บุกปาแก้วใส่หน้าโจรดักฆ่าพระ แม่ชี้ถูกบีบสารภาพ แต่ลูกหลุดปาก "ไม่คิดว่าตาย" (คลิป)

กรณีเจ้าหน้าที่วิทยุสื่อสาร สภ.ห้วยยาง ได้รับแจ้งเหตุพระถูกตีที่บริเวณศีรษะ ในขณะที่เดินจงกรมอยู่ภายใน สำนักสงฆ์ป่าเปือย ในพื้นที่หมู่ 12 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.45 น. ของวันที่ 22 ม.ค.64 ที่ผ่านมา และเสียชีวิตในวันที่ 23 ม.ค. 64 โดยทราบชื่อในภายหลังว่า พระสุริยา วงศ์สมบัติ อายุ 44 ปี

ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมตัวนายจักรพันธ์ ชาติชำนาญ หรือ ก็อต ผู้ต้องหา และนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าตัวอ้างว่าก่อเหตุเนื่องจากอยากยาเสพติดจึงต้องการหาเงินนั้น

วันที่ 6 ก.พ. 64 เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.พิชิต มีแสง รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอนสาร อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ได้คุมตัวนายจักรพันธ์ ชาติชำนาญ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยขณะนำตัวผู้ต้องหาออกจากโรงพัก เพื่อเดินทางไปยังตุดเกิดเหตุ ทีมข่าวได้สอบถามนายจักรพันธ์ว่ามีอะไรอยากจะพูดไหม แต่นายจักรพันธ์ก็ปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถาม โดยจังหวะนี้ก็จะมีเสียงครอบครัวของพระสุริยาที่ตะโกนด่าผู้ต้องหาว่า "บ้านมึงไม่มีจะกินหรอ ทำไมมาขโมยของคนอื่น"

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พาตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ จุดแรกที่ทำแผนคือจุดที่ผู้ต้องหา ขับรถมอเตอไซค์ ฮอนด้าคลิกสีขาว มาจอดที่ป่าละเมาะ ข้างป่าอ้อย ห่างจากสำนักสงฆ์ประมาณ 150 เมตร ซึ่งผู้ต้องหาได้มาขึ้นนั่งรถมอเตอไซค์เพื่อประกอบการทำแผนฯ โดยผู้ต้องหาไม่มีการพูดคุย

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาผู้ต้องหาไปทำแผนจุดที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาเอาไม้ที่ใช้ตีทำร้ายพระสุริยา มาทิ้งก่อนไปขับรถหลบหนี ซึ่งจุดที่เอาไม้มาทิ้งนั้น อยู่ห่างจากวัดประมาณ 145 เมตร และห่างจากจุดจอดรถมอเตอไซค์ 5 เมตร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาผู้ต้องหาไปยังจุดที่ 3 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหามาซ่อนตัวที่โขดหิน ตรงข้ามจากกุฏิพระสุริยา และอยู่ห่างจากจุดที่พระสุริยาเดินจงกรมประมาณ 60 เมตร ในตอนเกิดเหตุนั้น คนร้ายจะแอบมองพระสุริยาที่จุดดังกล่าวนี้ ขณะนั้นพระสุริยากำลังเดินจงกรมอยู่

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อที่จุดทำร้ายพระสุริยา ที่พระสุริยาเดินจงกรมนั้น แม่และญาติของผู้ต้องหา ได้มาขอคัดค้านการทำแผนฯ และขอใช้สิทธิไม่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องยุติการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาเดินออกจากจุดเกิดเหตุเพื่อไปขึ้นรถ

ระหว่างนั้น น.ส.สาริกา วงศ์สมบัติ ลูกสาวคนเล็กของพระสุริยา ได้นำขวดแก้วมาเขวี้ยงใส่ตัวผู้ต้องหา จากนั้นนางวันดี สุริยจันทร์ ภรรยาของพระสุริยา ได้เดินเข้าไปใช้มือทุบที่กลางหลังผู้ต้องหาเสียงดังตุ๊บ 1 ครั้ง ระหว่างนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ ทีมข่าวได้สอบถามผู้ต้องหาว่าอยากจะขอโทษครอบครัวคนตายหรือมีแรงจูงใจอะไรในการก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาก็เงียบ

ทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ 3 วัน วันที่ 19 ม.ค. 64 ผู้ต้องหาให้การณ์ว่าได้แอบเข้ามาที่สำนักสงฆ์ และแอบซ่อนตัวที่ด้านหลังพระพุทธรูป เพื่อแอบมองทีท่าของพระสุริยา กระทั่งวันเกิดเหตุ 22 ม.ค. 64 ผู้ต้องหาได้ขับรถมอเตอไซค์จอดที่ป่าละเมาะ ข้างป่าอ้อย เดินมาซ่อนตัวที่โขดหินตรงข้ามกุฏิพระสุริยา เพื่อแอบมองพระสุริยาที่เดินจงกรมอยู่ข้างสระ ห่างจากจุดที่ผู้ต้องหาแอบซ่อนตัวที่โขดหิน 60 เมตร เพื่อรอจังหวะที่พระสุริยาจะเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแล้วจะเข้าไปค้นหาทรัพย์สิน แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าตนเองเสี้ยนยา จึงทนไม่ไหว

จังหวะที่พระสุริยาเดินจงกรมอยู่ ผู้ต้องหาได้ไปหยิบท่อนไม้ข้าง ๆ โขดหินประมาณ 1 เมตร หวังจะมาตีให้พระสุริยาสลบแล้วจะเข้าไปชิงทรัพย์ ผู้ต้องหาอ้างว่าดูมาจากในหนัง จังหวะนั้นพระสุริยาได้หงายหน้ามาพูดกับผู้ต้องหาว่า "อยากได้อะไรก็เอาไป แต่ขอชีวิตอาตมา" จากนั้นผู้ต้องหาก็อ้างว่าเขาเห็นเลือด ทำให้ผู้ต้องหาตกใจ และวิ่งหลบหนี

เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยคลิปวิดีโอ หลังจากที่จับกุมผู้ต้องหาได้เมื่อวานที่บ้านของผู้ต้องหา และได้พาผู้ต้องหามาชี้จุดเกิดเหตุ เบื้องต้นเมื่อวานนี้หลังจากชี้จุดในเมื่อวานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้ผู้ต้องหาขอขมาที่หน้าสถูปพระสุริยา โดยผู้ต้องหาได้จุดธูป ยกมือไหว้สถูปพร้อมกล่าวว่า "ผมนายจักรพันธ์ ชาติชำนาญ ขอขมาหลวงพ่อที่ได้ทำผิดพลาดลงไป ผมไม่ได้ตั้งใจครับ ผมไม่ได้คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผมไม่รู้ว่าหลวงพ่อจะเสียชีวิต"

นางสาวสวย (นามสมมติ) แม่ของผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนเชื่อว่าลูกชายตนไม่ได้ก่อเหตุฆ่าพระสุริยา ลูกชายไม่เคยกระทำความรุนแรงมาก่อน ยอมรับว่าลูกชายมีนิสัยลักทรัพย์มาบ่อยครั้ง ซึ่งตอนทำแผนฯตนเองได้เจอลูกชาย แต่ไม่ได้พูดคุยกัน เมื่อเช้าก่อนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตนได้ไปเยี่ยมลูกชายที่ห้องขัง ลูกชายเล่าให้ตนฟังว่าเขาไม่ได้ก่อเหตุ แต่ตำรวจบังคับให้ลูกชายยอมรับสารภาพ โดยตำรวจยังเอาผ้ามาคลุมศีรษะลูกชาย ล็อกคอบังคับให้ลูกชายรับสารภาพ

