หนุ่มแทงสาวใหญ่ดับต่อหน้าเด็ก อ้างเลือดขึ้นหน้าถูกไฟฉายตีหัวก่อน ญาติเผยปมทนถูกด่าแรมปี (คลิป)

จากกรณีมีหญิงถูกฆ่าด้วยอาวุธมีด บริเวณห้องพักเขาลาภ ม.4 บ้านถนนโค้ง ต.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ในจุดเกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตหญิง 1 ราย ถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดไม่ทราบขนาด สภาพศพคว่ำหน้า มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดประมาณ 4 แผล หลังด้านซ้าย 1 แผล หน้าอกขวา 3 แผล นอนจมกองเลือดหน้าทางเข้าห้อง

ในจุดเกิดเหตุพบสร้อยพระ ของผู้ก่อเหตุตกหล่นอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และนำร่างผู้เสียชีวิตส่ง รพ.ชัยบาดาล เพื่อชันสูตรศพอีกครั้ง ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นางพัชรินทร์ ลาวงษ์ หรือกูด อายุ 51 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสีแก้ว เขียวสมอ หรือ เพชร อายุ 69 ปี ซึ่งต่อมาหลบหนีไปซ่อนในป่าหลังบ้านผู้ก่อเหตุ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ก่อนจะมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเวลา 22.00 น.

ล่าสุดวันที่ 24 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นห้องเช่าแห่งหนึ่ง บริเวณเขาลาภ หมู่ 4 บ้านถนนโค้ง ต.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เป็นห้องเช่าชั้นเดียว ติดกัน 4 ห้อง ที่เกิดเหตุเป็นห้องที่ 2 ภายในห้องมีคราบเลือดแห้งอยู่ที่พื้น บางส่วนมีกระดาษซับเลือดอยู่ ใกล้กันมีที่นอนลูกฟูกปูอยู่ที่พื้น 2 หลัง เลอะคราบเลือดเล็กน้อย กลางห้องมีกับข้าว น้ำพริก ไข่ต้ม ที่ยังรับประทานไม่หมดวางอยู่ในห้อง

ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับนายภานุวัฒน์ คูณขุนทด อายุ 19 ปี เพื่อนบ้าน และเป็นผู้ที่อยู่ข้างห้องผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.64 เวลา 17.00 น. ตนเพิ่งอาบน้ำเสร็จและออกจากห้องไปนั่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน เห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มาที่ห้องด้านข้างตามปกติ ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เห็นว่ารถกู้ภัย 3 คัน เดินทางเข้ามายังที่เกิดเหตุแล้ว และตนไม่เห็นช่วงที่ผู้ก่อเหตุหลบหนี โดยก่อนหน้านั้นตนไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกัน หรือเสียงอื่น ๆ เลย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุหลานสาวของผู้เสียชีวิตก็เดินออกมาขอความช่วยเหลือกับเพื่อนบ้านคนอื่นด้วย สภาพศพผู้ตายมีแผลที่หลัง และนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่

โดยผู้ตายได้ย้ายมาอยู่ข้างห้องได้แค่ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุมักจะเดินทางมาหาผู้ตายเป็นประจำ และมักจะมีปากเสียงทะเลาะกันแทบทุกวัน ตนคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องหึงหวง และเมื่อทะเลาะกันก็มักจะได้ยินเสียงฝ่ายหญิงดังกว่าฝ่ายชายเสมอ เพราะฝ่ายหญิงเป็นคนชอบใช้อารมณ์ หลังจากเกิดเหตุตนรู้สึกตกใจ และคิดว่าไม่น่าจะทำแบบนี้ และรู้สึกกลัวมากเพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน คาดว่าจะย้ายไปนอนที่บ้านข้าง ๆ ซึ่งเป็นบ้านของญาติตนเอง

ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นางลำปาง แตงโม อายุ 55 ปี เพื่อนบ้าน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อวานนี้ (23 ม.ค.64) ช่วงประมาณ 17.00 น. ตนกำลังกวนถั่วเตรียมทำขนมเพื่อจำหน่ายบริเวณหน้าบ้าน ตนเห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาที่บ้านของผู้เสียชีวิต ก่อนที่ต่อมาประมาณ 30 นาที จะได้ยินเสียงคล้ายแก้วแตกดัง “โครม” แต่ตนไม่ได้สนใจอะไร เพราะไม่สามารถทิ้งถั่วที่กวนได้ เนื่องจากกลัวถั่วไหม้

