เนียนขนาดเพื่อนเรายังซื้อ! หมอโอ๊ค-โอปอล์ แจ้งความโดนตัดต่อภาพขายยาลดอ้วน

"หมอโอ๊ค สมิทธิ์" และ "โอปอล์ ปาณิสรา" หลังถูกมิจฉาชีพใช้ความน่าเชื่อถือทางอาชีพบวกกับความมีชื่อเสียง นำภาพไปตัดต่อเพื่อแอบอ้างขายยาลดความอ้วน ซึ่งหลังจากขึ้นเฟซบุ๊กบุ๊กเตือนให้หยุดแล้วยังไม่ยอมหยุด งานนี้เลยต้องจัดยาแรงให้ โดยคุณแม่โอปได้ทวิตฯ ข้อความบอกเตรียมจูงมือสามีเข้าแจ้งความที่ สน. ทองหล่อ เพื่อเป็นให้เป็นกรณีตัวอย่าง ซึ่งหลังจากได้เข้าพบเจ้าหน้าที่แล้ว หมอโอ๊ค- โอปอล์ พร้อมด้วยทนาย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีแอคเคาท์หนึ่งโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการขายผลิตภัณฑ์ในการลดน้ำหนัก โดยในรูปมีการใช้รูป ระบุชื่อ นามสกุลและตำแหน่งนายแพทย์มาประกอบการขายและแอบอ้างว่า เป็นผลิตภัณฑ์ของตน ขนาดเพื่อนยังหลงเชื่อและสั่งซื้อมากิน ตนไม่อยากนิ่งนอนใจเลยค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าใช้วิธีตัดต่อภาพ โดยเราใช้วิธีการเตือนก่อนแต่ยังมีการโพสต์ขายอยู่ ทั้งนี้มีการนำภาพถ่ายตนในคลีนิกไปตัดต่อนำผลิตภัณฑ์วางลงไป รวมไปถึงภาพจากการไปถ่ายรายการ ก็มีการตัดต่อนำผลิตภัณฑ์วางไว้บนโต๊ะและเปลี่ยนจากโลโก้รายการเป็นคำโฆษณาผลิตภัณฑ์ มีการใช้เสื้อกาวน์ของแพทย์ซึ่งตนรับไม่ได้อย่างมาก เพราะตามกฎระเบียบไม่สามารถใส่เสื้อกาวน์แล้วไปโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือการรับรองใดๆ ได้ทั้งสิ้น ตนทำตามกติกามีมาตลอดชีวิต แม้ผลิตภัณฑ์ของเราเองเรายังระวังอย่างที่สุด อันนี้มีทั้งชื่อทั้งเสื้อกาวน์และชื่อโรงพยาบาลที่ประจำอยู่ด้วย ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ที่สุด" ซึ่งหลังจากลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือไปติดต่อ ปอท. เพื่อเอาผิดด้าน พรบ.คอมฯ ต่อไป ด้านภรรยาสาว "โอปอล์ ปาณิสรา" กล่าวเสริมว่า "ตนไม่เคยเห็นพี่โอ๊คโมโหกับเรื่องไหน แต่กับเรื่องนี้ถือว่าแตะต้องสิ่งที่เขาเซนซิทีฟมากๆ ขอเล่ารายละเอียดว่าก่อนจะมาเป็นพี่โอ๊ค เพื่อนตนที่เป็นนักข่าวยังโดน มันมีการสั่งซื้อกันจริงๆ ได้รับผลกระทบจริงๆ เขาใช้แล้วเขาเป็นอะไร เราจะทำยังไง ถ้ามันเกิดขึ้นเราจะเสียใจมาก เราก็เลยจะบอกว่าเราไม่เกี่ยวข้อง แล้วใครที่คิดจะซื้อผลิตภัณฑ์นี้ก็อย่าเลยดีกว่า ถ้าไม่แน่ใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของเราหรือเปล่าให้เข้าไปดูในไอจี เราไม่มีการกล่าวอ้างอะไรที่เกินจริง" ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเราจริงๆ และขอขอบคุณคนที่ติดต่อกลับมาให้หลักฐาน ทำให้มีผลดีต่อการสืบสวน สามารถเช็คเส้นทางการใช้โซเชียลว่าเป็นใคร ถ้าใครได้รับความเสียหายจากเพจนี้ แนะนำให้แจ้งความ เพื่อจะได้ไม่ไปเอาเปรียบใครอีก ภาพ : Twitter Opal Panisara