ตอนที่ลูกชายตนอยู่บ้าน เขาก็เป็นคนดี อยู่บ้านลูกชายไม่เคยใช้ความรุนแรงให้ตนเห็น เขาแค่เสียงดัง ตนยอมรับว่าลูกชายมีเรื่องเสพยาเสพติด ถ้าลูกชายไม่ได้ทำความผิดจริง ตนก็ยืนยันว่าจะช่วยลูกชายทุกทาง แต่ถ้าเขาผิดตนก็ปล่อยตามกฎหมาย และขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย ตนก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ยืนยันว่าวันที่เกิดเหตุ 22 ม.ค. ช่วงเช้า ไปถึงช่วงสาย 11.00 น. ลูกชายตนก็ยังนอนอยู่บ้าน สามีตนก็ยืนยันว่าเห็นลูกชายในสายตาตลอด

ตอนนี้สภาพจิตใจตนและคนในครอบครัวก็ไม่ค่อยดี เสียใจที่ลูกชายโดนจับ ส่วนเรื่องประกันตัวตนและครอบครัวยังไม่มีการพูดคุยปรึกษากัน ตอนที่เยี่ยมลูกชายในห้องขัง ตนได้นำข้าวเหนียวหมูปิ้งและน้ำเปล่าไปให้ลูกชายทาน  ลูกชายก็ยังยืนยันกับตนคำเดิมว่า เขาไม่ได้ก่อเหตุ ตำรวจบังคับให้เขายอมรับผิด เพื่อจะได้ปิดคดี

น.ส.สาริกา วงศ์สมบัติ ลูกสาวคนเล็กของพระสุริยา กล่าวว่า ตอนทำแผนฯ ที่ตนเอาขวดแก้วไปเขวี้ยงใส่ผู้ต้องหานั้น เพราะตนรู้สึกโมโห รับไม่ได้ในสิ่งที่เขาก่อเหตุ คนร้ายเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม ฆ่าได้แม้กระทั่งพระนักปฏิบัติธรรม ถึงแม้วันนี้ผู้ต้องหาจะทำแผนไม่ครบทุกจุด ตนก็ไม่รู้สึกเสียใจ ผู้ต้องหาก็ต้องไปรับกรรมในสิ่งที่เขาทำ และให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินคดี โดยผู้ต้องหารายนี้ ไม่ได้เป็นลูกศิษย์คนสนิทของพระพ่อตนเอง ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และตนได้ข้อมูลมาว่าที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุมาก่อเหตุขโมยทรัพย์สินพ่อตนเองไปหลายครั้งแล้ว แต่พ่อก็อโหสิกรรมให้มาตลอด

ทั้งนี้ ตนไม่อยากจะพูดกับผู้ก่อเหตุ ตนอยากจะสาปแช่งเขาอย่างเดียว ส่วนที่แม่ของผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่าลูกชายเขาถูกตำรวจบังคับให้รับสารภาพนั้น ตนคิดว่าถ้าเป็นอย่างนั้น แม่ผู้ต้องหาเขาคงปรักปรำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเชื่อว่าตำรวจมีพยานหลักฐาน ถ้าผู้ต้องหาเขาเป็นคนดีจริง เขาจะเสพยาเสพติดหรือจะก่อเหตุทำไม "เขาปกป้องลูกชายแบบนี้มาตลอดหรือเปล่า ลูกชายเขาจึงได้เป็นคนแบบนี้" ตนอยากให้เขารับโทษถึงขั้นประหารชีวิต หรือติดคุกตลอดชีวิต ตอนนี้ที่จับคนร้ายได้แล้วนั้น ตนก็รู้สึกโล่งใจและสบายใจขึ้นมา ตนอยากจะบอกวิญญาณพระพ่อว่าให้พ่อตนไปสบาย ไม่ต้องห่วงลูกหลาน ตอนนี้จับคนร้ายได้แล้วนะ