เพลิงไหม้ชุมชนตลาดเก่าสระยายโสม อายุกว่า 100 ปี จ.สุพรรณบุรี ชาวบ้านหนีตายจ้าละหวั่น วอดไปกว่า 20 คูหา
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 22 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ที่ตลาดเทศบาลตำบลสระยายโสม จึงรายงานผู้บังคับบัญชา จากนั้นนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายปรีชา ทองคำ รองผู้ว่าฯ พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี นายเสกสรร ถนอมกิตติ นอภ.อู่ทอง นำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาล ตำบลสระยายโสม ตำบลอู่ทอง ตำบลทุ่งคอก เทศบาลเมืองสองพี่น้อง สวนแตง และข้างเคียง รวมถึง อบต.ต่างๆ กว่า 30 คัน ใช้เวลาฉีดน้ำกว่า 3 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวตลาดโรงงิ้วเก่าเรือนไม้มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กประมาณ 20 กว่าคูหา อายุประมาณ 100 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังระดมฉีดน้ำสกัดกั้นเพลิงที่กำลังลุกไหม้โหมอย่างรวดเร็ว สอบถามนายประเสริฐศักดิ์ เนตรประภิศ นายกเทศมนตรีตำบลสระยายโสม ให้การว่า ตลาดเก่าสร้างด้วยเรือนไม้ที่อายุประมาณ 100 ปีอยู่กันเป็นติดๆ กัน 20 คูหา ทางเทศบาลได้ตั้งโรงครัวจิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย นำของมาช่วยเหลือชั่วคราว ได้รับการประสานจากท่านผู้ว่าราชการสุพรรณบุรี นำของมอบช่วยเหลือ ให้กำลังใจผู้ประสบอัคคีภัย
จากนั้นสอบถามชาวบ้านบอกว่า กำลังตัดผมให้หลานอยู่ได้ยินเสียงตะโกนจากข้างบ้านว่าไฟไหม้ ตนรีบวิ่งออกจากบ้านพาหลานหนี ไฟโหมมาเร็วมาก จะหยิบของอะไรออกมา ก็หยิบไม่ทัน ต้องหนีเอาตัวให้รอดก่อน
ส่วนสาเหตุคาดว่า ต้นเพลิงน่าจะมาจากบ้านที่อยู่ด้านหน้า ฝั่งทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กด้านหลังและลุกไหม้มาลามด้านหน้าบ้านของชาวบ้าน โดยตำรวจกำลังเร่งให้กองพิสูจน์หลักฐานและหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้ต้องตรวจสอบอีกครั้ง
ด้านนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า หลังได้รับรายงานรุดเดินทางมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เบื้องต้นได้มีผู้ประสบภัยจำนวน 21 หลังคาเรือน ประสานให้ทางเทศบาลตำบลสระยายโสม ได้ตั้งจุดลงทะเบียนผู้ประสบภัยพร้อมกับดำเนินการช่วยเหลือในด้านเครื่องยังชีพ ให้ประสานหน่วยงานต่างๆ ทั้ง ปภ. นำเครื่องนุ่งห่ม อาหารแห้ง รวมถึงกลุ่มจิตอาสา ได้มาตั้งโรงครัวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และได้เตรียมทำการช่วยเหลือเยียวยา ในระเบียบของทางราชการต่อไป รวมถึงการช่วยเหลือจากมูลนิธิประชานุเคราะห์ และ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป
