วางรากฐาน! “เจเน็ต เขียว” ปัดทิ้งวงการไปทำสวน! รับย้ายไปอยู่โคราชถาวร

1 ก.พ. 64

โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน สำหรับนักแสดง และนักร้องชื่อดัง "เจเน็ต เขียว" แต่ช่วงหลังจะเห็นได้ว่า เจเน็ต ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่ที่สวน จนหลายคนสงสัยว่า ไม่รับงานในวงการบันเทิงแล้วหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สุดซึ้ง "เต๋า" พี่สาว เผยแชท "แต้ว" เล่าวินาทีพ่อมาหา
- สละโลด สดชื่น! "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" ประกาศข่าวดี "เนเงิน" ขอแต่งงานแล้ว!
- มรสุมชีวิต “นุ๊ก สุทธิดา” ตรวจพบค่ามะเร็งสูงขึ้น เตรียมรักษาด้วยการกลืนแร่

เจเน็ต เผยว่า งานในวงการบันเทิงยังมีอยู่ แต่เผื่ออนาคตอาจจะน้อยลง หรือไม่มีเลย จึงรีบไปวางรากฐานเอาไว้ก่อน ตนสามารถอยู่กับสายธรรมชาติได้โดยที่ไม่ได้ห่วงแสงสีและชื่อเสียง สำหรับรายได้ตอนนี้ยังไม่มี เพราะเพิ่งจะลงต้นไม้ คาดว่าอีก 3 ปี ก็จะได้ผลผลิตของมะพร้าวน้ำหอม และในระยะยาวตนตั้งใจจะทำเป็นคาเฟ่สวนผลไม้ ตอนนี้ตนขายบ้านที่กรุงเทพฯแล้ว และย้ายไปอยู่นครราชสีมาอย่างถาวร

ตอนนี้ผันตัวไปอยู่สวนอยู่ไร่แล้ว ?
“ใช่ค่ะ ไร่อีเจ้ย บอกพี่หม่ำตั้งแต่ปีที่แล้วว่าหนูไปทำไร่นะ เขาก็บอกว่า ดีมากเลย คือโควิดทำให้เราเป็นชาวไร่ชาวสวน จริงๆตั้งใจจะผันตัวเองไปอยู่ที่โน้นอยู่แล้ว แต่ว่าได้ไปเร็วขึ้น แล้วก็ทำอะไรเสร็จภายใน 3 เดือน “

ตัดสินใจไปทำสวนเพราะไม่มีงานในวงการ ?
“ งานในวงการยังมีตลอดเลย แต่ว่าตั้งแต่เราเสียรัชกาลที่ 9 ไป เราก็อยากจะไปสำนึกรักบ้านเกิด ไปทำไร่ทำสวน ไปทำจากดินแข็งๆไม่มีต้นไม้เลย ให้มันร่มเย็น ตอนนี้ทำแล้วสวยมาก เดี๋ยวจะเอาโดรนถ่ายด้านบนให้เห็น เดี๋ยวรอได้กินทุเรียนก่อน ทุเรียนไร่อีเจ้ยจะอร่อยที่สุด “

งานเลื่อนเยอะไหม ?
“ เยอะเลยนะคะ คอนเสิร์ตไม่ต้องหวัง เลื่อนยาวเลย ไม่มีกำหนด ตอนนี้ก็รอว่างานไหนจะเซฟตี้ได้ แล้วองค์กรไหน ให้เราสามารถทำงานได้ แต่ละครยังพอได้ ทุกคนดูแลตัวเอง เพราะไม่มีใครอยากเป็น ทุกคนกลัว เวลาเป็นมันจะยุ่งยาก ลำบากตัวเอง ต่อเนื่องไปจนถึงวันข้างหน้า ปอดก็จะเสียหมด “

ห่วงภาพลักษณ์ตัวเองไหมจากนักร้องไปทำสวน ?
“ ไม่ค่ะ เราทำไร่ทำนาควบคู่กัน เราก็จะได้เป็นตัวอย่างให้หลายคนได้เห็นว่าเราสามารถไปอยู่กับสายธรรมชาติได้ โดยที่ไม่ได้ห่วงแสงสีชื่อเสียง ชื่อเสียงเรายังมี คนยังจำได้ เราใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ ให้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนกำลังจะผันตัวไปปลูกต้นไม้ อย่างสวนตัวเองมีมะพร้าวน้ำหอม 57 ต้น ติดทุกต้น แล้วอีกแค่ 3 ปี ก็ได้กินล่ะ “

