พระขนทองพันปีไปขายผิดเต็ม ๆ ทนายชี้เป็นของวัด ชาวบ้านจี้ร้านทองคืนด่วน (คลิป)

26 ม.ค. 64

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรจุน อำเภอจุน จังหวัดพะเยา เตรียมดำเนินคดีกับอดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดไผ่สีทอง ตำบลหงส์หิน อำเภอจุน จังหวัดพะเยา หลังชาวบ้านเข้าร้องทุกข์และแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานี พบว่าอดีตพระรูปดังกล่าวกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และผู้รับเหมา นำทองของวัดที่ขุดพบได้ภายในวัดขณะบูรณะ ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 1.2 กิโลกรัม ไปจำหน่ายราคารวม 1,160,000 บาท และนำเงินไปแบ่งกัน โดยชาวบ้านไม่ได้ทราบนั้น

305324

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทองโบราณผุดจากดิน! พระยกก๊วนหอบขายแบ่งเงินล้านอ้างอธิษฐานขอ ชาวบ้านแห่ไล่

875665

ล่าสุด วันที่ 26 ม.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรจุน อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ตั้งข้อกล่าวหานายสุชาติ สมคิด อดีตพระรักษาการเจ้าอาวาสวัดไผ่สีทอง พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ ภักดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 และช่างหนุ่ย ผู้รับเหมาก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรมของวัด ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไป

282280

หลังจากที่ทั้ง 3 ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่นำทองที่พบ 1.2 กิโลกรัม ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหัวใจพระพุทธเจ้าของวัดไผ่สีทอง ไปจำหน่าย โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพ และเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ ทั้งบริเวณร้านทองและธนาคารที่รอรับเงินแล้วมาแบ่งกัน

750770674159698999

สำหรับประวัติของวัดไผ่สีทอง มีขนาดพื้นที่ 10 ไร่ ตั้งอยู่ใน ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรเวียงลอ เมืองโบราณขนาดใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี

948027

ชาวบ้านในพื้นที่ ระบุว่า ตนต้องการได้ทองที่เป็นสมบัติของวัดกลับคืนมา แม่หากจะมีการนำทองไปแปรรูปแล้ว ตนก็ต้องการให้ได้กลับคืนมาในสภาพนั้น และไม่ต้องการเงินชดเชยใด ๆ เพราะทองนั้นมีคุณค่าทางจิตใจ  

513377

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่า กรณีการเจอทองดังกล่าวเป็นการขุดเจอในวัด จึงเป็นทรัพย์สินของวัด การนำไปขายแล้วนำเงินมาแบ่งกันเองถือว่ามีความผิดฐานลักทรัพย์ โดยเฉพาะทรัพย์สินชิ้นนี้เป็นของวัด ซึ่งเป็นสาธารณะ มีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี

444475

นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบว่าทองชิ้นนี้เป็นของโบราณที่กรมศิลป์ฯอนุรักษ์ไว้หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจะมีโทษเพิ่มอีกตาม พ.ร.บ.วัตถุโบราณ โทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี เนื่องจากวัตถุบางชิ้นมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ซึ่งการพบของมีค่าในวัดกรณีที่ไม่ใช่วัตถุโบราณ การจะนำไปขายต้องผ่านมติของกรรมการวัด หรือหากเป็นของสำคัญต้องถามหรือแจ้งไปยังเจ้าคณะจังหวัดก่อน ส่วนกรณีที่ผู้ก่อเหตุมีการแบ่งหน้าที่กันทำ แบ่งเงินกัน ทั้งอดีตเจ้าอาวาส ช่างรับเหมา และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นตัวการร่วมรับโทษเท่ากันทั้งหมด แต่กรณีการขุดเจอสิ่งมีค่า หากพบในที่ดินของตัวเองแล้วนำไปขาย ไม่ถือว่ามีความผิด

สำหรับความผิดการนำวัตถุโบราณไปขาย เข้าข่ายมาตรา 31 ผู้ใดเก็บได้ซึ่งโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ซ่อนหรือฝังหรือทอดทิ้งโดยพฤติการณ์ ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถอ้างว่าเป็นเจ้าของได้ และเบียดบังเอาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุนั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 700,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส