จ่าทหารปืนโหดยิงเพื่อนวงเหล้าดับ ญาติคาใจหนีซุกค่าย อ้างสำนึกผิดแต่ไม่มอบตัว (คลิป)

กรณีเมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 12 ก.พ.64 พ.ต.ท.อำนาจ ศรีสุวรรณโน สว.สอบสวน สภ.รัษฎา จ.ตรัง ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันภายในร้านขายของชำ หมู่ 5 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อนายเอกธวัฒชัย ชูบุญศรี หรือ อ๊อด อายุ 39 ปี ชาว อ.รัษฎา จ.ตรัง นอนหงายเสียชีวิต สภาพศพสวมเสื้อกล้ามสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น แพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบมีบาดแผลโดนยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่บริเวณไหล่ซ้าย จำนวน 1 แผลกระสุนฝังใน

ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่ จำนวน 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนก่อเหตุ ทราบชื่อคือ จ่าพันธ์ กะปาง หรือ จ.ส.อ.ปฐมภพ หรือ ประพันธ์ นมจันทร์ อายุ 58 ปี ชาว ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง รับราชการทหาร ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อจะเตรียมออกหมายจับต่อไป

ล่าสุดวันที่ 12 ก.พ.64 น.ส.สาวิตรี ชูบุญศรี อายุ 41 ปี ชาวต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง ซึ่งเป็นพี่สาวของนายเอกธวัฒชัย ผู้ตาย บอกว่า น้องชายตนไม่เคยมีปัญหากับใคร ใช้ชีวิตอยู่แต่ที่บ้าน และหากจะออกจากบ้านก็จะมานั่งกับเพื่อนคนดังกล่าวเป็นประจำ เพราะเคยเปิดร้านขายสเต็กด้วยกัน

ส่วนกับคนร้ายก็ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่ผู้ตายชอบออกมานั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนที่บ้านเพื่อนเป็นประจำ และกำลังจะเริ่มทำร้านขายสเต็กกันที่ใหม่ ส่วนสาเหตุตนคิดว่าไม่น่าจะมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน น้องชายก็จะต้องระวังตัว แต่คิดว่าน่าจะเกิดจากอาการเมากันทั้งคู่ และอาจจะมีปากเสียงกันแล้วลงมือยิงหรือไม่ ส่วนคนร้ายคนนี้เป็นคนที่มีจิตใจโหดร้าย ไปนั่งกับใครที่ไหนก็มีปัญหากับเขาไปทั่ว ก็อยากให้เข้ามอบตัวมาสู้คดี แต่ในส่วนของครอบครัวก็จะดำเนินคดีให้จนถึงที่สุด

นายประพิน ชูบุญศรี อายุ 68 ปี พ่อผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นคนพูดดี ไม่เคยก้าวร้าวกับใคร ที่ผ่านมาก็ไม่เคยสุงสิงกับผู้ก่อเหตุ เมื่อเจอกันก็พยักหน้าทักทายกันแล้วเดินผ่านไป ไม่เคยพูดคุยและไม่เคยนั่งร่วมกัน ส่วนผู้ก่อเหตุช่วงหลังเมื่อ 1-2 ปีเริ่มติดสุรา เมื่อเมาก็ชอบยิงปืนขู่ แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องโกรธแค้นอะไรมาก่อน

ก่อนเกิดเหตุนั้น ผู้ตายได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อนที่ร้านขายของชำ ผู้ก่อเหตุกลับมาจากค่ายทหาร สวมชุดทหาร มายังร้านเมื่อเห็นผู้ตายและเพื่อนจึงเดินเข้าไปในร้าน โดยผู้ตายและเพื่อนก็ได้ชวนผู้ก่อเหตุดื่มสุราด้วยกัน แต่ผู้ก่อเหตุตอบกลับมาว่า “ไม่กงไม่กิน” ผู้ก่อเหตุจึงยิงทันที ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ตนก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่ตนมองว่าเกิดจากที่ผู้ก่อเหตุขาดสติ

ก่อนหน้านี้ผู้ตายมีอาชีพขายสเต็ก และได้หยุดขายไป ตนตั้งใจจะสร้างร้านใหม่ให้ลูกชายขายสเต็ก วันนี้ตนเริ่มเตรียมเพื่อจะสร้างร้านให้ แต่มาเกิดเหตุดังกล่าวก่อน ส่วนตัวแล้วตนไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอยากให้ตำรวจจับคนร้ายมาให้ได้ ตนก็ขออโหสิกรรมให้ แต่ขอให้ติดคุกอย่างเดียว แต่จะไม่ขอจองเวร ไม่ต้องมาขอขมา ไม่อยากเจอหน้า แต่หากจะสู้คดีเพื่อให้หลุด ตนก็จะขอสู้ให้ถึงที่สุด ส่วนตัวรู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนหัวหมอ แต่ตนก็ไม่ได้กลัวอะไร ไม่ได้สนใจอะไร เพราะรู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นอย่างไร 

ขณะเดียวกัน วันนี้ได้พบกระสุนสภาพสมบูรณ์ตกอยู่ที่เกิดเหตุ จำนวน 1 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งสอบพยานที่เกิดเหตุเพิ่มเติม 1 ปาก ขณะที่ พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.รัษฎา ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง ตรวจสอบเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้กำลังใจกับเจ้าของร้านของชำ

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปทางผู้บังคับบัญชาของผู้ก่อเหตุ เพื่อขอตัวมาสอบปากคำแล้ว และขณะเดียวกันทราบว่ามีนักการเมืองท้องถิ่นที่มีความสนิทสนมกับ จ่าพัน กะปาง จะพาเข้ามอบตัวเพื่อสู้คดีในวันที่ 15 ก.พ.64 

นอกจากนี้ ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับ น.ส.พิมล (นามสมมติ) อายุ 33 ปี น้องสาวของนายเอกธวัฒชัย ชูบุญศรี หรืออ๊อด อายุ 39 ปี บอกกับทีมข่าวว่า พี่ชายตนถูกยิงตายทั้งที่ยังไม่รู้สาเหตุอะไรเลย ก่อนที่พี่จะเสียชีวิตตนกับพี่นั่งคุยกันว่า จะเปิดร้านอาหารด้วยกัน เตรียมลงเสาเอกเปิดร้านวันนี้ แต่พี่มาถูกจ.ส.อ.ปฐมภพ ยิงตายเมื่อคืนเสียก่อน โดยไม่มีลางบอกเหตุอะไรให้เตรียมใจแม้แต่น้อย

ส่วนเมื่อวานนี้ พี่ชายได้ไปร่วมงานแต่งงาน ก่อนจะแวะกินเหล้ากับเพื่อนสนิทที่บ้านอีกหมู่บ้านจนมาถูกยิง ส่วนคนก่อเหตุไม่ใช่เพื่อนร่วมวงเหล้าตามที่เป็นข่าว แต่ขี่รถไปและตั้งใจไปยิงพี่ชายของตน ตอนนั้นพี่ตนกินเหล้าอยู่กับเพื่อน 2 คน แต่คนก่อเหตุไปเมามาจากไหนไม่รู้ ถึงมาทำกันแบบนี้ ตนอยากถามว่า "ทำพี่ตนทำไม ทำไมต้องเอาชีวิต ไม่พอใจอะไรคุยกันด่ากันก็ได้ ทุกคนงงมาก" 

ทั้งนี้ จ.ส.อ.ปฐมภพ คนก่อเหตุ เป็นคนในละแวกบ้าน ไม่เคยคุยกัน และได้ยินว่าญาติพี่น้องคนก่อเหตุ ก็ไม่นับญาติ ตนก็ได้ยินมาแบบนี้ และเท่าที่ทราบคนก่อเหตุชอบเมาเหล้าอาละวาดอยู่บ่อยครั้ง ส่วนทางคดีกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคนก่อเหตุเป็นทหาร แต่ก็หวังว่าตำรวจจะช่วยเร่งคดีให้ กลัวพี่ชายจะตายฟรี พี่ตนเป็นเสาหลักให้พ่อแม่ เป็นลูกชายคนเดียว แต่มาเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นเสียก่อน สุดท้ายตนอยากให้มามอบตัว มารับผิดกับสิ่งที่ทำ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากมามอบตัว ไม่ต้องการให้มาขอขมา อยากให้ติดคุก ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตนไม่ยอม ไม่ให้อภัย ต่อให้มาขอขมาก็เอาพี่ชายคืนมาไม่ได้แล้ว ตนโกรธคนก่อเหตุมาก ไม่สมควรได้รับการให้อภัย