ลงไปทำเองทุกอย่าง ?
“ ลงไปทำเองค่ะ แฟนเป็นคนลง เราก็ช่วยทำทุกอย่างเลย อยู่ตรงนั้นทุกวัน ไม่มีเหนื่อยเลย มันมีความสุขค่ะ ทำงานทั้งวัน บางวันได้เดินเป็นหมื่นก้าว เพราะฉีดจุลินทรีย์ก็เดินรอบ “

ถามถึงรายได้ ?
“ ยังไม่มี “

สวนอยู่ที่ไหน ?
“ โคราช นครราชสีมาค่ะ พื้นที่ 12 ไร่ มีน้ำล้อมรอบ “

อนาคตจะทำเป็นธุรกิจไหม ?
“ เป็นธุรกิจแน่นอน เราจะทำเป็นตัวอย่างด้วย เป็นแนวทางให้ทุกคนได้เห็นด้วย ว่าคุณสามารถใช้ดินตรงนี้ทำอะไร แล้วเราก็มีติดโซลาร์เซลล์เพื่อดึงน้ำขึ้นมา จะได้มีน้ำตลอดทั้งปี เมื่อทุกอย่างออกดอกออกผลจะทำเป็นคาเฟ่ผลไม้ ทุกคนที่เข้ามาไร่เราจะเด็ดอะไรกินก็ได้ เพียงทานกาแฟแค่ 1 แก้ว “

แพลนระยะยาวเลย ?
“ ใช่ค่ะ เราทำให้สวยด้วย แล้วก็ให้มีผลผลิตให้ได้กินด้วย “

อีกกี่ปีจะเป็นอย่างที่เราตั้งใจ ?
“ 3 ปีน่าจะได้แล้วนะ แต่มะริด 8 ปี เขามีคุณสมบัติทำให้ดินเย็น แล้วไม้เขาก็เอามากีต้าร์ได้ ระนาดก็ได้เสียงจะกังวาลมาก รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ แต่ผลเขาอาจไม่เป็นที่นิยม คือข้างในกลิ่นจะเหมือนคาราเมล แล้วก็มีไฟเบอร์ด้วย อร่อย “

วางแผนระยะยาวขนาดนี้เพราะกลัวอนาคตงานเราน้อยลง ?
“ มีส่วนค่ะ เพราะว่าคนใหม่ๆเกิดขึ้นเยอะด้วย ใครก็สามารถที่จะมีคอนเทนท์ด้วยตัวเอง แค่ใช้มือถือถ่าย ซึ่งก็อาจจะกลายเป็นเน็ตไอดอลได้ หรือเป็นที่ชื่นชอบและเป็นตัวอย่างให้คนอื่นได้ บางทีพี่ยังตามเลย คนนี้ดังจากอะไร นี่ก็เพิ่งกลับมาเล่น TikTok “

เห็นว่าเพิ่งปล่อยเพลงใหม่ ?
“ เพิ่งปล่อยเพลงใหม่ค่ะ ฝากไว้ด้วยนะคะ เพลง หิวล่ะเฮ้ย คิดไว้ว่าปีหนึ่งจะปล่อย 3 เพลง เพราะอั้นมาจากปีที่แล้วด้วย อย่างปีที่แล้วมีเพลง คอหวย “

ปล่อยเพลงออกมาในช่วงที่ไม่มีงานจะลำบากไหม เอ็มวีก็ลงทุนเหมือนกัน ?
“ก็คือไม่เป็นไรค่ะ หมายถึงคืนกำไรให้ทุกคนรู้ว่าเราก็เป็นนักร้องนะ ลงทุนไปเหอะ ก็อยากทำอะไรให้ จริงๆ แล้วก็มีเพลงสำหรับโควิด ด้วย 2 เพลง เพลงบ้านไผ บ้านมัน แล้วก็อีกเพลงเป็นเพลงให้กำลังคุณหมอพยาบาลที่เขาเหนื่อย หยุดเชื้อเพื่อชาติ ปล่อยไปแล้วตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว”

กลัวลงทุนแล้วสูญเปล่าไหม ?
“สูญเปล่าก็ไม่เป็นไรค่ะ เราอยู่วงการมานาน นี่คือสิ่งที่เราจะทำให้วงการได้ ทำอะไรคืนให้กับแผ่นดินได้ เรารู้ว่าโควิดมันอันตรายยังไง เราก็อธิบายเป็นเสียงเพลง ให้ทุกคนรู้ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เพราะเราเป็นนักร้อง”

เรามีสปอนเซอร์ไหม ?
“ไม่มีสปอนเซอร์ค่ะ สปอนเซอร์ตัวเอง เรามีต้นทุนในการทำเพลง โดยที่แฟนเราเป็นโปรดิวซ์อยู่แล้ว สร้างเพลงได้เองอยู่แล้ว แล้วก็มีแนวร่วมจากพี่เจมส์ จิรกันต์ ที่เป็นนักแต่งเพลง ก็บอกว่าขอแต่งเพลงเกี่ยวกับโควิด ให้คนรู้ว่ามันร้ายกาจขนาดไหน ทุกคนแยกกันก่อน สิ่งที่เราจะทำให้ทำสังคมได้คือตรงนี้”

โปรเจกต์ปั้นเด็กๆ ยังมีอยู่ไหม ?
“ปีที่แล้วมี เบลล์ ทรงสิทธิ์ แล้วก็มีน้องโบกี้ สุทธิตาตอนนี้มีน้องปิ๊ง ณนิษา เพิ่งจะลงได้เดือนเดียว ชื่อเพลงอยากมีแฟนเป็นเด็กแว้น”

ย้อนกลับไปเรื่องไร่อีเจ้ย ใช่ที่เคยบอกไว้ว่าจะขายบ้านไปสร้างรากฐานที่บ้านเกิดไหม ?
“เรียบร้อยค่ะ ขายบ้านเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ย้ายไปอยู่ที่โน่นเรียบร้อย บ้านที่เพื่อนเอามาแลกรีสอร์ต เราก็รื้อแล้วบูรณะ เดี๋ยวจะไปทำให้สวยงาม เป็นแพลนตามที่ตั้งใจไว้ ถ้าเข้ากรุงเทพเราก็ยังมีที่พักไว้สำหรับเก็บของเก็บงาน เป็นบ้านที่เช่าอยู่ค่ะ ตอนนี้คืออยู่ที่โคราช จะเข้ากรุงเทพมาเพื่อทำงานให้น้องๆ ใช้ชีวิตอยู่โคราชค่อนข้างเยอะ ฉีดจุลินทรีย์ เกี่ยวข้าวเอง กำลังจะซื้อเครื่องสีข้าวเองด้วย ตอนแรกเราไม่ได้ปลูก แค่หว่านไว้เพื่อปรับดิน แต่พอดีปีที่แล้วมีพายุเข้ามาไม่ขาด เลยทำให้ฟาร์มที่เราคุมดินขึ้นมาเป็นข้าว ซึ่งได้มา 10 กระสอบ ใครที่ติดตามในเพจจะเห็นว่าเราตีข้าวเอง”

เป็นต้นทุนที่มาจากการขายบ้านเพื่อไปก่อร่างสร้างตัวใช่ไหม?
“ใช่ เดี๋ยวไปทำตรงโน้นให้สวยงาม แล้วจะได้ไปดู ว่าสวยขนาดไหน ผลไม้ต้นไหนทานได้แล้ว มีทั้งไม้ป่าแล้วก็ไม้ผล”

เราจะเดินหน้าทำธุรกิจก่อน เอาประสบการณ์ที่เคยทำมาปรับปรุงใช่ไหม?
“เราทำธุรกิจแบบยั่งยืน ลงดินไว้ อย่างน้อยไม่มีผลแต่ก็ทำให้เราร่มเย็นใจ เพราะนี่คือผืนแผ่นดินเรา ที่เรา เราปรับไว้เพื่อว่าวันข้างหน้าไม่มีอะไรกินจริงๆ แล้วผลไม้ที่เราปลูกทั้งหมด มันขึ้นมาพร้อมกัน เราสามารถที่จะแบ่งปันได้”

ไปอยู่ตรงนั้นแล้วเราดูแฮปปี้ คิดจะพักงานในวงการไปเลยไหม?
“ไม่พักค่ะ ก็มาหาเงินในวงการเพื่อไปซื้อไม้พันธุ์ลงไร่ ตอนนี้ก็ทำงานควบคู่กันอยู่ อย่าลืมติดตามนะคะ ไร่อีเจ้ยคาเฟ่ผลไม้”.

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส