“อาร์ต พศุตม์” ลั่นมี “แมท ภีรนีย์” เป็นไอดอล เตือนเกรียนคีย์บอร์ดระวังตัว!

1 ก.พ. 64

 

นักแสดงหนุ่ม "อาร์ต พศุตม์" เผยเมินดราม่าคอมเมนต์แซะทำดีสร้างภาพ หลังทำอาหารแจกแรงงานต่างชาติ ส่วนประเด็นร้อนโพสต์ถึงคนเบี้ยวค่ารักษาหนีออกจากรพ. เจ้าตัวเบรกหัวทิ่มห้ามถามเรื่องดราม่า ลั่นอย่าไปให้ค่า

โดย "อาร์ต พศุตม์" เล่าให้ฟังว่า ตนกับที่บ้านทำอาหารแจกชาวพม่ากันเองเพียงแค่ 3-4 คน เพราะกลัวคนที่มาช่วยเอาเชื้อไวรัสมาแพร่ระบาด เลยทำได้เพียงแค่ 300 กล่องต่อวัน ซึ่งทุนที่สามารถช่วยเหลือคนได้ยาวนานขนาดนี้ ก็มาจากทั้งของตนและครอบครัวรวมถึงเงินบริจาคด้วย โดยตนตั้งใจว่าจะทำต่อเนื่องไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

ส่วนที่หลายคนเป็นห่วงเนื่องจากตนไปแจกอาหารในพื้นที่เสี่ยง ตนก็อยากจะบอกเลยว่า ตนได้พยายามเซฟตัวเองให้มากที่สุดเพราะไม่อยากให้คนอื่นเขาเดือดร้อนกับตนด้วย อีกอย่างตัวเองก็กลัว เพราะมันเป็นโรคติดต่อที่ค่อนข้างแรง

เมื่อถามว่าตนทำดีมาตลอดแต่ก็ยังเจอชาวเน็ตมาแซะมีท้อบ้างไหม ตนก็อยากจะบอกว่า อย่าไปให้ค่าหรือให้ความสนใจเขาดีกว่า แต่ตนก็อยากจะบอกคนกลุ่มนี้ว่าให้ระวังตัวกันไว้ด้วย เพราะตนมี "แมท ภีรนีย์" เป็นไอดอล ตอนนี้ก็แคปไว้หมดแล้ว หากมีอีกหนึ่งครั้งก็รอดูกันได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ช่วงโควิดทำอาหารไปช่วยชาวพม่า ?
“ก็ทำตั้งแต่ประมาณวันที่ 21 จนเมื่อวานก็ยังทำอยู่ครับ ประมาณ 40 วันได้แล้ว”

จุดเริ่มต้น ?
“จุดเริ่มมาตั้งแต่โควิดรอบแรก ขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาแจก รู้สึกว่ากรุงเทพตอนนั้นระบาดหนัก แต่ตอนนี้สมุทรสาครระบาดหนักเราก็เลยลงให้สมุทรสาครก่อน ตอนนี้อย่างที่บอกเหมือนเป็นการทำไปแล้ว เราก็เลยต้องทำต่อเพราะว่าจริงๆ แล้วที่เอาข้าวไปให้พวกคนพม่าคือไม่อยากให้เขาหนีออกมา ให้เขามีกินอยู่ในนั้นบางที่ด้วยอุปกรณ์เราครบเราก็เลยบอกแม่ว่า งั้นเราทำอาหารแจกไหมแต่เราทำได้แค่วันละประมาณ 300-400 กล่อง เพราะเราทำกัน3-4 คน เราไม่ได้ทำกันเยอะ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าคนที่มาช่วยเราเขามีไทม์ไลน์อะไรบ้าง เราก็เลยไม่กล้าให้มาช่วย”

หลายคนมองว่าเราไม่กลัวที่จะไปพื้นที่เสี่ยงตรงนั่นเหรอ ?
“จริงๆ โควิดถ้าศึกษาดีๆ มันก็ป้องกัน พูดกัน การสัมผัส แต่เราไม่ได้สัมผัสและเราก็ไม่ได้ไปพูดกับคนที่เขาอยู่ในนั้นด้วย ถ้าพูดเราก็จะใส่แมสก์ป้องกันตลอด แล้วผมไม่แน่ใจว่ากี่นาทีที่มันอยู่ในอากาศได้ แต่ถ้าอยู่ในน้ำมันก็อาจจะอยู่ได้นาน เราก็ต้องศึกษาก่อนป้องกันคือขึ้นรถมาพกแอลกอฮอล์ พยายามเซฟตัวเองให้ได้มากที่สุด แต่จะติดหรือไม่ติดเป็นอีกเรื่องหนึ่งแต่ก็พยายามบอกตัวเองว่า พยายามป้องกันเซฟตัวเองให้ดีๆ เพราะไม่อยากให้คนอื่นเขาเดือดร้อนกับเราด้วย”

มีความกลัวไหม ?
“กลัวครับ ต้องกลัวอยู่แล้วมันเป็นโรคติดต่อที่ค่อนข้างแรง แต่ว่าอย่างที่บอกถ้ามันแรงกับตัวเองคนเดียวมันโอเคแต่ว่าด้วยการพูดกันแล้วมันเป็นละอองถ้าสมมุติมีคนหนึ่งเป็นคนในนี้ก็ต้องกักตัวกันหมด นั้นคือความเดือดร้อนของโลกนี้ เราไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะเรา”

อยู่ในพื้นที่สีแดงไหม ?
“แดงครับ”

ใช้ชีวิตลำบากไหม ?
“ไม่ลำบากครับ เพราะว่าอย่างผม ผมแค่จากบ้านไปที่ทำอาหารเอาไปแจกคนแล้วก็กลับบ้านทุกวันนี้ชีวิตมีแค่นี้ ทุกวันนี้พยายามไม่ไปที่คนเยอะๆ”

การเข้ามาทำงานที่กรุงเทพต้องมีการทำอะไรไหม ?
“ผมไม่ต้องมีการลงเอกสารอะไร เพราะว่าเรามาทำงานอันนี้น่าจะเป็นเกี่ยวกับแรงงานหรือเปล่า”

ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ผ่านด่าน ?
“เรื่องด่านต้องบอกว่าบางทีโควิดก็ไม่ได้ออกเป็นเวลาเนอะ ก็ถ้าจะตั้งก็ตั้งให้มันตลอด บางที่ตั้งแล้วก็หยุดไม่รู้หรอกว่ามันเล็ดลอดไปตอนไหน อันนี้ก็ต้องฝากไว้นิดหนึ่งไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่นะ เพราะว่าเราก็รู้ว่าตอนนี้เขาทำงานหนักแต่ว่าก็อย่างที่บอกถ้าจะให้มันจบในคราวเดียวก็ต้องพลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเวรที่เขาอยู่คอยตรวจ แต่เดี๋ยวประชาชนที่เขาเดินทางไปๆ มาๆ ก็จะบอกว่ารถติดอีกอันนี้ก็ต้องเข้าใจกันต่างคนต่างเข้าใจกัน”

ย้อนถามข้าวที่เราทำแจกทั้งหมดเท่าไหร่ ?
“วันละ 300 คูณ 40 วัน แล้วก็มีเครื่องพ่นแอลกอฮอล์อีกประมาณ 60 กว่าเครื่อง ชุด ppe อีก 3,000 กว่า”

อันนี้คือคนที่บริจาคเข้ามา ?
“เรียกว่าเป็นคนที่ร่วมช่วยคนไทย ร่วมทำบุญกับเรามา”

จะทำเพิ่มมากกว่าเดิมไหม ?
“มันเพิ่มมากกว่าเดิมไม่ได้ เพราะว่าการผัดหมู 15 กก. แล้วต้องผัดวันหนึ่ง 3-4 กะทะ มันไม่สามรถเพิ่มคนได้ แต่ถ้ามันเป็นสถานะการณ์ปกติที่ไม่ได้เป็นโรคระบาด ให้คนมาช่วย วันล่ะ 5 พันกล่องผมก็ทำได้ แต่วันนี้มีคนอยู่แค่ 4-5 กล่องเท่านั้นเอง”

ใครเลือกเมนู ?
“ผมกับแม่ แต่บางทีก็จะมีคนเอาลูกชิ้นหมูมาให้ลูกชิ้นปลามาให้ เราก็จะโอเคว่าวันนี้จะทำอะไร โชคดีที่มีเครื่องทำน้ำพริกของแม่ มันมีที่ช่วยผัด 3-4 กะทะ มันก็ยังไม่เหนื่อยมาก ตอนผัดไม่เหนื่อยแต่ตอนใส่กล่องอันนั้นเหนื่อย เพราะใส่กล่องอย่างน้อยมี 2 ชั่วโมงเพราะเราใส่ลงไปหลายอย่าง”

วางแผนว่าจะทำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน ?
“จนกว่าผมจะทำงานจริงจัง เพราะตอนนี้ผมก็จะมีเรื่องของฟิตติ้ง ถ้าผมทำงานจริงจังแล้วก็จะให้แม่หรือน้องเข้าไปช่วย มันอาจจะได้ไม่เยอะเท่าเดิมแต่ก็พยายามทำให้นานที่สุด คิดว่าผมน่าจะทำงานจริงจังก็ประมาณกลางเดือนนี้ตอนนี้ก็ทำกับข้าวก็ประมาณ 300-400 กล่องต่อวัน”

เราทำดีมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังเจอชาวเน็ตมาแซะมีท้อบ้างไหม ?
“อย่าไปให้ค่าหรือให้ความสนใจเขาดีกว่า มาขายน้ำพริกมาซื้อน้ำพริกกันดีกว่า มาสนับสนุนกันดีกว่าอย่าไปให้ค่าคนพวกนี้เลย”

แต่ก็เห็นเราไปตอบในคอมเมนต์ ?
“คอมเมนต์ที่ดีดีเราก็ไม่ได้เข้าไปตอบเพราะเราให้ค่าเขา แต่คอมเมนต์ที่ไม่ดีเราเข้าไปตอบ เพื่อให้เขารู้ว่าเราไม่ได้ให้ค่าเขา เราเลยตอบแบบนั้น ถามว่าเหนื่อยไหม ไม่เหนื่อยครับกับคนพวกนี้ผมสู้มา 10 ปีแล้ว”

ยังเป็นกลุ่มเดิมๆไหม ?
“ยังเป็นคนเดิมๆ แหล่งข่าวเดิม ผมทำมา 40 วันไม่มีข่าว แต่พอมีเรื่องอะไรปุ๊บ ลงปั๊บผมก็โอเค ผมไม่ได้ว่าอะไร คือถ้าผมท้อผมเลิกทำมาตั้งแต่หลายปีที่แล้ว”

อยากพูดอะไรไหม ?
“ไม่พูดครับ ไม่อยากให้ค่าคนพวกนี้”

แม่ให้กำลังใจอย่างไรบ้าง ?
“คนที่ฟังอยู่ถ้าอยากให้กำลังใจก็ไปซื้อน้ำพริกแม่ได้นะครับ มีน้ำพริกหลายอย่างเลยครับ มีหมูทอดด้วย รายได้ส่วนหนึ่งก็จะไปช่วยคน อย่าไปสนใจข่าวพวกนี้เลยไร้สาระ”

ถามเรื่องที่โพสต์วันก่อน ?
“อย่าไปให้ค่าคนพวกนี้จริงๆ”

แต่เราโพสต์ ?
“ก็นั่นแหละ อย่าไปให้ค่าเขา”

เราบอกว่าระวังเหงา ?
“นั้นแหละ ก็มีแมทเป็นไอดอล ก็ระวังตัวกันไว้ เท่านั้นเองครับ”

แสดงว่าหลังจากนี้ถ้าเกิดมีใครเข้ามาดราม่าเราฟ้องอย่างเดียว ?
“ก็แคปอย่างเดียวครับ แคปไว้หลายอันแล้ว อย่าไปให้ค่าเขา ให้โอกาสหนึ่งครั้ง ถ้ามีอีกหนึ่งครั้งก็เข้ารอบต่อไป เราให้โอกาสกันครับ”

s__34332863

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส