กรณีพ่อตาสุดคับแค้นใจ หลังเพื่อนบ้านเมาแล้วชอบหาเรื่องลูกเขยป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ทั้งตบหัวด่าถากถาง ปรึกษาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเตรียมแอบถ่ายคลิปวิดีโอแจ้งความ แต่เช้าอีกวันกลับมาป่วนอีกครั้ง สุดจะทนจึงคว้ามีดปอกผลไม้แทงจนเสียชีวิต ในพื้นที่ ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม ที่เกิดเหตุพบนายมานพ จันศิริ อายุ 56 ปี อาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยที่บริษัทแห่งหนึ่ง ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในอาการสงบ
ส่วนศพนายประหยัด แสวงสุข อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ถูกนายมานพ แทงที่คอ กลางอก ซี่โครงขวา และใต้ชายโครงขวา รวมทั้งหมด 4 แผล ถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้าแล้ว
นายมานพ จันศิริ อายุ 56 ปี อาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยที่บริษัทแห่งหนึ่ง ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่า ผู้ตายชอบเข้ามาหาเรื่องทะเลาะด่าทอคนในบ้านของตน โดยครั้งนี้ผู้ตายได้มาหาเรื่องด่าทอตน และคนในบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และตนได้นำเรื่องไปปรึกษากับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และกำลังจะไปแจ้งความในตอนเช้า แต่พอรุ่งเช้าผู้ตายได้เข้ามาด่าทอ ข่มขู่ที่บ้านตนอีกครั้ง
จากนั้นมานั่งทับหัวนายอรุณ มาเจริญ อายุ 62 ปี ลูกเขยที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนตนทนไม่ไหว ด้วยความโมโหจึงคว้ามีดปลอกผลไม้แทงผู้ตายเข้าที่ข้างหลังและที่ท้องจนล้ม ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายมานพ ไปสอบสวนต่อที่ สภ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
นายอรุณ มาเจริญ อายุ 62 ปี ลูกเขยของนายมานพ เล่าว่า ตนและคนที่บ้านมักจะถูกผู้เสียชีวิต ซึ่งอาศัยอยู่บ้านติดกัน ที่เวลากินเหล้าเมาแล้วมักจะชอบด่าทอและพูดจาข่มขู่มาเป็นเวลานานหลายครั้ง และถูกผู้เสียชีวิตตบหัวแบบไม่ให้เกียรติ และดูพูดถูกถากถางไปด้วย ซึ่งตนต่อสู้ไม่ได้ เพราะเป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ได้ นายมานพ ซึ่งเป็นพ่อตา พยายามบอกว่าให้ตนอดทนและจะเข้ามาช่วยเพื่อแจ้งตำรวจ แต่ผู้ตายก็ยังมาหาเรื่องอีก กระทั่งพ่อตาทนไม่ไหวคว้ามีดมาแทงเพื่อปกป้องตัวเอง ไม่คิดว่าจะถึงตาย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสพูดคุยกับ น.ส.ยุพา หมัดมงคล อายุ 62 ปี เมียผู้ตาย พาทีมข่าวเข้าไปดูห้องบูชาของเขมรของนายประหยัด สามี ที่เสียชีวิตไป ในห้องพบโต๊ะบูชาเต็มไปด้วยบายศรี และมีพวกมาลัยแขวนอยู่ ในพานภรรยาบอกว่า เป็นของเขมร ที่ผู้ตายบูชา เรียกว่า "ครูกำเนิด" เป็นของบูชาทางเขมร ที่ภรรยาผู้ตายไม่เคยเห็น
น.ส.ยุพา บอกว่า สามีตนชอบบูชา เล่นของทางเขมรมาก เพราะเป็นคน จ.สุรินทร์ แต่ไม่ใช่ร่างทรงหมอดู แค่ชื่นชอบ "เรียกว่าบ้าไสยศาสตร์มาก" คล้ายมโนไปเอง ไม่ได้ดูเคร่งหรือน่ากลัวอะไร หลังจากนี้คงจะนำของทั้งหมดไปไว้วัด ตนไม่สามารถดูแลต่อได้ เพราะสามีเสียชีวิตไปแล้ว
ทั้งนี้นิสัยใจคอสามี ตอนแต่งงานกันใหม่ ๆ เมื่อ 10 ปีก่อนเป็นคนดีมาก ๆ ไม่มีปากเสียง เฉย ๆ ไม่ยุ่งกับใคร แต่พอระยะหลังชอบดื่มเหล้าเมา จึงเปลี่ยนไปโวยวายตลอดเวลา แต่ไม่เคยทำร้ายตน แต่ตนทำงานจึงไม่ค่อยอยู่บ้าน ตนยอมรับว่า เหนื่อยใจเหมือนกัน ที่สามีชอบไปโวยวายใส่น้องข้างบ้าน ทั้งนี้ตนไม่โกรธ ที่นายมานพ น้องเขย ใช้มีดแทงสามีตัวเองตาย เพราะเข้าใจดี ว่าเป็นการป้องกันตัว เป็นเหตุสุดวิสัย ถ้าไม่หนักหนาจริง ๆ นายมานพคงไม่ทำ และตนก็ไม่เอาเรื่องเพราะเป็นครอบครัวเดียวกัน
จริง ๆ ไม่น่ามีเรื่องอะไรแบบนี้ แต่สามีตนนิสัยไม่ดี เวลาเมาชอบทะเลาะกับคนอื่นไปทั่ว ส่วนปืนตนไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่ แต่สามีชอบพูดขู่ว่ามีปืน ถ้าไม่พอใจใครก็จะนำไปทำร้าย แต่ตนยังไม่เคยเห็น ถามว่าตนเสียใจหรือไม่ ก็มีบ้างแต่ไม่มาก เพราะ พักหลังอยู่กับสามีเหนื่อยใจที่สุด เงินทองก็ต้องหากินหาใช้เอง เพราะไม่ทำงาน
ทั้งนี้ ตนขออโหสิกรรม ขอให้สามีไปดี เมื่อเช้าตอนดูศพคือตาก็ไม่หลับ ต้องเอามือช่วยให้ตาปิดสนิท และบอกให้สามีไปดี ตนคิดว่าวิญญาณสามีจะวนเวียนไม่ไปไหน ยังไม่รู้ว่าสามีจะกลับมาแบบไหน น่ากลัวหรือไม่น่ากลัว แต่ไม่อยากให้มา อยากให้ไปสู่สุคติ สุดท้ายตนไม่เสียใจที่ชาวบ้าน สมน้ำหน้าที่สามีตนถูกแทงตาย คิดว่าสมควรแล้ว ที่เจอแบบนี้
ส่วนศพนายประหยัด ครอบครัว ส่งไปชันสูตรต่อที่โรงพยาบาลเมืองนครปฐม และจะรับศพกลับออกมาอีกที ในวันจันทร์ที่ 1 ก.พ.64 เพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดใกล้บ้าน
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบกับ น.ส.แก้วมณี (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ลูกสาวนายมานพ พาทีมข่าวดูจุดที่นายประหยัด ผู้ตาย จะเข้ามาทำร้ายนายอรุณ พร้อมทั้งยังเข้ามานั่งทับหัวบริเวณเตียงนอนของนายอรุณ นอกจากนี้ น.ส.แก้วมณี ยังชี้ให้ทีมข่าวดูโต๊ะบูชา ของนายอรุณ ที่มี พระพุทธรูป 3 องค์ กุมาร 1 องค์ รูปปั้น เห้งเจีย 2 องค์ และมีธูปไว้สำหรับไว้บูชา ส่วนที่บันไดบ้าน มีรูปปั้นพ่อแก่แต่งกายชุดขาวตั้งอยู่ด้วย
น.ส.แก้วมณี บอกว่า นายอรุณป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ร่วม 2 ปีแล้ว จึงหันมาบูชาสิ่วศักดิ์สิทธิ์ตามที่วางอยู่บนโต๊ะ และจะหมั่นสวมมนต์บูชาไหว้พระเป็นประจำ เพราะทำแล้วอาการป่วยดีขึ้น แต่ไม่ได้ดูดวง หรือเป็นตำหนักอะไร ที่ผ่านมานายประหยัด ชอบเล่นของเล่นไสยศาสตร์ เพื่อนบ้านที่เป็นญาติกัน มักชอบมาหาเรื่อง และพยายามทำร้ายนายอรุณบ่อยครั้ง คงบ้าคิดไปเองว่านายอรุณ จะเล่นของใส่เพราะมีโต๊ะเหมือนกัน ทำให้ชอบมาหาเรื่องทะเลาะกันบ่อย
ทั้งนี้เวลาพวกตนอยู่บ้าน ก็คอยห้ามคอยกัน ตนยังเคยโดนนายประหยัดชี้หน้าด่าเหมือนกันว่า จะมายุ่งทำไม เดี๋ยวจะทำของใส่ให้ตายไปเลย พ่อตนเป็นคนที่ชอบปกป้องครอบครัว ถ้าใครจะมาทำร้ายคนในบ้านไม่ได้ แต่ถ้าทั่วไปจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร ซึ่งสิ่งที่พ่อทำไปสุดจะทนแล้ว หลังเกิดเหตุพ่อไม่หนีไปไหน ยืนรอมอบตัว เพราะถือว่าสิ่งที่ทำเป็นการปกป้องคนในครอบครัว และพ่อไม่เคยมีเรื่องกับนายประหยัด ผู้ตายมาก่อน มีแต่นายประหยัด มักจะชอบมาหาเรื่องนายอรุณ
อย่างไรก็ตาม เวลานายประหยัด ไม่กินเหล้าจะไม่หาเรื่องใคร ไม่สุงสิงกับใคร แต่หากเมาก็ชอบทำแบบนี้ เมื่อตายไปคนเลยไม่ค่อยสงสาร ชาวบ้านมามุงดูก็สมน้ำหนักทุกคน และตนก็ไม่ไปยุ่งเกี่ยว แม้นายประหยัดจะตายคาบ้าน ส่วนเรื่องเชิญวิญญาณให้เมียคนตายทำ เรื่องคดีให้ตำรวจดำเนินการไป ตอนนี้เตรียมหาคนประกันตัวพ่อ
