แม่ชมพู่ปิดตายไม่คุยคดีกับ "ตั้ม" ลุงพลเครียด 3 สิ่งทำชีวิตแย่ ตีมึนปมแอบขึ้นเขา (คลิป)

7 ก.พ. 64

กรณีนายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีน้องชมพู่ ได้แสดงอาการคุกคามสื่อมวลชน จนเกิดเป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลุงพลหลังจากที่ถูกนำเข้าเครื่องจับเท็จ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

819316

ล่าสุดวันที่ 7 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านน้องชมพู่ จ.มุกดาหาร ซึ่งตอนนี้ครอบครัวของน้องชมพู่ ได้ประกอบธุรกิจขายผ้าครามออนไลน์เพื่อหารายได้เสริม ซึ่งทีมข่าวสังเกตว่า แม่ของน้องชมพู่มีสีหน้าที่ดีขึ้น ยิ้มแย้มและไม่มีความเครียด

705833

ในเวลา 10.00 น. นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ได้ออกมาพูดคุยกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีต่าง ๆ ที่สังคมสงสัย โดยนางสาวิตรี เปิดเผยว่า หากทนายษิทรา จะเดินทางมาที่บ้าน ตนก็พร้อมที่จะยินดีต้อนรับเขา ในฐานะที่เขาเป็นแขกมาเยี่ยมบ้าน แต่ตนจะไม่พูดคุยเรื่องคดี เพราะในเรื่องนี้ตนมั่นใจแค่การทำงานของชุดสืบสวนเท่านั้น

ส่วนกรณีที่มีคนที่ลักลอบขึ้นเขานั้น ตนก็อาจจะมีความกังวลแค่เล็กน้อย แต่ตนก็ยังมั่นใจว่าตำรวจได้ทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว และจะเป็นผู้ที่ทำให้ความจริงเปิดเผย เพราะที่ผ่านมาตำรวจทำงานดีมาก และลบความกังวลของตนได้

892127

อย่างไรก็ตาม แม่น้องชมพู่ ได้กล่าวถึงความรู้สึกหลังคดีของลูกสาวเป็นที่จับตาของสังคมว่า "ความหวังของแม่ยังไงก็ต้องจับได้ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว จะลือว่าจะจับพรุ่งนี้ วันนี้ หรือที่ผ่านมาก็มีลือ ความหวังของแม่คือเมื่อไรก็ได้ แม่รู้ว่าตำรวจทำงานอยู่ เขาต้องทำให้ดีที่สุด แม่เชื่ออย่างนั้น"

กรณีที่มีใครบางคนพยายามสร้างทฤษฎีว่า ให้เด็กเดินขึ้นไปเสียชีวิตเอง แต่ตนก็ไม่กังวลในเรื่องนี้ แม้เขาจะหาเส้นทางที่เดินอ้อม เพื่อหาทฤษฎีว่าเด็กจะเดินขึ้นไปเสียชีวิตเองนั้น แต่ยังมีข้อสงสัยอีกหลายอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยฝีมือของมนุษย์ เช่น เส้นผมที่ถูกสับ เสื้อที่ถูกถอดจนหายไป และแรงของเด็กที่ไม่ได้กินข้าวกินน้ำ จะสามารถเดินไปถึงบริเวณนั้นได้หรือไม่

371467

ทั้งนี้ตนยังคงคาดหวังให้จับคนร้ายให้ได้ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว แต่ก็เชื่อว่าจะต้องจับได้ ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่ตื่นเต้น และไม่ได้รอจนใจจดจ่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ยังมีตำรวจมาพูดคุยอยู่เรื่อย ๆ และถ้าจับคนร้ายได้ ตนก็จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย "ใครทำกรรมก็ได้รับผลกรรม" อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สภาพจิตใจของครอบครัวดีขึ้นมาก ๆ คนในโซเชียลฯ ก็ด่าน้อยลง และตอนนี้ตนเปิดร้านขายผ้าครามออนไลน์ ชื่อร้านผ้าแม่ชมพู่ ก็ทำให้ตนเครียดน้อยลง

957820

เวลา 12.00 น. ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้เดินทางมาที่บ้านของลุงพลและนั่งพูดคุยกับลุงพลป้าแต๋นที่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างบ้าน ซึ่งท่าทีของลุงพลและป้าแต๋นยังคงดูเรียบนิ่ง หลังจากนี้ทนายรัชพล ลุงพล ป้าแต๋น จะเดินทางไปไหว้พระที่วัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

164489

โดยก่อนออกเดินทาง ทนายรัชพล เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาพบลุงพล ก็จะพาลุงพลเดินทางไปกราบพระ และตนจะช่วยดูเรื่องบัญชีบริจาคการสร้างวัดด้วยว่า จะต้องดำเนินการอะไร ซึ่งในส่วนนี้ยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียดกัน แต่อีกกรณีคือเรื่องรูปปั้นพญานาค เพราะลุงพลได้ปรึกษาตนว่าจะไม่ทุบรูปปั้นพญานาคทิ้งได้หรือไม่ เนื่องจากถ้าปล่อยไว้แบบนี้ก็จะได้เป็นแลนมาร์กสถานที่ท่องเที่ยว และสร้างประโยชน์ให้หมู่บ้าน ซึ่งตนได้รับฟังและต้องไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอีกครั้ง เพราะยังคงสงสัยถึงความแข็งแรงของพญานาคว่าจะถล่มหรือไม่ เพราะไม่มีวิศวกรมาดูแลในคอนสร้าง

152219

ท้ายที่สุดก็ต้องให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบว่า จะไม่ทุบทำลายรูปปั้นพญานาคได้หรือไม่ ซึ่งก็อยู่ที่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ โดยตอนนี้ตนและลุงพลก็หารือว่า จะยื่นเอกสารให้คงสภาพของพญานาคไว้ เพราะป่าที่ถูกถมทับไปแล้วก็คงไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม และเป็นแค่พื้นที่เล็กน้อย ซึ่งลุงพลก็เชื่อว่าการคงรูปปั้นไว้ก็จะเป็นประโยชน์กับชาวบ้าน ที่จะได้มาขายของนักท่องเที่ยว

380496

เมื่อวานนี้ตนก็ได้พูดคุยปลอบใจลุงพลว่า ไม่ต้องเครียดอะไร เพราะคดีรุกป่าและคดีทำร้ายร่างกายก็ถูกแจ้งข้อหาไปแล้ว เหลือแต่คดีน้องชมพู่เท่านั้นที่ยังไม่เสร็จ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะถูกแจ้งข้อหาหรือไม่

741520

อย่างไรก็ตาม การที่ลุงพลจ้างทนายษิทราให้มาดูแลนั้น เพราะตำรวจมีการพุ่งเป้าว่าลุงพลเป็นคนร้าย ซึ่งตนถือว่าการจ้างทนายความเป็นเรื่องปกติ และไม่ใช่การร้อนตัว และการจ้างทนายความในคดีที่ยังไม่มีการแจ้งข้อหา ก็ไม่ใช่ว่าคนที่จ้างทนายจะยอมรับว่าเป็นคนร้าย แต่เป็นการป้องกันตัว และรับมือ เพราะใคร ๆ ก็ทำกัน

764489

เวลาประมาณ 12.45 น. ลุงพล ป้าแต๋น ทนายรัชพล และยูทูเบอร์กว่า 20 คน ได้ออกเดินทางจากหมู่บ้านกกกอกไปยังวัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเมื่อไปถึงวัดก็มีชาวบ้านเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก สีหน้าและแววตาของป้าแต๋นดูมีความสดใส หลังจากนั้นลุงพล ป้าแต๋นและทนายรัชพล ก็ได้ถือดอกไม้ธูปเทียนเดินวนรอบพระธาตุพนม 3 รอบ ซึ่งขณะเดินก็มีเหล่ายูทูเบอร์เดินถ่ายดักหน้าดักหลัง รายล้อมตลอดการเดิน สุดท้ายทั้ง 3 คนก็ได้กราบพระธาตุ

826755

หลังจากนั้นก็มีการแถลงข่าว โดยลุงพล เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้พาทนายรัชพล มากราบนมัสการพระธาตุพนมเพื่อความสิริมงคล ซึ่งปีนี้ตนเดินทางมาไหว้ถึง 6 ครั้งแล้ว ตนเดินทางมาเพราะกำลังจะมีงานประจำปีของวัดพระธาตุพนม แต่ปีนี้มีการเลื่อนการจัดงานไปเพราะติดช่วงโควิด-19 ซึ่งตนก็มาทุกปี และเมื่อสักครู่ตนก็ได้สักการะพระธาตุพนมและขอพรให้คุ้มครองครอบครัวของตน และทุกครั้งที่เดินมาไหว้ตนก็รู้สึกสบายใจและตอนนี้ก็ไม่มีความกังวลอะไร ส่วนกระแสที่โซเชียลฯ วิพากษ์วิจารณ์ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร

เมื่อทีมข่าวถามลุงพลว่า มีอะไรจะชี้แจงเกี่ยวกับข้อครหาเรื่องลอบขึ้นเขาในวันที่ 4 ก.พ.64 หรือไม่ ด้านทนายรัชพลก็แสดงท่าทีที่จะไม่ให้ลุงพลตอบ ขณะเดียวกันลุงพลก็ตอบว่า "ก็คงต้องไปถามคนที่เขาบอกว่า เราได้ขึ้นเขากันหรือไม่ เพราะวันที่ตนขึ้นเขาก็ขึ้นกับทนายตั้ม และทนายรัชพล" ด้านป้าแต๋นก็พูดเสริมว่า "เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ขึ้นไปด้วย"

549021

ด้านป้าแต๋น กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่มาทำบุญเข้าวัด มันก็เป็นเรื่องปกติที่เราจะได้รับแต่สิ่งดี ๆ ไป ซึ่งตนและครอบครัวน้องชมพู่ และน้องชมพู่ก็เคยมาเที่ยววัดพระธาตุพนมด้วยกัน ซึ่งเชื่อว่าวันหนึ่งครอบครัวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ต้องใช้เวลา ลุงพลได้กล่าวเสริมว่า พี่น้องทิ้งกันไม่ได้อยู่แล้ว พี่น้องก็ต้องเป็นพี่น้องอยู่ดี

ป้าแต๋น ยังบอกอีกว่า กรณีที่มีการประกาศผ่านยูทูบว่า ห้ามนำคลิปจากช่องยูทูบไปเผยแพร่นั้น ตนได้เป็นคนประกาศเอง เพราะบางคนที่นำคลิปไปทำสิ่งที่ดีตนก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเอาคลิปไปใช้แล้วเกิดความเสียหายกับเรา เราก็ป้องกันไว้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ทนายรัชพล ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า กรณีที่ป้าแต๋นได้ประกาศไม่ให้ใช้คลิปวิดีโอนั้น เป็นการขอความร่วมมือ ส่วนจะมีการฟ้องร้องคนที่นำคลิปไปใช้หรือไม่ ก็ค่อยว่ากันอีกที

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส