“ตั๊ก บงกช” คัมแบ็ก! หวนเล่นละครในรอบ 8 ปี ลั่นสามี "เจ้าสัวบุญชัย" สนับสนุนเต็มที่

2 ก.พ. 64

ห่างหายจากการเล่นละครไปนานกว่า 8 ปีแล้ว สำหรับนักแสดงสาว "ตั๊ก บงกช" แต่ล่าสุดยอมใจอ่อนตบปากรับคำชวนของพี่ฉอด สายทิพย์ ให้มาเล่นละครเรื่อง เมียหลวง

ล่าสุดมีการฟิตติ้งของละครเรื่องนี้ นักข่าวก็เลยรีบไปถาม "มาดามตั๊ก" ถึงเหตุผลที่ยอมใจอ่อนหวนกลับมารับงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง เจ้าตัวเผยว่า จริงๆ อยากจะรับตั้งนานแล้วแต่ติดภารกิจส่วนตัวนิดหน่อย พอมาเรื่องนี้อ่านบทแล้วก็ชอบ ทางสามีเองเขาก็สนับสนุนด้วย เลยตกลงรับเล่น ถามว่ากดดันไหม ก็มีบ้าง เพราะตนไม่ได้เล่นละครมานานแล้ว ทำเอาตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน

ส่วนที่ตนเคยบอกก่อนหน้านี้ว่าอยากจะไปทำเกี่ยวกับการเกษตรเต็มตัว ก็ยังคงทำอยู่ โดยแบ่งเวลาชัดเจน คิวละครจะเป็นจันทร์ถึงพุธ หลังจากนั้นจะทุ่มเทให้กับการเรียนเกษตร เพราะในอนาคตนแพลนไว้ว่า จะทำสินค้าที่ปลอดภัยแบบในออแกนิคออกมาวางขายด้วย

เปิดต้นปีก็รับงานละครเลย ?
“จริงๆ อยากจะรับตั้งนานแล้วนะคะ แต่ติดภารกิจส่วนตัวนิดหน่อย พอมาเรื่องนี้อ่านบทแล้วก็ชอบ จริงๆ อยากร่วมงานกับพี่ฉอดมานานแล้ว และพอมีเวลาด้วย ก็ได้คุยกับทางครอบครัว ทางคุณบุญชัยก็ตกลงด้วยค่ะ และพี่ฉอดได้คุยกับคุณบุญชัยแล้ว คุณบุญชัยได้ฟังพี่ฉอดเล่าเรื่องให้ฟัง เขาก็เข้าใจและสนับสนุนค่ะ บอกว่าอยากให้เล่น

ทำไมถึงตัดสินใจรับบทนี้ ?
“ตั๊กชอบความแปลกใหม่ของบท และชอบความเป็นมนุษย์ของละครเรื่องนี้ ความเป็นมนุษย์ของแต่ละตัวละครค่อนข้างจะมีความจริงที่มีความลึกลับ มีความหวัง คือทุกตัวละครมีความเป็นชีวิตจริง ตั๊กชอบ สนุกดี”

ได้เอาความเป็นเมียหลวงในชีวิตจริงมาผสมผสานไหม ?
“ไม่มี (ยิ้ม) เพราะว่าจริงๆ การครอบครูก็เป็นแบบหนึ่งของนักแสดงที่ไม่ให้เอาการแสดงไปเล่นในชีวิตจริง ไม่งั้นเราก็จะไม่เจริญเนอะ”

apop.00_02_38_21.still595

กดดันไหม?
“ก็นิดหนึ่ง เพราะว่าตั๊กไม่ได้เล่นนานแล้ว ก็ตื่นเต้นเหมือนกัน”

เคาะสนิมหรือทำการบ้านเพิ่มยังไง ?
“จริงๆ ก็มีอ่านบท และต้องพึ่งทางผู้กำกับและทีมงาน (หัวเราะ) ตั๊กเชื่อในทีมนะคะ เรื่องนี้ทั้งทีมเวิร์คและผู้กำกับ ตั๊กได้เห็นผลงานพี่เขา และได้รู้จักผลงานของพี่ฉอดมาหลายเรื่อง ก็รู้สึกว่าเราน่าจะได้รับการเทรนด์ในแต่ละฉากได้ดีค่ะ”

หลายคนคาดหวังว่าเรากลับมาแล้ว ?
“จริงๆ ก็ถึงเวลาที่ตั๊กอยากจะกลับมา คือพอตั๊กได้มีละครเล่นก็เหมือนเป็นแรงบันดาลใจทำให้เราได้กลับมาดูแลตัวเองอีกรอบหนึ่งด้วย”

ก่อนหน้านี้บอกว่าอยากจะไปทำการเกษตรก่อน ?
“ก็ยังทำเกษตรอยู่ค่ะ ละครก็จะเป็นจันทร์-พุธ พอพฤหัสบดีก็ไปเรียนเกษตร”

หลังจากนี้จะได้เห็นหน้าเราในงานแสดงมากขึ้นไหม ?
“ก็มีเรื่องนี้ค่ะ แต่ยังไม่ได้รับเรื่องอื่น แต่จริงๆ ก็มีละครของพี่ฉอดติดต่อมาก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้เล่น”

ก่อนจะรับละครต้องวางแพลนยังไง ?
“ก็ต้องคุยกับทางครอบครัวค่ะ เพราะคุณบุญชัยไม่ได้อยากให้เล่นละครมากนัก”

ต้องแบ่งเวลาให้กับครอบครัวยังไง ?
“ก็ได้คุยกับทางพี่ฉอดค่ะ ก็คุยกันเคลียร์เรียบร้อยค่ะ”

