กรณีนางอรพิน อย่างสวย อายุ 52 ปี นอนเสียชีวิตกลางทุ่งนา บริเวณ ม.2 บ้านหนองเรือ ต.หนองคู อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ในท้องที่รับผิดชอบ สภ.บ้านแท่น เมื่อวันที่ 29 ม.ค.64 ที่ผ่านมา
โดยพ่อญาติและชาวบ้านหนองเรือ เชื่อว่านายทรงกลด อย่างสวย อายุ 31 ปี หรือ นายโจ้ ลูกในไส้ของลงมือก่อเหตุ ด้วยการรัดคอเพื่อชิงเงิน 2,000 บาท และมือถือ จำนวน 1 เครื่อง หวังว่าอยากได้รถจักรยานยนต์ไปขับขี่เหมือนคนอื่น พร้อมกับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในวันเกิดเหตุ
โดยออกอุบายว่าเจ็บหน้าอก อยากให้ผู้เป็นแม่พาไปในตัวอำเภอด้วยกัน และหาจังหวะก่อนจะลงมือฆ่าแม่ตัวเองอย่างโหดเหี้ยม และยังนำศพไปอำพรางด้วยการนำร่างของแม่มาจัดท่าทางเหมือนคนนอนหนุนเสื้อยีนส์ของตัวเอง ก่อนหายตัวไปพร้อมรถจักรยานยนต์ของครอบครัว ทะเบียน 8 ญ 705 กรุงเทพมหานคร
กระทั่งงานฌาปนกิจศพของนางอรพิน อย่างสวย อายุ 52 ปี ผู้เป็นเเม่ ณ วัดป่าหนองเรือ บ้านหนองเรือ ต.หนองคู อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายทรงกด อย่างสวย อายุ 31 ปี หรือ บักโจ้ มาร่วมงาน
ต่อมาพ.ต.อ.วรวุฒิ เล็กสุนทร ผกก.สภ.บ้านแท่น ได้ลงพื้นที่สอบสวนพยานเพื่อต้องการชี้ชัดว่ามีผู้เห็นนายโจ้ ฆ่าแม่ตัวเอง พร้อมทั้งหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของทางเทศบาลตำบลหนองคู อ.บ้านแท่น ก่อนออกหมายจับ โดยมีชุดสืบสวนสอบสวนจากทางภูธรภาค 3 เข้ามาช่วยแกะรอยและตามไล่กล้องวงจรปิด จึงรู้ว่านายโจ้ใช้เส้นทางไหนเพื่อหลบหนี และเส้นทางไหนคือจุดหมาย จนมีผู้พบเห็นนายโจ้ล่าสุดที่เขตพื้นที่เชื่อมต่อ 3 จังหวัดระหว่างขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ โดยนายโจ้ จะขี่รถจักรยานยนต์ไปเรื่อย ๆ เน้นนอน ถ้ำ ป่า เป็นหลัก
ในระหว่างหลบหนีนายโจ้ ได้ใช้เส้นทางผ่านหมู่บ้านหนองเรือ บ้านทรัพย์เจริญ บ้านหนองหญ้าปล้อง บ้านหนองดินดำ ต.หนองคู อ.บ้านแท่น เข้าสู่เขตรอยต่อระหว่างบ้านหนองสองห้อง อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น จนเข้าพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยตลอดการหลบหนีนายทรงกรด ก็ได้ก่อคดีทำร้ายร่างกายเพื่อลักทรัพย์และชิงทรัพย์ในท้องที่ สภ.พระยืน จ.ขอนแก่น และอ.เชียงยืน จ.กาฬสินธุ์ ได้รถจักรยานยนต์ พร้อมเงินสด 12,000 บาท
กระทั่งล่าสุดวันที่ 4 ก.พ.64 ตำรวจชุดจับกุมได้ระดมกำลังออกไล่ล่าอย่างหนัก จนสามารถรวบตัวนายโจ้ ได้ที่บ้านหนองสองห้อง ต.นางงาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ก่อนนำตัวไปแถลงข่าว และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมาก ที่ออกมาดูมือฆาตกรฆ่าแม่ตัวเองในครั้งนี้
นายทรงกลด ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ฆ่าแม่ตัวเองในครั้งนี้ เนื่องมาจากขอยืมเงินจำนวน 200 บาท แต่แม่ไม่ให้ จึงเกิดอารมณ์โมโห ใช้มือบีบคอแม่จนแม่หายใจไม่ออก และกระทืบซ้ำ รวม 5-6 ครั้งจนสิ้นใจ ก่อนที่จะขี่รถมอเตอร์ไซค์และนำเงินสด จำนวน 2,000 บาทหนีไปด้วย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต บริเวณ หมู่ที่ 2 ต.หนองคู อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ อีกครั้ง ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายบุญเต็ม อย่างสวย อายุ 61 ปี สามีผู้เสียชีวิต-พ่อผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า หลังจากตนทราบเรื่องว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวลูกชายได้แล้วหลังหลบหนี ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากอยากให้ลูกชายได้รับโทษตามขั้นตอนของกฎหมาย ให้สาสมกับที่ก่อเหตุ ฆ่าแม่แท้ ๆ ของตัวเองแล้วไปทำร้ายคนอื่น ๆ รวมไปถึงสร้างความวุ่นวายให้กับคนในสังคม
ส่วนตัวสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะผู้เป็นพ่อตน อยากจะ "กราบขอโทษ" ผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่ถูกลูกชายทำร้าย ขโมยทรัพย์สิน เพราะตนไม่สามารถดูแลลูกชายได้ดี หลังจากที่ลูกชายของตนพ้นโทษ ออกมาจากเรือนจำเมื่อเดือน มี.ค.63 คดีฆ่าคนตาย แล้วกลับมาอยู่บ้าน ตนก็เข้าใจว่าลูกชายจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่กลับแย่ลงถึงขั้นฆ่าแม่แท้ ๆ จนเสียชีวิต ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนยืนยันว่าจะไม่ขอยื่นมือเข้าช่วยเรื่องคดีความแต่อย่างใด ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย หากเป็นไปได้ตนอยากบอกกับลูกชายว่า "อยากให้เปลี่ยนพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้น และรับโทษตามกฏหมายไป" ถามว่าตนโกรธหรือไม่ กับการกระทำที่ลูกชายได้ก่อไว้ ตนยอมรับว่าโกรธมาก เพราะพ่อกับแม่เปรียบเสมือนเทวดาของลูก แต่ลูกกลับมาทำแบบนี้ เมื่อตนเห็นหน้าลูก ก็ยังคงรักและคิดว่าลูกเป็นลูกเสมอ ก็อยากให้ลูกเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
นอกจากนี้ ตนอยากให้บุคคลอื่น ๆ ดูเคสนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนกับใครหลาย ๆ คน ให้รักพ่อรักแม่มาก ๆ จะได้ไม่เกิดกรณีเช่นเดียวกับลูกชายของตน
พ.ต.อ.วรวุฒิ เล็กสุนทร ผกก.สภ.บ้านแท่น ระบุว่า จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุเมื่อ 29 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ทางสภ.บ้านแท่น รับแจ้งมีคนพบศพผู้หญิงเสียชีวิต นอนอยู่กลางทุ่งนาในพื้นที่ ต.บ้านเต่า อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ จึงสั่งระดมชุดสืบสวน สภ.บ้านแท่น พร้อมประสานตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานภูธร จ.ชัยภูมิ และแพทย์โรงพยาบาล อ.บ้านแท่น ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ
ทราบชื่อนางอรพิน อย่างสวย อายุ 52 ปี เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตเป็นแม่ลูกกัน หลังก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้ามาพื้นที่ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น และได้เข้าทำร้าย นายทองใส ม่วงกลาง อายุ 67 ปี ได้รับบาดเจ็บหลัง
จากนั้นผู้ต้องหาได้วิ่งหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ออกไปประมาณ 5 กม. ไปก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านหลบหนีไปพื้นที่ อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม แต่รถน้ำมันหมด จึงได้ก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ที่ อ.เชียงยืน ต่ออีก พร้อมขโมยเงิน จำนวน 12,000 บาท ของผู้เสียหายไป
ต่อมามีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่า พบผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ หลังจากนั้นการเคลื่อนไหวของคนร้ายก็หายไป กระทั่งวันที่ 4 ก.พ.64 มีพลเมืองดีพบเบาะแสคนร้ายในพื้นที่ อ.มัญจาคี รีจ.ขอนแก่น และถูกชุดสืบ สภ.มัญจาคีรี เข้าจับกุมในที่สุด
ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุฆ่าแม่ของตัวเองในครั้งนี้ ผู้ต้องหาสารภาพว่า ขอเงินแม่จำนวน 200 บาท 2 ครั้ง แต่แม่ไม่ให้ จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ อีกทั้งให้การว่า "ใช้มือบีบคอแม่" จนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไปยังจังหวัดต่าง ๆ กระทั่งถูกจับกุมที่ อ.มัญจาคีรี
เบื้องต้นทางตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าบุพการีโดยเจตนา ซึ่งมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต ทำร้ายร่างกาย และลักทรัพย์ซึ่ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการ ก่อนที่จะรวบรวมสำนวนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
