จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "บิ๊กเกรียน" โพสต์ภาพพร้อมบรรยายข้อความเมื่อ วันที่ 1 ก.พ. 64 ชาวบ้าน ต.เมืองยาง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 4 ราย แจ้งความกับ ร.ต.อ.ฤกษ์ วิเชียร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายประวิทย์ หรือ หมอแต๊ก อายุ 32 ปี ฐานหลอกลวงต้มตุ๋นเชิดเงินสด และทองรูปพรรณของชาวบ้านไประหว่างออกอุบายทำพิธีเสริมดวง-เสริมทรัพย์
วันที่ 2 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังบ้านของผู้เสียหาย ม.1 ต เมืองยาง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ นายเกรียติศักดิ์ พวงมาลัย
อายุ 46 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุเริ่มจากเมื่อช่วง เดือน ก.ย.63 ตนรู้จักกับหมอแต๊กมาจากรุ่นน้องที่สนิทกันว่าดูดวงแม่น ซึ่งตนเป็นคนที่เชื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีความสนใจอยากจะดูดวงกับหมอแต๊ก คำพูดคำจาของหมอน่าเชื่อถือ อีกทั้งมีชาวบ้านไปดูดวงกับหมอรายนี้เป็นจำนวนมาก ตนจึงตัดสินใจส่ง วัน-เดือน-ปีเกิด ไปให้หมอแต๊กดู
วันต่อมา หมอแต๊กโทรศัพท์ติดต่อมาหาตนบอกว่ามีพระครูที่เป็นอาจารย์ของหมอแต๊กที่อยู่ใน จ.สุรินทร์ ได้ทักมาว่าภายในบ้านของตนมีคนนำของมาทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ในบ้าน หมอแต๊กจึงอยากจะขอเข้ามาทำการตรวจสอบดูเพื่อเอาของออกให้
กระทั่งในวันที่ 8 ม.ค.64 ก็ได้เข้ามาที่บ้านของตนเพื่อทำการขุดหาของอาถรรพ์ จนไปพบก้อนขนาดเท่าไข่ไก่สีดำ ภายในเป็นเถ้ากระดูกซุกอยู่ 4 จุด ทำให้ตนเกิดความเชื่อ คิดว่าอาจจะมีคนกลั่นแกล้งทำของอาถรรพ์ใส่ตน จากนั้นหมอแต๊กเริ่มออกอุบายว่าดวงของตนจะไม่ดีต้องทำพิธีต่อดวง-ต่อทรัพย์
โดยต้องให้ตนนำทรัพย์สินที่มีภายในบ้าน คือ เงินสด ทองคำ ออกมาใส่ห่อผ้าสีขาว ทรัพย์สินของตนที่นำมาใส่ไว้มี สร้อยคอทองคำ 2 บาท 1 เส้น กำไลข้อมือทองคำ 1 บาท 1 เส้น กำไลข้อมือทองคำ 2 บาท แหวน 50 สตางค์ 1 วง เงินสด 80,000 บาท รวมมูลค่าเกือบ 2 แสนบาท ก่อนจะให้ตนนำข้าวสาร 1 กำมือ เทียนพรรษาพร้อมสายสิญจน์มามัดรวมกับทรัพย์สิน ก่อนท่องคาถาสวดมนต์ใส่เครื่องบายศรี ประกอบพิธีเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ บอกกับตนว่าห้ามเปิดหอผ้าดังกล่าวเป็นระยะเวลา 46 วันเท่ากับอายุของตน จะเป็นอันเสร็จพิธี
จนตนมารู้ตัวอีกทีเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 64 จากชาวบ้านว่าหมอแต๊กเป็นมิจฉาชีพชิงทรัพย์สินในหอผ้าที่ชาวบ้านใส่ไว้เพื่อประกอบพิธีไปจนหมดก่อนหลบหนีไป ตนเองจึงรีบไปแกะห่อผ้าดูปรากฏว่าทรัพย์สินของตนก็หายไปเช่นกัน จึงพากันเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 20 คน
นอกจากนี้ เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา เคยถูกตำรวจ สภ.ห้วยราช จับกุมในข้อหาคดีฉ้อโกงคาผ้าเหลือง เพราะหลบหนีไปบวช ถูกจำคุกอยู่ประมาณ 10 ปี เพิ่งพ้นโทษมาได้ประมาณ 7 เดือน ก่อนหายออกจากหมู่บ้านไปประมาณ 2 เดือน และมาก่อเหตุในครั้งนี้ อีกทั้งยังเป็นลูกชายของกำนันรายหนึ่งด้วย
นางรวย อายุ 50 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ปกติแล้วลูกชายของตนค่อนข้างเป็นเด็กเกเร ไม่ได้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ลูกชายเคยถูกตำรวจ สภ.ห้วยราช จับกุมในข้อหาคดีฉ้อโกงคาผ้าเหลือง เพราะหลังก่อเหตุหลบหนีไปบวช จึงถูกจำคุกอยู่นานถึง 10 ปี และเพิ่งพ้นโทษมาอยู่บ้านได้เพียง 2 เดือน ก็ไม่ยอมทำมาหากิน ตนเลยดุด่า ลูกชายจึงเกิดความไม่พอใจ และออกจากบ้านไป ครอบครัวก็ต้องคอยนำทรัพย์สินที่มี ทยอยออกมาช่วยเหลือเคลียร์เรื่องคดีให้กับลูก จนตอนนี้ทางบ้านล้มละลายไม่มีอะไรเหลือแล้ว
กระทั่งมาทราบข่าวล่าสุดลูกชายไปก่อเหตุดังกล่าว ตนก็รู้สึกตกใจ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากตอนนี้ไม่มีทรัพย์สินที่จะไปช่วยชดใช้ให้กับผู้เสียหายแล้ว ตนอยากจะขอโทษแทนลูกชาย และขอให้กลับมาชดใช้กรรมที่ก่อไว้ เรื่องทุกอย่างจะได้จบ
นอกจากนี้ ส่วนตัวตนเชื่อว่าที่ลูกชายมีพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีอาการทางจิต มีอารมณ์สองขั้วไม่เหมือนคนปกติทั่วไป