กระดูกปริศนาโผล่ใต้เมรุ พระอึ้งเข้าฝันขอให้ช่วย สัปเหร่อปัดซุกกระดูกผีทำคุณไสย (คลิป)

กรณีวันที่ 8 ก.พ. 64 เวลา 19.30 น. พ.ต.ท.สุทัศน์ สอนเหง้า สว.(สอบสวน) สภ.หนองแค รับแจ้งจากพระลูกวัดเกาะกลาง ต.หนองแค อ.หนองแค จ.สระบุรี ว่ามีผู้พบโครงกระดูกมนุษย์ ถูกบรรจุไว้ในถุงปุ๋ย วางไว้อยู่บนรถเข็นผู้ปาวยวีลแชร์ ซุกซ่อนอยู่ใต้ถุนเมรุเผาศพของวัด

ในที่เกิดเหตุเป็นเมรุเผาศพ อยู่ด้านหลังวัดโดยมี พระสมพงษ์ ขันติภโล อายุ 69 ปี พระลูกวัด รอเจ้าหน้าที่อยู่พร้อมชี้ไปยังบริเวณใต้ถุนเมรุ ซึ่งมีโครงกระดูกมนุษย์ ที่ถูกเทออกมาจากถุงปุ๋ยกอง ปะปนกับเศษวัสดุรวมกันไว้

เป็นโครงกระดูกมนุษย์มีทั้งกะโหลกศรีษะ ส่วนแขน ขา ซี่โครง ฟัน และชิ้นส่วนอื่น ๆ ตำรวจจึงมอบให้มูลนิธิฯ นำส่งนิติเวช เพื่อตรวจสอบโดยละเอียดตามขั้นตอน

วันที่ 9 ก.พ. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณวัดเกาะกลาง ต.หนองแค อ.หนองแค จ.สระบุรี พระสมพงษ์ ขันติภโล อายุ 69 ปี พระลูกวัด เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวานนี้ เวลา 12.00 น. ตนที่เป็นพระลูกวัด กำลังทำการซ่อมแซมกุฎิอยู่
เนื่องจากกุฎิเริ่มชำรุด และไม้ที่ใช้ซ่อมแซมกุฎิไม่เพียงพอ เดินไปที่บริเวณใต้เมรุจุดเกิดเหตุห่างจากกุฎิตนประมาณ 100 เมตร เพื่อจะไปเอาไม้เก่ามาต่อเติมกุฎิเพิ่ม

ตนรู้สึกผิดสังเกตเนื่องจากไปพบรถเข็นวีลแชร์ มีถุงปุ๋ยสีขาวขนาดใหญ่วางทับอยู่ด้านบนรถเข็น แต่เมื่อเดินไปใกล้ สังเกตุดูพบว่าบริเวณถุงปุ๋ยมีกะโหลกศีรษะของมนุษย์โผล่ขึ้นมา ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งไปเรียกเจ้าอาวาสก่ อนจะประสานเจ้าที่ตำรวจ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ส่วนตัวสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ เพราะตนจำวัดอยู่วัดแห่งนี้นานถึง 5 ปี ก็ไม่เคยพบเจอเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว อีกทั้งจากการสอบถามสัปเหร่อของทางวัด ก็ไม่ทราบข้อมูลว่าถุงปุ๋ยกระดูกดังกล่าวนี้เป็นของใคร หรือใครนำมาวางไว้ แต่ก่อนหน้านี้ตอนเดินไปที่ใกล้บริเวณเมรุได้กลิ่นเหม็นเน่าก็เข้าใจว่าอาจจะเป็นกลิ่นของสุนัขตาย

อีกทั้งก่อนหน้านี้เมื่อ 2-3 วันก่อน ช่วงกลางดึกหลังตนสวดมนต์เสร็จ นอนหลับฝันว่ามีผู้ชาย ลักษณะมองไม่ชัดมายืนเรียกตนอยู่ที่บริเวณหน้าต่างกุฎิ ในฝันตนเดินลุกไปเปิดหน้าต่างดู พบว่าชายรายดังกล่าวลอยตัวอยู่ในอากาศ ร้องโอดโอยขอความช่วยเหลือ บอกว่าอยากไปผุดไปเกิด ให้ช่วยเขาออกมาจากใต้เมรุ

กระทั่งตนมาพบกระดูกดังกล่าว ตนก็รู้สึกตกใจและมีความเชื่อว่าวิญญาณของชายรายดังกล่าวคงดลใจอยากให้ตนไปพบเห็น เพื่อนำกระดูกออกไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพื่อดวงวิญญาณจะได้ไปผุดไปเกิด ทั้งนี้ ตนมองว่ากระดูกดังกล่าวน่าจะไม่เกี่ยวกับเรื่องทำของอาถรรพ์ แต่อาจจะเป็นการอำพรางศพหรือไม่

นายจักรสี ดีรอด อายุ 58 ปี สัปเหร่อวัดเกาะกลาง เผยว่า ตนทำอาชีพสัปเหร่ออยู่ภายในวัดมานานถึง 20 ปี ก็จะมีหน้าที่ทำศพฌาปนกิจ หลังเสร็จสิ้นก็จะนำผงเถ้ากระดูกของผู้เสียชีวิต จัดส่งให้ญาติไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามความเชื่อ ซึ่งปกติแล้วเวลาตนปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำเฉพาะด้านบนเตาเผาศพ ไม่ได้ลงมายุ่งเกี่ยวที่บริเวณใต้เมรุ เพราะบริเวณใต้เมรุจะเป็นจุดที่ทางวัดไว้สำหรับเก็บไม้เก่า

ตนยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะมองว่าสัปเหร่อน่าจะเป็นผู้มีส่วนรู้เห็น หรือแอบนำกระดูกชิ้นส่วนมนุษย์เก็บไว้ เพื่อจะเอาไปประกอบพิธีกรรมทางด้านไสยศาสตร์หรือไม่ ส่วนเรื่องรายละเอียดความเป็นมาของกระดูกดังกล่าวนั้นจะเป็นอย่างไร ก็ต้องปล่อยให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ด้าน นพ.มนัส โชติเจริญรัตน์ แพทย์เวร รพ.หนองแค ระบุว่า โครงกระดูกที่พบยังไม่สามารถระบุเพศได้ จากการตรวจสอบพบมีร่องรอยฟันด้านหน้าหัก เบ้าตาแตก คล้ายถูกทำร้าย ลักษณะโครงกระดูกไม่มีชิ้นเนื้อติดเหลืออยู่ คาดว่าเสียชีวิตมานานพอสมควรอย่างไรก็ตาม ต้องให้เจ้าหน้าที่เฉพาะทางเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้ง จึงจะทราบอัตลักษณ์บุคคลได้แน่ชัดเจน