ลุงพลยอมคืนเงินค่าแรงชาวบ้าน แต่พระขอตัดขาด ดึงสติความโลภทำลายคน (คลิป)

จากกรณีนายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าน้องชมพู่ แสดงอาการคุกคามสื่อมวลชน จนเกิดเป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลุงพล หลังจากที่ถูกนำเข้าเครื่องจับเท็จแล้วนั้น

วันที่ 23 ม.ค. 64 นายไชย์พล วิภา ได้ตั้งโต๊ะพูดคุยกับสื่อมวลชนและตอบคำถามทุกข้อสงสัย ขณะเดียวกันก็มียูทูเบอร์รายล้อมถ่ายอยู่ตลอดเวลา โดยลุงพล เปิดเผยว่า กรณีที่พระพลจะขอให้ตนไปบวชห่มขาวถือศีล 8 เป็นเวลา 3 วันนั้น ตนได้ปฏิเสธไปก่อน เนื่องจากตนยังเคลียร์ปัญหาไม่เสร็จ เพราะยังต้องเคลียร์เรื่องเงินบัญชีการเทพื้นวัดภูหลวงให้เสร็จก่อน ตนจึงจะหมดห่วง ล่าสุด ตนทราบเรื่องแล้วว่าชาวบ้านได้นำเงินค่าแรงไปทำบุญที่วัดภูหลวง ซึ่งตนก็ได้มอบเงินเคลียร์เรื่องค่าแรงไปหมดแล้ว ชาวบ้านที่มีจิตศรัทธาเขาก็มอบเงินส่วนนั้นไปทำบุญ

ขณะที่ชาวบ้านกกกอกกว่า 20 คน นำทีมโดยนางนลิน เงินนาม หรือ ป้าถอน เพื่อนสนิทของลุงพล ได้นำเงินค่าแรงสร้างศาลาที่ลุงพลเคยค้างจ่าย ซึ่งมีชาวบ้านรับค่าแรงไปแค่บางคนเท่านั้น ยังเหลือเงินจำนวน 21,250 บาท ซึ่งยอดเต็มที่ลุงพลจ่ายมาเป็นเงิน 27,150 บาท เป็นเงินที่ชาวบ้านสมัครใจไม่รับ และนำเงินปักใส่ต้นผ้าป่ามาทำบุญ รวมถึงยังมีเงินแฟนคลับของป้าถอน ฝากทำบุญอีกจำนวน 5,750 บาท มาทำบุญที่วัดภูหลวง เพื่อถวายเงินให้พระสมบัติ อภิสัทโธ ประธานที่พักสงฆ์ภูหลวง เป็นผู้นำไปทำนุบำรุงวัดต่อไป

นางนลิน เงินนาม หรือ ป้าถอน ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า วันนี้ชาวบ้านกกกอกได้นำเงินค่าแรงสร้างศาลามามอบทำบุญให้กับพระสมบัติ ซึ่งได้มีเงินจากแฟนคลับโอนมาสมทบทุน รวมเป็นเงินกว่า 27,000 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้จะให้ทางพระสมบัติดูแลและจัดการเองทั้งหมด

สำหรับเงินสมทบทุนทำบุญนั้น ก็เป็นเงินที่แฟนคลับดูผ่านทางช่องยูทูบต่าง ๆ ซึ่งยอมรับว่าการที่มียูทูเบอร์เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ตนและชาวบ้านไม่ได้เหมารวมว่ายูทูเบอร์ทั้งหมดว่าเป็นคนไม่ดี และไม่ได้ไล่ทั้งหมด แต่มีเพียงบางช่องที่ลบหลู่พระสมบัติ ไม่เคยสร้างประโยชน์ให้วัด ซึ่งมีแค่บางส่วนเท่านั้นที่ชาวบ้านรับไม่ได้ ส่วนยูทูเบอร์คนอื่นที่เป็นคนดีก็ยังมี อย่างไรก็ตาม ตนก็ขอขอบคุณแฟนคลับที่ช่วยโอนเงินทำบุญที่วัดภูหลวง

สุดท้าย แม้จะคดีน้องชมพู่จะงวดเข้ามาทุกที แต่ตนก็ยังยืนยันที่จะเป็นพยานเรื่องเวลาและการไปส่งพระให้กับลุงพล ส่วนเรื่องที่ตนจะกลับมาพูดคุยกับลุงพลได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

พระสมบัติ อภิสัทโธ ประธานที่พักสงฆ์ภูหลวง เปิดเผยว่า เงินจำนวน 27,000 บาทที่ชาวบ้านนำมาถวายนั้น อาตมาจะนำไปสร้างเป็นฐานพระพุทธรูปเพิ่มเติม และอาตมาก็ร่วมอนุโมทนาบุญที่ชาวบ้านไม่รับค่าแรงสร้างศาลา และนำมาทำบุญด้วยความศรัทธาไว้วางใจให้อาตมาจัดการเงินด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่งวันนี้ก็ได้ให้ข้อคิดกับชาวบ้านไปเกี่ยวกับเรื่องบ้านเมือง ให้ชาวบ้านเห็นว่าบ้านเมืองของเราตอนนี้วุ่นวายเกิดมาจากอำนาจเงิน และความโลภ ความไม่รู้จักพอของมนุษย์ ซึ่งอาตมาไม่ได้พาดพิงใคร

ทั้งนี้ เรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านตอนนี้จะหมดไปก็ต่อเมื่อคดีของน้องชมพู่เริ่มคลี่คลาย แม้ก่อนหน้านี้หมู่บ้านจะเริ่มเงียบไปแล้วก็ยังมีบางคนสร้างกระแสขึ้นมาใหม่อีก อาตมามองว่าหมู่บ้านคงจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ตราบใดที่ยังมีผลประโยชน์ของบางบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างเช่น ยูทูเบอร์ที่เข้ามาในหมู่บ้านนั้นก็มีผลประโยชน์ของเขา ไม่ว่าจะถ่ายทอดเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี ก็จะช่วยทั้งเพิ่มผู้ติดตามและเพิ่มรายได้ ขณะเดียวกันแม้จะมีคนที่ดูยูทูบและโอนเงินมาช่วยทำบุญ แต่อาตมาก็อยากให้คนที่อยากทำบุญ นำเงินมามอบให้อาตมาที่วัดดีกว่า เพราะเขาจะได้เห็นและจะได้เชื่อว่าอาตมาเอาเงินไปใช้อย่างไร

พระสมบัติ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ความคืบหน้าของศาลานั้นเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ในส่วนของการเทพื้นนั้นเสร็จแล้ว แต่ยังต้องสร้างกำแพง ขัดเสา แท่นพระประธานและสร้างที่นั่งพระต่อ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีทุนในการสร้าง แต่อาตมาจะไม่รับเงินหลักแสนของลุงพลที่ยังเหลือมาใช้อีก เพราะรับมาแล้วเงินมันร้อน ให้เขานำเงินส่วนนั้นไปทำบุญที่อื่น เพราะอาตไม่อยากวุ่นวายกับเงินของลุงพลอีกแล้ว