ฤๅษีโต้ภาพคู่เณรแอ ปัดทำมนตร์ดำช่วยลุงพล เมินถูกแฉยุ่งสาวอดบวช (คลิป)

กรณีนายไชย์พล วิภา หรือ "ลุงพล" แห่งบ้านกกกอก ถูกดำเนินดคีบุกรุกแผ้วถาง และเปลี่ยนแปลงสภาพป่า ก่อสร้างรูปปั้นพญานาค “ปาริจิตนาคราช” ซึ่งเรื่องราวเกิดเป็นคดีขึ้นมาก็มีหลายฝ่ายออกมาชี้ข้อมูลเชื่อมโยงไปยังต้นตอการสร้างรูปปั้นพญานาคดังกล่าว

กระทั่งนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำเรื่องร้องไปยังสำนักพุทธศาสนา และแจ้งตำรวจป่าไม้ให้มีการเอาผิด "พระพล" วัดดานพระอินทร์ จ.มุกดาหาร กรณีเป็นผู้ริเริ่มให้ลุงพลสร้างพญานาค ร่วมกับฤๅษี จนเป็นเหตุของการต้องบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 4 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับทาง "เณรแอ" เล่าให้ฟังว่า ส่วนตัวรู้จักกับ "ฤๅษีคัมภีร์" มานานกว่าเกือบ 10 ปี เพราะส่วนตัวเคยได้รับเชิญให้ไปร่วมปลุกเสกของขลังด้านมหาเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน หรือรูปปั้นต่าง ๆ เรียกว่าได้รับเชิญไปจำนวน 2 ครั้ง ที่จ.ขอนแก่น โดยค่าตัวที่เชิญตนไปปลุกเสกได้ครั้งละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท เป็นค่าตัวตามมาตรฐานของตนเวลาไปร่วมปลุกเสกสิ่งของต่าง ๆ

ส่วนใหญ่เวลาได้รับเชิญไป นอกเหนือจากตนแล้ว จะมีเกจิอาจารย์ด้านต่าง ๆ เข้าร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก โดยที่ลูกศิษย์เขาเองก็มีจำนวนเยอะ จากที่เห็นเวลาเดินทางไปร่วมปลุกเสกของขลัง ส่วนอุปนิสัยของเขาก็เป็นคนอัธยาศัยดี อ่อนน้อมถ่อมตน อีกทั้งในส่วนของบารมี เขาเองก็เรียกว่าค่อนข้างมีเยอะ นอกจากลูกศิษย์แล้ว เขาเองก็จะชอบทำบุญร่วมสมทบทุนสร้างวัดวาอารามต่าง ๆ ในแถบอีสาน

เมื่อถามว่าจากกระเสข่าวทราบว่าในอดีตฤๅษีคัมภีร์ เคยบวชเป็นพระมาก่อน แต่กลับมีเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงเลยต้องสึกออกมาเป็นฤๅษี "เณรแอ" เล่าว่า เรื่องนี้ก็ทราบมาจากข่าว ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัว ทราบเพียงว่าตอนนี้เขามีภรรยาและลูกเล็กอยู่ ส่วนถามว่าแล้วตามกฎหรือข้อปฎิบัติของฤๅษี การมีลูกมีเมียถือว่าผิดหรือไม่ หากในอดีตอาจจะถือว่าผิด แต่ตอนนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติ

อย่างไรก็ตาม เณรแอ ยอมรับว่าไม่เคยรู้จัก และไม่เคยทราบว่าพระอาจารย์พลคือใคร ส่วนฤๅษีคัมภีร์ ที่มีชื่อไปเกี่ยวข้องกับ "ลุงพล" ในส่วนนี้ตนก็ไม่ทราบเรื่อง แต่หากเป็นเรื่องจริงก็แอบเป็นห่วง เพราะที่ผ่านมาก็เจออะไรมาเยอะ เข็ดหลาบกับเรื่องคดีความแล้ว หากเลือกได้ระหว่างเรื่องคดีความกับขี้หมา ตนขอเลือกกินขี้หมาดีกว่า

ฤๅษีคัมภีร์ คัมภีรปัญโญ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า รู้จักเณรแอ เคยเจอเณรแอตอนที่มาเรียนวิชาเสกน้ำหอมมหาเสน่ห์กับเกจิชื่อดังที่อาศรมของตน แต่ไม่ได้มีความสนิทสนมเป็นส่วนตัวแต่อย่างใด เรื่องที่เณรแอ อ้างว่าตน เคยมีเรื่องของผู้หญิงเข้ามาในขณะที่บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ จนทำให้โดนจับศึกแล้วมาบวชเป็นฤๅษีนั้น ตนยืนยันว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งเณรแอก็ไม่ได้รู้ดีไปกว่าใคร เป็นการฟังมาจากคนอื่นอีกที

ทั้งนี้เรื่องจริงคือ ในอดีตก่อนที่จะบวชเป็นฤๅษี ตนได้เรียนวิชาเกี่ยวกับมหาเสน่ห์ จึงอยากลองวิชา หลังจากนั้นก็มีผู้หญิง เดินทางมาหาตนให้เจิมรถบ้าง จนทำให้เริ่มมีผู้หญิงหลายคนเข้าหาตน กลายเป็นว่าในบริบทของพระภิกษุสงฆ์ และผู้หญิง (สีกา) เป็นที่พูดถึงทั่วไปของหมู่คณะสงฆ์

จากนั้นคณะสงฆ์กับชาวบ้าน ก็มีปัญหาทะเลาะกัน เนื่องจากชาวบ้านที่เคารพและศรัทธาในตัวของตนก็มี และเพื่อที่จะไม่ต้องเป็นตัวปัญหาของชุมชน ตนจึงตัดสินใจหนีออกจากวัด และบวชเป็นฤๅษีในปัจจุบัน เหตุการณ์ในครั้งนั้นถือเป็นช่วงมรสุมของชีวิต

ในขณะนั้นพ่อกับแม่ของตนก็ร้องไห้ลำบากใจ ส่วนพ่อก็บอกว่า บวชที่ใจก็ได้ ถ้าบวชเป็นพระแล้วมีปัญหาแบบนี้ ตนยอมรับว่า ทุกคนมีเรื่องราวในอดีตที่ไม่ดีกันทุกคน แต่ตนเลือกที่จะก้าวข้ามผ่านมรสุมชีวิตตรงนั้นมาได้ มาตอนนี้ก็ไม่อยากกลับไปพูดถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว

ส่วนประเด็นต่อมา ที่เณรแอบอกว่า ตนไม่ได้เก่ง ไม่ได้มีวิชาอะไรขนาดนั้น ส่วนตัวมองว่า ไม่เก่งไม่เป็นอะไร แล้วแต่คนจะมอง ถ้าตนไม่มีวิชา ก็คงไม่ลูกศิษย์มาเคารพนับถือ ขอปล่อยผ่านไปไม่ถือสาอะไร