ทั้งนี้ตนคิดในใจว่า ทั้งคู่อาจจะทะเลาะกันหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้เดินไปดู จากนั้นเวลาประมาณ 18.00 น. ตนเห็นผู้ก่อเหตุเดินออกมาจากห้องและขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างของผู้ก่อเหตุที่จอดอยู่หน้าบ้านออกไป โดยไม่มีท่าทีรีบร้อน หรือวิ่งหนีแต่อย่างใด จากนั้นหลานของผู้เสียชีวิตก็เดินร้องไห้ออกมาจากห้องเช่า และบอกว่า “พ่อฆ่าแม่แล้ว” และเดินออกไปนอกบ้าน แต่ตนไม่ได้สอบถามอะไรเด็ก กระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมาถึง และสอบถามตน แต่ตนก็ไม่ทราบ ทั้ง ๆ ที่อยู่ข้างห้อง อาจจะเป็นเพราะประตูห้องของผู้เสียชีวิตบังศพของผู้ตายอยู่

ที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นทั้งคู่ทะเลากัน และทั้งคู่เพิ่งจะย้ายมาอยู่ใหม่เพียง 2 สัปดาห์ ช่วงเช้าวันเกิดเหตุยังมีผู้พบเห็นทั้งคู่หยอกล้อเล่นกันอยู่ และเห็นทั้งคู่มักจะออกไปตอนเช้า และกลับมาตอนเย็นทุกวัน และยังไม่เคยเห็น หรือได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกัน ที่ห้องอีกฝั่งได้ยินเสียง เพราะประตูอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมากกว่า

โดยเวลาประมาณ 17.00 น. ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาขอเปลือกมะพร้าวที่ตนปลอก 4 ลูก และผู้ตายมาขอเปลือกมะพร้าว ก่อนจะเกิดเหตุขึ้น ตนไม่ทราบนิสัยของผู้หญิงว่าเป็นอย่างไร แต่อัธยาศัยดี ส่วนฝ่ายชายตนไม่เคยพูดคุยด้วย

ต่อจากนี้ตนจะย้ายห้องทันที และวันนี้ก็ไปหาห้องเช่าใหม่แล้ว และคงอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ เพราะกลัวมาก ต้องตื่นมาทำขนมตั้งแต่เช้ามืดทุกวัน โดยช่วงเวลา 02.00 น. ตนกำลังปั้นขนมเจอเหตุการณ์แปลก ๆ ได้ยินเสียงคล้ายฝีเท้าคนเดินบริเวณหน้าบ้านของผู้ตายด้วย ได้แต่มองหน้าหลานชาย แต่ไม่กล้าออกไปดู และช่วงเวลา 04.00 น. หลานชายก็ได้กลิ่นเปรี้ยวมาจากห้องผู้ตายด้วย

นางเพ็ญศรี ศิริบุตรวง อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า เวลาประมาณ 18.00 น. ตนเห็นนายเพชร ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาจอดที่หน้าบ้าน ตนจึงถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง และทักทายตามปกติ แต่นายเพชรบอกว่ามีเรื่องแล้ว ตนจึงถามว่าเรื่องอะไร นายเพชรบอกว่าแทงเขาตายแล้ว ตนจึงถามว่าแทงทำไม นายเพชรจึงบอกว่า "มันเอาไฟฉายตีหัว" ก่อนที่จะเดินเข้าป่าไป แต่ตนก็ไม่ได้มองนายเพชร เพราะไม่ได้สนใจ อีกทั้งก่อนหน้านี้นายเพชรชอบพูดเล่น หยอกล้อกันอยู่แล้ว จึงไม่คิดว่านายเพชรจะทำจริง

ก่อนที่เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาสอบถามหาตัวนายเพชร ตนจึงบอกว่า เห็นนายเพชรมาหาและเดินเข้าป่าไปแล้ว ตำรวจจึงเดินไปดูที่ห้องพัก แต่ก็ไม่พบ จึงคาดว่านายเพชรน่าจะกลบหนีอยู่ในป่า จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 10 คน ออกตามหานายเพชรบริเวณป่าหลังบ้านนายเพชร แต่ก็หาไม่พบ และขอเบอร์โทรศัพท์นายเพชรไป แต่ก็โทรไม่ติด และปูพรมค้นหานานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบ รวมทั้งตนก็โทรศัพท์หานายเพชรอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็โทรไม่ติด

กระทั่งเวลา 22.00 น. สามารถติดต่อนายเพชรได้ ยอมบอกว่าอยู่ในป่า มีอาการอิดโรย และยอมมอบตัวโดยไม่ขัดขืน โดยมีท่าทีสำนึกผิดด้วย ผู้ก่อเหตุ และผู้เสียชีวิต คบกันมาได้ประมาณ 1 ปี แต่ไม่ได้อยู่กินกันจริงจัง โดยนายเพชรจะเทียวไปเทียวมา ที่ผ่านมานายเพชรมักจะมาระบายความในใจกับตนว่า ทะเลาะกับนางพัชรินทร์เป็นประจำ และบอกว่านางพัชรินทร์ด่าไปทั่ว ส่วนนายเพชรเป็นคนดี พูดน้อย พระในที่เหตุเป็นพระที่ผู้ตายสวมใส่เป็นประจำ และผู้ตายรักมาก เท่าที่ตนรู้จักนายเพชร ไม่คิดว่านายเพชรจะสามารถฆ่าคนได้ เพราะที่ผ่านมานายเพชรเป็นคนดีมาโดยตลอด

ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดชัยบาดาลปอประสิทธิ์ ต.ชัยบาดล อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ของนางพัชรินทร์ ลาวงษ์ อายุ 51 ปี โดยศพของผู้เสียมาถึงที่วัดเวลา 16.45 น. มีญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมาช่วยเตรียมงานด้วย บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางกัลยรัตน์ ลาโม้ อายุ 34 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ แม่มาหาตนที่บ้าน ก่อนที่ตนจะกลับไปส่งแม่ยังห้องเช่าที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 18.00 น. เพราะนายเพชรอ้างว่าป่วยหายใจไม่ทัน แต่เมื่อกลับมาที่บ้านก็ไม่เห็นว่านายเพชร จะมีท่าทีป่วยอะไร รวมทั้งนายเพชรก็มีอารมณ์ปกติ ไม่ได้มีท่าทีจะก่อเหตุ ตนก็เห็นว่าเหตุการณ์ปกติจึงขอตัวกลับมาที่บ้าน โดยมาทราบว่าแม่เสียชีวิตเวลา 19.00 น. ทันทีที่ทราบข่าวก็ใจหาย และตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น โดยไม่ทราบว่าทั้งคู่ทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร

แม่ตนกับนายเพชร รู้จักกันมาประมาณ 1 ปี แต่ไม่ได้อยู่กินแบบผัวเมีย แต่จะไปมาหากันคล้ายเพื่อนสนิทมากกว่า ตนก็ไม่ทราบว่าแม่สนิทสนมกับนายเพชรมากน้อยเพียงใด และแม่ก็เลิกรากับพ่อมานานมากกว่า 20 ปี แม่ก็คบหากับชายอีกคนหนึ่งจดทะเบียนสมรสกัน แต่เลิกรากันมาได้ประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว จึงมาคบหากับนายเพชร และเพิ่งจะตัดสินใจย้ายไปที่ห้องเช่าดังกล่าวกับนายเพชรได้ประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น ก็มาเกิดเรื่องขึ้น

โดยที่ผ่านมา แม่ไม่เคยบอกว่ามีปัญหา หรือทะเลาะกับนายเพชรเลย ตนเคยเตือนแม่อยู่ว่าจะคบหาใครให้ดูให้ดี แต่ก็เห็นว่าแม่ชอบกับนายเพชร และเห็นว่าที่ผ่านมานายเพชรก็เป็นคนดี และอัธยาศัยดี ไม่มีพิษภัย เป็นคนใจดี จึงไม่ได้ห้ามปรามอะไร ส่วนแม่ตนเป็นคนเสียงดัง ร่าเริง และมีอารมณ์แปรปรวน แต่จิตใจดี หลังจากทราบว่านายเพชรเป็นคนก่อเหตุ ตนโกรธมาก แต่ตอนนี้ตนโกรธนายเพชรอยู่เล็กน้อย และไม่ติดใจหรือแค้นนายเพชรแล้ว เพราะคิดว่าไม่สามารถเรียกชีวิตแม่กลับคืนมาได้แล้ว และปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรกรรมที่นายเพชรต้องรับกรรมกับสิ่งที่ก่อเอาไว้ และให้กฎหมายลงโทษต่อไป

โดยก่อเกิดเหตุไม่มีลางบอกเหตุใด ๆ เลย และแม่ก็ยังไม่มาเข้าฝัน หรือสัมผัสอะไรได้เลย เพียงแต่เมื่อคืนตนนอนไม่หลับ เพราะนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งคืน อยากบอกกับแม่ว่า รักแม่ และขอให้แม่ไปเจอเทวดาฟ้าดินที่ปกปักรักษา และไปสู่ภพภูมิที่ดี

อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.ชาญวุฒิ เรืองจาบ รองสว. (สอบสวน) สภ.ชัยบาดาล เปิดเผยว่า เบื้องต้นควบคุมตัว นายสีแก้ว เขียวสมอ ผู้ต้องหา เมื่อคืนวันที่ 23 ม.ค.64 เวลาประมาณ 22.00 น. เนื่องจากผู้ต้องหาหลบหนี แต่สุดท้ายคิดต่อขอมอบตัว ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา คือ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาพาอาวุธมืดไปในที่สาธารณะ และจะมีการฝากขังต่อศาลในวันที่ 25 ม.ค.64