กรณีเกิดเหตุดินเชิงเขาสไลด์ทับรถบรรทุกหกล้อ เป็นเหตุให้นายอภินันท์ เจ็ดวรรณะ อายุ 40 ปี คนขับและเป็นเจ้าของรถถูกดินทับเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณบ่อดิน พื้นที่หมู่ 6 ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โดยใช้เวลาค้นหามากกว่า 4 ชั่วโมง พบว่ารถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียน 82-6105 นครศรีธรรมราช ถูกดินถมจมมิดทั้งคัน สภาพพังยับเยิน
ล่าสุดวันที่ 5 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นบริเวณบ่อดิน พื้นที่หมู่ 6 ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ติดกับภูเขาสูงประมาณ 20 เมตร พบกองดินจำนวนมากที่ถล่มลงมาจากจากการณ์ดังกล่าวด้วย และยังพบเศษชิ้นส่วนของรถบรรทุก 6 ล้อตกอยู่ โดยวันนี้ไม่มีผู้ปฏิบัติงานอยู่ด้านใน ด้านนอกพบรถแบ็กโฮจอดอยู่ 2 คัน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสมพร ชัยคช อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมนครธรรมคีรี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช พาไปดูพื้นที่บริเวณจึดเกิดเหตุ โดยนายสมพร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.64) เวลา 16.45 น. ตนได้รับแจ้งจาก สภ.ลานสกา ว่า มีเหตุดินถล่มลงมาทับรถ 6 ล้อ มีคนติดภายในรถ บริเวณบ่อดินบ้านไสเนียง ม.6 ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช
ด้านศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยนครธรรมคีรี จึงได้สั่งการให้รถพยาบาลนครธรรม คันที่ 1 รถพยาบาลนครธรรม คันที่ 2 และรถกู้ภัยนครธรรม 101 พร้อม อุปกรณ์เครื่องตัดและถ่าง อุปกรณ์ส่องแสงสว่าง และเจ้าหน้าที่ชีพกู้ภัย อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลานสกา รุดเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมประสานไปยัง ปภ.จังหวัด ให้รับทราบ โดยมีเจ้าหน้าที่มากกว่า 30 คน
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกหกล้อ 1 คัน และรับแจ้งว่ามีคนติดอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่จึงต้องลากรถ 6 ล้อที่เกิดเหตุออกไป ก่อนโดยใช้แบ็กโฮดันออก และเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้เนื่องจากมีดินทับรถจนเกือบมิดคัน โดยดินสูงประมาณ 4 เมตร คนขับรถแบ็กโฮได้ตักดินออกมาเพื่อที่จะค้นหานำผู้ที่ติดภายในรถออกมา แต่เนื่องด้วยมีดินไหลลงมาเป็นระยะ ๆ เมื่อดินไหลลงมาก็ต้องรีบหลบ จึงทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก ประกอบกับช่วงที่ค้นหาค่อนข้างมืด ต้องค่อย ๆ ใช้อุปกรณ์ขุดกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. จึงพบร่างของผู้เสียชีวิต ใช้เวลาในการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต 5 ชั่วโมง สภาพศพนอนคว่ำหน้า อยู่ภายในกองดิน แขนขวาหัก ขาซ้ายหัก หน้าอกยุบ
ทีมข่าวยังได้เดินทางไปยังบ้านของผู้เสียชีวิต ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยญาติรับศพผู้เสียชีวิตมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน และบรรจุใส่โลง โดยมีญาติพี่น้องมาร่วมแสดงความเสียใจจำนวนมาก
ทีมข่าวได้พูดคุยกับน.ส.สุภาพร พิไชย อายุ 42 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้สามีกับตนแยกย้ายออกจากบ้านไปทำงานตามปกติ เวลาประมาณ 09.00 น. ตนได้รับโทรศัพท์จากพี่สาวว่าสามีประสบอุบัติเหตุถูกดินถล่มทับ ตนยังมีความหวังอยู่ว่าสามียังมีชีวิตอยู่ กระทั่งเวลา 21.00 น. ตนเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ ก็พบว่าเจ้าหน้าที่ยังค้นหาร่างของสามีไม่พบ จึงตัดสินใจจุดธูป 16 ดอก บอกเจ้าที่เจ้าทางบริเวณหน้าผา ขอให้เปิดทางให้เจ้าหน้าที่พบศพของสามีโดยเร็ว ผ่านไปประมาณ 5 นาที เจ้าหน้าที่ก็พบศพสามีลึกประมาณ 3 เมตร โดยสามีตนทำงานขับรถขนดินบริเวณที่เกิดเหตุ มาประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว
ทั้งนี้ตนอยู่กินกับสามีมานานกว่า 18 ปี มีลูกชายด้วยกัน 2 คน อายุ 12 และ 8 ปี สามีเป็นคนพูดน้อย ใจดี ขยันทำงาน รักครอบครัว จากไม่มีอะไรเลย สามารถสร้างทุกสิ่งให้ตนและลูกได้หมด ทั้งบ้านและข้าวของต่าง ๆ จากที่ครอบครัวไม่มีอะไรเลย ก่อนเกิดเหตุไม่มีลางบอกเหตุแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ขณนี้ยังไม่มีใครมารับผิดชอบ โดยสามีไม่มีหัวหน้างาน แต่หากมีกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องออกมาช่วยเหลือ มีน้ำใจเยียวยาครอบครัว ตนก็ยินดี และไม่ติดใจการเสียชีวิต เพราะรู้ดีว่าเกิดจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด และตนก็เสียใจมาก หากจะให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมคงเป็นไปไม่ได้ เพราะขาดเสาหลักของครอบครัว ต่อจากนี้คงต้องทำให้ดีที่สุด ดูแลลูกเหมือนที่สามีเคยดูแล อยากบอกสามีว่า ตนรักมาก ถ้ามีโอกาสชาติหน้าขอให้พบเจอกัน และกลับมาสร้างครอบครัวกันแบบนี้อีก
