภ้ฟ้องขับไล่นายจิว ทางทนายได้รับมอบหมายให้ยื่นคำร้องต่อศาลขอถอนฟ้องกรณีขับไล่ออกไป ซึ่งคดีทั้งหมดที่ฟ้องร้องกันมีแนวโน้มว่าจะถอนคดีทั้งหมด ทั้งคดีฟ้องขับไล่ ฟ้องเลิกห้างหุ้นส่วนปั๊มลานสักพรทวี ส่วนคดีที่นายจิวได้ฟ้องลูกชายลูกสะใภ้เรียกทรัพย์สินคืน นายจิวเป็นฝ่ายชนะคดี อยู่ระหว่างในชั้นอุทธรณ์และอยู่ที่ศาลกรุงเทพ และจำเลยที่เป็นฝ่ายลูกสะใภ้ได้ขอขยายเวลาอุทธรณ์ มีกำหนดสิ้นสุดการยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ และหากว่าไม่มีการยื่นอุทธรณ์ก็ถือว่าคดีนั้นสิ้นสุดไป
ทางด้านนายจิวเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มาขึ้นศาลได้รับแจ้งจากทนายไว้ว่าจะมีการถอนคดีทั้งหมด แต่ทางลูกสะใภ้ก็ถอนเพียงคดีเดียวคือคดีขับไล่ แต่คดีเกี่ยวกับบริษัทนั้นยังไม่ยอมถอนให้ โดยยังไม่รู้เจตนาของลูกสะใภ้ อยากให้ลูกชายและลูกสะใภ้ได้กลับมาคุยกันด้วยดีระหว่างพ่อกับลูกแต่ก็ยังไม่ยอมมาคุย และตั้งแต่ขึ้นป้ายและเป็นข่าวขึ้นมาก็ยังไม่เคยมาคุย รวมทั้งก่อนหน้านี้เป็นเวลา 2 ปีกว่าโดยไม่เคยเห็นหน้าไม่เคยติดต่อกันเลย อยากให้มาคุยกันดีๆ เพื่อจะให้เรื่องจบๆ กันไป และด้วยความที่เป็นพ่อและแม่นั้นก็คิดให้อภัยลูกตทุกอย่าง ขอให้มาคุยกันอย่างเดียวเท่านั้น สายเลือดเดียวกันทิ้งกันไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องสมบัติถ้าคดีสิ้นสุดไม่มีการยื่นอุทธรณ์ก็พร้อมที่จะจัดสรรปันส่วนให้ลูกใหม่อย่างความเป็นธรรมและเท่าเทียมกันทุกคน
