แม่เฒ่ากกกอกป่วย ร่างทรงชี้มีคนถมที่ทำผีเฮี้ยน ชาวบ้านจี้ยูทูเบอร์ขมาพระ (คลิป)

เมื่อวันที่ 26 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่าที่บ้านของยายกลม ปู่ฝ้าย อายุ 76 ปี ผู้เฒ่าผู้แก่ประจำหมู่บ้านกกกอก มีหมอทรงหรือหมอเหยา อายุ 27 ปี มาจาก จ.สกลนคร ซึ่งเดินทางมาประกอบพิธีเหยาให้กับยายกลม เพราะเนื่องจากยายมีอาการปวดหัวเข่าทั้งสองข้าง

โดยตามความเชื่อของชาวบ้านและชาวภูไท เชื่อกันว่าอาจมีสิ่งที่มองไม่เห็นทำให้ยายต้องปวดเข่า เนื่องจากเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้วแต่ยังไม่ดีขึ้น จึงได้พึ่งความเชื่อของชาวภูไท เชิญให้หมอเหยา มาประกอบพิธีเพื่อสื่อสารกับสิ่งที่มองไม่เห็น

โดยระหว่างการประกอบพิธีจะมีการใช้เสียงแคน ประกอบกับบทสวดเฉพาะ ซึ่งเป็นภาษาภูไท ในการประกอบพิธีสื่อสาร (แหล่ภูไท) โดยได้มีการนำขันธ์ 5 วางไว้บริเวณกลางพิธี ยกสูงด้วยหมอน 2 ใบ เตรียมเครื่องประกอบพิธีอาหารคาวหวาน ดอกไม้ธูปเทียน ทำพิธีสื่อสารกับสิ่งที่มองไม่เห็น

จากนั้นช่วงท้ายพีธี ได้มีการเรียกขวัญคืนกลับมาให้กับยายกลม โดยลูกหลานจะต้องเป็นคนไปรับของเซ่นจากมือหมอ โดยมีนางนลิน หรือ ป้าถอน นำผ้าขาวม้าไปรองเพื่อรับของเซ่น และยกไปให้กับยายกลม ทำการหวีผมแต่งหน้า รับเอาของเซ่นใส่มือ ด้านหมอเหยาผูกข้อมือให้ยายกลม 

ด้านยายกลม เปิดเผยว่า ตนปวดเข่า 2 ข้าง ลักษณะเหมือนมีคนเหรียบและกัดกินขา ปวดเป็นระยะ ๆ ทั้งที่กินยาแล้วแต่ก็ไม่ดีขึ้น จึงได้พึ่งหลักความเชื่อของชาวภูไท เชิญหมอเหยามาทำพิธี สื่อสารกับสิ่งที่มองไม่เห็น จนกระทั่งทราบว่ามีผีป่า ผีเขา มาทำร้ายให้ยายต้องเจ็บเข่า โดยมีการกัดกินและนั่งทับ เพราะมีคนในหมู่บ้านมีการถมที่ถมทาง โดยเฉพาะถมพื้นที่นา ทำให้เจ้าที่เกิดความไม่พอใจ เพราะไม่มีการบอกกล่าว จึงมีผีป่าผีเขามาทำร้ายผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน โดยตนก็ต้องพึ่งหลักความเชื่อในการรักษา และหากอาการดีขึ้นหรือหายกลับมาเป็นปกติ ก็จะมีการแก้บน ช่วงเดือน 4 หรือเดือน ก.พ.64 โดยถวายของเครื่องเซ่นกลางแจ้ง และตนก็จะต้องแก้บนด้วยการรำถวาย

ส่วนตัวอยากจะฝากถึงกลุ่มชาวบ้าน ที่มีการถมที่ถมทาง อยากให้มีการบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง โดยใช้ขันธ์ 5 ขันธ์ 8 เพราะไม่เช่นนั้นสิ่งที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะผีป่าผีเขาก็จะมาทำร้ายคนที่เป็นผู้เฒ่าผู้แก่ เพราะส่วนใหญ่เวลามีการกระทำหรือสร้างอะไร ต้องบอกกล่าวเสมอ

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนางดอน มะลิรส ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า กรณีที่ยูทูเบอร์ที่ไปพูดพาดพิงพระสมบัติในทางไม่ดี ตนในฐานะที่เป็นอุปัฏฐากของวัด ก็อยากให้ยูทูเบอร์นำขันธ์ 5 ไปกราบขอขมาพระ และพูดปรับความเข้าใจกัน ซึ่งในประเพณีของหมู่บ้านตนนั้น ถ้าทะเลาะหรือผิดใจกันก็จะขอขมากับขันธ์ 5 และพูดคุยปรับความเข้าใจกันโดยที่มีพยาน และตนยืนยันว่าตนเป็นกลาง ไม่ได้อยากให้ยูทูเบอร์ออกจากหมู่บ้าน เพราะมียูทูเบอร์บางคนที่เข้ามาขออนุญาตก่อนถ่าย ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้สึกว่าถูกเขาละเมิดสิทธิ์แต่อย่างใด เพราะยูทูเบอร์ดี ๆ ก็มี

อย่างไรก็ตาม ก็มียูทูเบอร์ที่มีน้ำใจ นำสิ่งของมาฝากชาวบ้าน และอย่างน้อยคนในหมู่บ้านก็มียูทูเบอร์เป็นคนสอนให้เปิดช่อง และหารายได้ผ่านยูทูเบอร์

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางนลิน เงินนาม ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า กรณีที่ตนไปร้องเรียนให้ยูทูเบอร์ออกจากพื้นที่นั้น หากเขาต้องการจะขอโทษพระสมบัติ ก็ให้เอาขันธ์ 5 ไปขอขมา เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เคยละลาบละล้วงพระที่ศรัทธาในหมู่บ้านเลย ส่วนยูทูเบอร์พูดค่อนข้างแรง วางอำนาจใส่พระ แต่ถ้ามติออกมาแล้วให้ยูทูเบอร์อยู่แค่บ้านลุงพลอย่างเดียว

สำหรับทนายษิทรา ที่จะมีการพูดถึงพยานบางคนของลุงพลนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าใคร แต่ถ้าเขาจะมาพูดคุยสอบถามตน ตนก็คงไม่มีอะไรจะพูด เพราะตนได้พูดกับตำรวจไปหมดแล้ว และตนก็คงจะไม่พูดอะไรกับทนายตั้ม แต่ตนก็ยังคงยืนยันเรื่องเวลาการไปส่งพระเหมือนเดิม