เรื่องลายกินรีจะได้ถ่ายทำต่อไหม ?
“อันนี้ไม่ทราบเลย ต้องถามทางผู้ใหญ่ค่ะ”

บทยังมาไม่ถึงใช่ไหม ?
“ไม่ทราบเลยจริงๆ ค่ะ รายละเอียดต้องถามทางกอง”

เรื่องการเกษตรของเราวางแผนยังไงต่อ ?
“คือตั๊กคิดว่าการเรียนวิชาชีพตั๊กอยากจะเลือกเรียนทางด้านอาหาร การปลูกพืช ไม่ได้อยากไปเรียนเพื่อให้ได้รับใบปริญญานะคะ เพราะยุคนี้ตั๊กว่าการทำอะไรที่เป็นสายอาชีพน่าจะดีกว่า เช่น อาหาร หรือการปลูกผัก ปลูกพืช หรือทำอะไรที่เป็นเล็กๆ ของตัวเอง น่าจะเป็นอาชีพได้มากกว่า อยากจะทำอะไรที่เป็นแบรนด์ของตัวเองส่วนตัว อยากจะลงลึกไปในเรื่องของการสร้างอาหาร แต่สร้างยังไงที่จะทำให้เราได้รู้ลึกรู้จริงว่าดินเป็นยังไง ปลูกอะไรได้บ้าง”

พอได้ทำมาแล้วเป็นยังไงบ้าง ?
“ยากเหมือนกันนะคะ ยากตรงที่เราอาจจะต้องเจอแดด แต่ที่เรียนการเกษตรไม่ยากนะคะ เพราะว่าจริงๆ คือการคำนวนมากกว่าว่าดินตรงนี้เราควรปลูกอะไร ใช้อะไร เวลาเก็บผลผลิตมาได้เราก็แฮปปี้”

ในอนาคตเราอาจจะมีสินค้าออกแกนิคแบรนด์ของตัวเอง ?
“ก็เป็นสินค้าที่ปลอดภัย”

ปลูกฝังให้กับลูกเราไปด้วยไหม ?
“คืออยากเรียนให้จบก่อนแล้วค่อยส่งลูกเข้าไปเรียน จริงๆ ตั๊กเองขอไปเรียนนะคะ อาจจะเรียนไปถึงสัก3-4 ปีเลยค่ะ เพราะเราต้องเรียนปลูกผักใบก่อน แล้วก็มีผักลูก ผักยอด และอาจจะเป็นผักขน เกี่ยวกับการปักชำ ตอนกิ่ง หรือการตัดแต่งพุ่มไม้ หรืออาจจะมีผลไม้ หรือผักค่ะ ตั๊กได้ไปเรียนที่ศูนย์ชัยพัฒนาค่ะ”

เวลาลงมือมันยากกว่าทฤษฎีไหม ?
“ตั๊กว่าลงมิอทำเองง่ายกว่าการนั่งเรียน แต่พอลงไปเรียนเอง เราก็ต้องมานั่งสรุป แล้วถึงจะส่งอาจารย์”

จะมีทำออกมาเพื่อเป็นความรู้ให้คนที่สนใจไหม ?
“จริงๆ ตั๊กก็มีเป้าหมายอยากจะเป็นเหมือนกับพอเราเรียนมา เราก็อยากจะถ่ายทอดให้กับคนรุ่นใหม่ๆ ในอนาคตด้วยที่เขาอยากจะรู้อะไรเกี่ยวกับเกษตรจริงๆ ค่ะ ซึ่งตอนนี้ดินบ้านเราอาจจะต้องได้รับการดูแลมากๆเ ลย”

ถามถึงเรื่องน้องข้าวหอม เปิดเทอมวันแรก ?
“วันนี้เปิดเทอมวันแรกค่ะ ลูกก็อยากไปโรงเรียนมากเลย อยากจะเจอเพื่อน”

เราแอบกังวลใจไหมด้วยสถานการณ์โควิดตอนนี้ ?
“จริงๆ โรงเรียนของลูกตั๊กเขาก็ค่อนข้างจะมีระยะห่างอยู่แล้วค่ะ และเขาก็มีการตรวจจากกระทรวงอยู่แล้วค่ะว่าควรเปิดไหม ไม่ต้องห่วงอะไรค่ะ ส่วนตัวก็บอกเขาให้ล้างมือบ่อยๆ ให้ใส่แมสก์ เว้นระยะห่างจากเพื่อน ให้ทานน้ำของกระติกของตัวเอง ไม่นั่งพื้น ไม่จับอะไรที่ไม่ควรจับ เด็กสมัยนี้เขาค่อนข้างเข้าใจนะคะ เตรียมพร้อมค่ะ มีช้อน มีกระบอกน้ำเป็นของตัวเอง มีคนคอยดูแลด้วยค่ะ ครั้งนี้เป็นเทอม 2 แล้วค่ะ ที่ผ่านมาก็จะเป็นการเรียนออนไลน์ คุณแม่ไม่หัวฟูเลย เพราะเด็กชอบคอมพิวเตอร์มากกว่า คือลูกเรียนอยู่บ้านเราก็ต้องเก่งคอมฯด้วยไง เราต้องหาว่านั่นอะไร นี่อะไร ทำไมคอนเน็คแล้วไม่เห็น คือเขาก็ต้องทำตามระเบียบค่ะ ถ้าห่วงเขามากไปไม่ให้เขาไปเลย ก็ไม่ได้ ตั๊กเองก็ไว้ใจทางโรงเรียนค่ะ ถามว่าห่วงไหม ก็ห่วงค่ะ แต่ต้องทำใจค่ะ เพราะเขาก็ต้องเรียนหนังสือ”

apop.00_02_43_14.still597

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส