ห้าวเกินเบอร์! คนขับบรรทุกเล่านาทีเจอเก๋งปาดหาเรื่องเบรกให้ชน คาดเมา (คลิป)

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์ข้อความระบุว่า "ถอยได้ถอย คิดถึงหน้าลูกเอาไว้ อย่าไปมีเรื่องกับคนเมา# หัวร้อน" พร้อมกับคลิปวิดีโอที่มีผู้ใช้รถมีอาการคล้ายคนเมา ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า บริโอ้ สีฟ้า ขับรถปาดหน้ารถบรรทุก 6 ล้อ พร้อมทั้งพยายามเบรกให้รถบรรทุกชนท้าย ก่อนลงมาด่าทอ เหตุเกิดตรงบริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 5

วันที่ 10 ก.พ. 64 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ซึ่งพบว่าเป็นถนน 6 เลน นายสุรี หล้าดวงดี อายุ 43 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า วานนี้ช่วงกลางดึก ตนได้ขับรถบรรทุก 6 ล้อ บรรทุกเกี่ยวกับกล่องกระดาษจะเอาไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.ปราจีนบุรี โดยขับมาจากถนนเส้นเพชรเกษม ด้วยความเร็ว 60-70 กม./ชม. ขับมาถึงถนนเส้นพุทธมณฑลสาย 5 ตนได้มองกระจกหลัง ขณะนั้นมองซ้ายมองขวาแล้วไม่มีรถ จึงขับไปเลนขวา ขับมาได้สักระยะจนถึงหน้าหมู่บ้านสิวารัตน์ เหมือนมีรถเก๋งเปิดสัญญาณไฟสูงกำลังจะแซง ขณะนั้นตนไม่สามารถหลบไปทางเลนซ้ายให้ได้ เนื่องจากมีรถจักรยานยนต์อยู่

กระทั่งถึงหน้าวัดเพลินเพชร รถเก๋งคันดังกล่าวได้ปาดหน้ารถของตน จากนั้นได้เหยียบเบรกให้ตนชนท้ายรถของเขา ซึ่งกระทำประมาณ 2 ครั้ง ตนเห็นเหตุการณ์ไม่ค่อยดี จึงบีบแตรรถลากยาว ยอมรับว่าขณะนั้นทางคู่กรณีก็คงจะไม่พอใจ ตอนหักไปเลนซ้าย ทางคู่กรณีก็หักไปเลนซ้ายตาม จากนั้นก็ทำพฤติกรรมแบบเดิม ขับรถปาดหน้าและเหยียบเบรก พยายามให้ตนนั้นชนท้ายให้ได้

ต่อมาตนได้เปลี่ยนเลนไปทางขวา ซึ่งวินาทีนั้นตน และคู่กรณีขับรถคล้ายงูคดเคี้ยวไปมา กระทั่งเกือบถึงตลาดเสรี ตนได้ตัดสินใจยกกล้องโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายพฤติกรรมของชายรายดังกล่าว จึงเกิดเหตุการณ์ที่ปรากฏอย่างในคลิปวิดีโอ ภายหลังตนได้จอดรถทางคู่กรณีได้ลงรถมา 2 คน ซึ่งเป็นเพศชายเดินปรี่มาที่รถของตนมีการพูดจาด่าทอ พยายามให้ตนนั้นลงไป ด้วยความที่ตนกลัวจึงล็อกรถ และหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกไว้ อีกฝ่ายพยายามเปิดประตู แต่ไม่สามารถเปิดประตูได้ เขาจึงได้ตัดสินใจกลับมาด่าทอตน ด่าบุพการี ก่อนที่ทางเพื่อนของคู่กรณีจะบอกให้ตนนั้นหยุดถ่ายคลิปวีดีโอ และยกมือไหว้ขอโทษเพื่อให้เรื่องมันจบ เพื่อนคู่กรณีนั้นอยู่ในสภาพที่เมาเหมือนกัน แต่ก็ยังมีสติ และตนต้องขอขอบคุณที่เขาช่วยให้ตนนั้นใจเย็นลง ตนจึงได้ยกมือไหว้ขอโทษ แต่ทางคู่กรณีก็ยังไม่หยุดที่จะด่าทอ หลังจากนั้นตนถอยรถออกมาและขับหนีออกไป แต่คู่กรณีก็ขับตาม ต่อมาก็ได้หายไป

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้ยั่วโมโหฝั่งคู่กรณี หนำซ้ำยังต้องระงับอารมณ์ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง นอกจากนี้ภายหลังจากเกิดเหตุตนคาดว่าคู่กรณีของตนนั้นน่าจะอยู่ในอาการที่มึนเมาสุรา เนื่องจากดูท่ายืนที่ไม่มั่นคง พร้อมกับพูดจาไม่รู้เรื่อง