2 พ่อลูกถูกบุกทืบคาร้านชำ โดนแฉไปฟันโจ๋ก่อน แต่ร้านซวยถูกลูกหลงหัวแตก (คลิป)

1 ก.พ. 64

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อยv+" ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะมีกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน กำลังตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมทั้งหยิบก้อนหินปาใส่ ร้านค้าแห่งหนึ่ง เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียลต่างมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ถึงกรณีที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

754183607160

วันที่ 1 ก.พ. 64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณร้านค้าเจ๊พา กม 9. ถ.สุขุมวิท ต.พูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีร้านจุดเกิดเหตุเปิดขายของตามปกติ

791346

พบว่ามีอาวุธมีดเหล็กเจียยาว 2 ฟุต 1 เล่ม และมีดหมอเล่มเล็ก 1 เล่ม อยู่ภายในร้านเนื่องจากลูกค้า ที่เป็นโจทย์ของกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีได้ลืมเอาไว้ เจ้าของร้านจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

570421

นายบุญฤิทธ์ ขวาด้าน อายุ 58 ปี เจ้าของร้านค้าจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเวลาประมาณ 20.00-21.00 น. วานนี้ ขณะนั้นตนเปิดร้านขายของตามปกติอยู่กับลูกสาว 2 คน มีลูกค้า 3 คน คือนายพิเชษฐ์ หรือ เชษฐ์ อายุ 47 ปี, นายวิเชียร หรือ อุ้ม อายุ 15 ปี ลูกชาย และเพื่อนนายอุ้ม อีกคนเดินเข้ามาซื่อของภายในร้าน พร้อมถืออาวุธมีดมาด้วยจำนวน 2 เล่ม มาขอเติมเงินโทรศัพท์

356731

จากนั้นไม่ถึง 5 นาที มีกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีขี่รถจักรยานยนต์มาจำนวน 10 คัน เกือบ 20 คน ขี่รถมาจอดที่หน้าร้าน พร้อมอาวุธมีดและไม้ครบมือ เดินตรงเข้ามาภายในร้าน ตะโกนด่านายเชษฐ์และลูก ก่อนจะใช้อาวุธมีดขู่ทำร้าย และคว้ากรวยจราจร ก้อนหินที่อยู่บริเวณหน้าร้านเขวี้ยงปาเข้ามาในร้านใส่นายเชษฐ์เป็นจำนวนมาก โดยที่ตนไม่รู้ว่าทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะอะไรกันมาก่อนหน้านี้ ทำให้พวกของนายเชษฐ์ต้องพากันวิ่งหนีตายกันเข้าไปหลบอยู่หลังร้าน ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีจะพากันเดินออกจากร้านไป

764055

โดยในขณะเกิดเหตุ ตนและลูกสาว พยายามตะโกนบอกว่า อย่ามาหาเรื่องกันในร้าน แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่ยอมฟัง คิดว่าตนและลูก เป็นพวกเดียวกันกับพวกของนายเชษฐ์ จึงตะโกนด่าพยายามจะเดินกลับเข้ามาทำร้ายลูกสาวตน ตนที่เป็นพ่อจึงเดินไปหยิบโต๊ะที่อยู่บริเวณหน้าร้านยกขึ้นมาเพื่อจะเอามากันลูกสาวไว้ กลุ่มวัยรุ่นก็ได้หยิบก้อนหินขวดแก้วปาเข้ามาในร้านของตนไม่หยุด ทำให้ตนถูกลูกหลง ก้อนหินปาใส่เข้าที่บริเวณศีรษะ เย็บ 3 เข็ม ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจะขี่รถออกจากหน้าร้านไป

805080

ส่วนตัวสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจเกินไป เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีก็เป็นเยาวชน แต่กลับมาก่อเหตุในลักษณะนี้ ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าคู่กรณีทั้ง 2 มีปัญหาทะเลาะอะไรกันมาก่อนหน้านี้ แต่ครอบครัวของตน เป็นร้านขายของทำมาหากิน ไม่ได้รู้เรื่องด้วย และตนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.พูตาหลวง เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกายพยายามฆ่า จะขอดำเนินคดีเอาผิดถึงที่สุด

453234

นายพิเชษฐ์ กล้าหาร อายุ 47 ปี เปิดเผยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนกับลูกชายและเพื่อนลูกไปซื้อของที่ร้านค้าห่างจากบ้านประมาณ 300 เมตร พร้อมอาวุธมีด 2 เล่ม เพื่อป้องกันตัวเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน แต่ในระหว่างทางที่ออกไปเห็นมีกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีที่เคยทะเลาะกับลูกชาย และเคยมาดักยิงลูกชายจนได้รับบาดเจ็บมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว จอดรถกันอยู่ที่หน้าปากซอยจำนวนหลายคัน แล้วขี่รถตามตนมา พร้อมตะโกนด่าท่อเสียหาย ท้าทายชวนหาเรื่อง พวกของตนก็ไม่สนใจแล้วรีบเดินไปให้ถึงร้านค้า

เมื่อถึงร้านค้าตนก็ซื้อของตามปกติ แต่กลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีก็ยกพวกกันมากว่า 20 คน บุกเข้ามาในร้านค้า เขวี้ยงปาก้อนหิน ขวดแก้วใส่ตนและลูก จนต้องวิ่งเข้าไปหลบที่หลังร้านตามคลิปที่ปรากฏก่อนจะหลบหนีไป สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยืนยันว่าส่วนตัวแล้วตนไม่รู้จักกับกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีเป็นการส่วนตัว จึงคาดว่ากลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีอาจจะเคยมีปัญหากับลูกชายตน ทั้งนี้ ตนจะไม่ไปแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด เพราะอยากให้จบเรื่อง และไม่อยากมีปัญหายืดเยื้อ

733938

นายตาม อายุ 17 ปี หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามคลิปที่ปรากฏ ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝ่ายที่เริ่มก่อน ก่อนเกิดเหตุรถของตนดันเกิดเสียอยู่ที่บริเวณปากทางเข้าบ้านของนายเชษฐ์ ขณะที่กำลังซ่อมรถอยู่นั้น นายเชษฐ์พร้อมลูกชายเดินพุ่งตรงมาจากไหนไม่รู้ ก่อนใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณต้นแขนด้านขวาของตนจนได้รับบาดเจ็บ ด้วยความตกใจตนจึงรีบกลับไปตามพรรคพวกเพื่อมาเอาคืนที่ร้านค้าจุดเกิดเหตุ

ตนยืนยันว่าเมื่อปีที่แล้วตนเคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงใส่ลูกชายของนายเชษฐ์จริง เนื่องจากเคยทะเลาะวิวาทกัน แต่ก็ล้มคดีเสียเงินประกันไปจำนวน 320,000 บาท มีการทำสัญญากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 ปีว่าไม่ให้ตนกับคู่กรณีมีเรื่องกัน แต่ตนกลับมาถูกคู่กรณีทำร้ายร่างกายก่อน จึงเกิดความโมโหไปก่อเหตุดังกล่าว ยืนยันได้ว่าคู่กรณีตั้งใจที่จะมาหาเรื่องตนแน่ เนื่องจากเดินออกจากบ้านมาพกอาวุธมีดออกมาด้วยถึง 2 เล่ม

อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอโทษกับเจ้าของร้านจุดเกิดเหตุ แต่อยากบอกว่าไม่ได้มีเจตนา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ตนก็อยากให้ทางฝ่ายคู่กรณีออกมาพูดคุยกับทางฝั่งของตนจะได้เป็นการจบเรื่อง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส