สาวเวียดนามช้ำครูปล่อยลูกจมน้ำตาย คดีอืดเป็นหนี้แสน ครูรับผิดมัวแชตโทรศัพท์ (คลิป)

22 ม.ค. 64

จากกรณี นางสาวฮวิ่นยาว เลถิ อายุ 31 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อทนายเกิดผล แก้วเกิด เนื่องจากลูกสาว เด็กหญิง กิมเงิง เลถิ อายุ 6 ปี จมน้ำเสียชีวิต หลังฝากครูดูแลช่วงปิดเทอม ลูกสาวจมน้ำในสระว่ายน้ำ และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. 62 จนกระทั่งส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี และเสียชีวิต 22 ต.ค. 62 แต่กลับได้เงินเยียวยาเพียง 50,000 บาท จากครูที่ดูแลเด็ก สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ คดีไม่มีความคืบหน้าจึงร้องทุกข์ต่อทนายความ

824974

ล่าสุด วันที่ 22 ม.ค. 64 นางสาวฮวิ่นยาว เลถิ อายุ 31 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ชาวเวียดนาม เปิดเผยว่า ตนเองได้ให้ลูกสาวเรียนพิเศษกับครูสุปราณี หรือ ครูแอน ช่วงปิดเทอม จ่ายค่าเรียนพิเศษวันละ 100 บาท ในเดือนตุลาคมปี 2562 วันเกิดเหตุ 14 ต.ค. 62 เวลา 17.30 น. ครูสุปราณีโทรมาบอกกับตนเองว่าลูกสาวอยู่ที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ ให้รีบมาโดยด่วน แต่ไม่ได้แจ้งว่าลูกสาวเป็นอะไร ตนเองจึงรีบไป ทราบว่าลูกจมน้ำ ครูแอนก็ไม่บอกอะไรกับตน บอกว่าไม่รู้ อ้างว่าเด็กเยอะ ครูดูแลไม่ไหว และครูกำลังเดินไปซื้อน้ำให้ลูกตนเองจึงคลาดสายตา ซึ่งพูดวนไปวนมา

223385

จากนั้น แพทย์จึงลงความเห็นให้ส่งตัวลูกสาวไปรักษาที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี วันที่ 17 ต.ค. 62 ลูกมีอาการเริ่มดีขึ้น สามารถตอบสนองได้ ต่อมาวันที่ 20 ต.ค. 62 ลูกอาการทรุดลง และแพทย์บอกให้ตนเองทำใจ จนกระทั่งช่วง 08.00 น. ของวันที่ 22 ต.ค. 62 ลูกสาวตนเองเสียชีวิต ตนเองทำใจไม่ได้

424210

ต่อมา วันที่ 29 พ.ย. 62 ตนเองจึงไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ตำรวจบอกว่าจะดูแลคดีให้ และบอกว่าส่งเรื่องไปที่ศาลแล้ว จนกระทั่งต้นปี 2564 คดียังไม่มีความคืบหน้า เรื่องยังไม่ส่งไปที่ศาล จึงมีการเรียกตนเองและครูสุปราณีมาพูดคุยกันเรื่องค่าเสียหาย ตนเองเรียกค่าเสียหาย 350,000 บาท แต่ครูจ่ายค่าเพียง 50,000 บาท และจะขอผ่อน แต่ตนเองไม่ยอม เพราะลูกตนเองไม่ใช่สินค้า อีกทั้งตนเองก็ยังเป็นหนี้อยู่อีกประมาณ 120,000 บาทด้วย หนี้กับโรงพยาบาลพระปกเกล้าประมาณ 113,000 บาท และค่าจัดงานศพ 7,000 บาท

761877

ทั้งนี้ ตอนแรกตนเองไว้ใจและเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ผ่านมานานคดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า ตนเองจึงเสียใจมาก หรือตำรวจคิดว่าตนเองเป็นคนต่างชาติ จึงคิดว่าทำอะไรไม่ได้ ต่อมามีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับทนายเกิดผล และขอความช่วยเหลือ ตนเองยืนยันว่าต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับครูสุปราณีถึงที่สุด

cg2

นอกจากนี้ ตนเองยังเคยฝันถึงลูกสาวหลังจากที่ลูกสาวเสียชีวิตวันแรกกด้วย ตนฝันว่าลูกมาหาบอกว่า "แม่ไม่ต้องห่วงหนูนะ หนูไปเที่ยว เดี๋ยวหนูกลับมา" ทุกวันนี้ตนเองก็ยังคิดถึงลูก และห่วงลูกอยู่ตลอดเวลา เมื่อต้นปี 2564 ตนเองก็ยังฝันถึงลูกเห็นลูกร้องไห้ด้วย

115674

ทีมข่าวเดินทางไปที่โรงแรมใน ต.อรัญญประเทศ อ.อรัญญประเทศ จ.สระแก้ว สถานเกิดเหตุ สระน้ำในโรงแรมขนาดกว้างประมาณ 10 เมตร มีสระเด็กลักษณะกลมอยู่ที่ด้านซ้ายของสระน้ำ ความลึก 30 เซนติเมตร ส่วนสระผู้ใหญ่ระดับน้ำ 100 เซนติเมตร จนถึง 170 เซนติเมตร

218486

นายรุธ (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่ดูแลสระว่ายน้ำ เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ ครูสุปราณีเดินทางมากับเด็กหญิงกิมเงิง ผู้เสียชีวิต อายุ 6 ปี และ เด็กชายทอย อายุ 6 ปี รวม 3 คน ทางสระว่ายน้ำจะมีป้ายติดประกาศอยู่แล้วว่าไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเล่นน้ำโดยลำพัง ซึ่งทางครูสุปราณีก็มาด้วย และมีผู้ใหญ่ดูแลจึงอนุญาตให้เด็กเล่นน้ำตามปกติ

cg

ช่วงแรกเด็กจะเล่นอยู่ที่สระเด็ก ระดับน้ำประมาณ 30 เซนติเมตร และน่าจะเพื่อนเยอะ จึงมาเล่นที่บริเวณสระผู้ใหญ่ และเด็กหญิงกิมเงิงก็ให้ห่วงยางกับเด็กชายอีกคน จึงทำให้จมน้ำ บริเวณช่วงบันได 90 เซ็นติเมตร และถัดจากบันไดบริเวณจุดที่เด็กหญิงกิมเงิงจมน้ำ มีระดับน้ำลึกประมาณ 160 เซนติเมตร วันดังกล่าวมีผู้ใช้บริการประมาณ 30 คน ขณะที่น้องกิมเงิงกำลังจมน้ำ ไม่มีใครสังเกตเห็น เพราะต่างคนต่างเล่น ต่อมาจึงมีวัยรุ่นที่ที่เล่นสไลด์เดอร์สังเกตเห็นจึงดำน้ำลงมาช่วยเหลือและปฐมพยายาลเบื้องต้น นำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ครูสุปราณีกำลังนั่งดูโทรศัพท์อยู่บริเวณเก้าอี้ใกล้สระ พยายามก้ม ๆ เงย ๆ ดูเด็กอยู่ แต่ช่วงนั้นคงคลาดสายตา

422438

นางสุปราณี หรือ ครูแอน อายุ 45 ปี เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนเองเลี้ยงดูเด็กหญิงกิมเงิง ประมาณ 5-6 เดือน และรอแม่เด็กมารับทุกวันตอนเย็น โดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ รวมทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ก็รับเลี้ยงดู ในเวลา 07.00-18.00 น. โดยไม่ได้คิดค่าเลี้ยงดู จนกระทั่งแม่ของของเด็กหญิงกิมเงิงเกรงใจ ให้ค่าเลี้ยงดูวันละ 100 บาท

วันเกิดเหตุ หลานของตนเองชวนกันไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำ เด็กหญิงกิมเงิงขอไปด้วย หลังจากนั้นตนเองก็นั่งอยู่ริมสระ และกำลังเล่นโทรศัพท์จริง เพราะกำลังคุยทางไลน์กับผู้ปกครองคนอื่น ๆ เรื่องใกล้จะเปิดเทอม แต่ขณะเดียวกันก็มองเด็กหญิงกิมเงิงตลอด แต่สายตาจะมองไปที่สระเด็กมากกว่า และคนเยอะค่อนข้างวุ่นวาย จึงไม่ทันได้เห็นช่วงที่เด็กหญิงกิมเงิงจมน้ำ

จากนั้นตนเองจึงพาเด็กหญิงกิมเงิงไปโรงพยาบาล และนั่งเฝ้าดูอาการตลอด และนายจ้างของแม่เด็กก็แนะนำให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี ตนเองก็ยินยอม และก็เดินทางไปด้วย เฝ้าเด็กจนกระทั่งเสียชีวิต แต่ตนเองไม่มีเงินค่าเสียหายให้ จึงไปยืมเงินอามา 50,000 บาท เพื่อช่วยเหลือค่ารักษาพยายาลและงานศพเท่าที่ทำได้

349066

หลังจากนั้นนางสาวฮวิ่นยาวเรียกค่าเสียหาย 350,000 บาท แต่ตนเองไม่มี จึงบอกว่ารวมรวมได้มากที่สุด 100,000 บาท แต่นางสาวฮวิ่นยาวปฏิเสธ ยืนกรานที่ 350,000 บาท และไม่ยอมให้ผ่อน หลังจากวันนั้นเขาก็เงียบหายกลับประเทศไป จนกระทั่งกลับมาประเทศไทย และแจ้งความกับตนเอง

ย้อนกลับไปช่วงเกิดเหตุ ตนเองแทบจะลาออก เพราะสำนึกผิด คิดว่าในเมื่อตนเองดูแลเด็กหญิงกิมเงิงไม่ได้ จะเป็นครูต่อไปทำไม และเคยคิดจะฆ่าตัวตายด้วย จึงมีจิตเวชที่โรงพยายาลมาพูดคุยด้วย เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เมื่อใดก็จะร้องไห้ตลอด ตนเองขอโทษ เพราะไม่ได้ตั้งใจ และเป็นอุบัติเหตุ ตนเองรับผิดชอบเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ตนเองก็ยังเป็นหนี้สินธนาคารหลักล้าน หลังจากที่เกิดเหตุ ตนเองจึงไม่ขอพาใครมาเลี้ยงหรือดูแลที่บ้านอีก แม้แต่หลานตนเองก็ยังไม่กล้าให้ซ้อนรถจักรยานยนต์ เพราะกลัวจะทำให้เด็กเสียชีวิตอีก

"ครูขอโทษ ที่ทำให้ลูกเสียชีวิต ครูไม่รู้จะทำอย่างไร จะขอจำนวนเงินมากขนาดนั้น ไม่รู้จะหาให้อย่างไรจริง ๆ อยากบอกว่า ถ้าครูรู้ว่าวันนั้นหนูจะจมน้ำตาย ครูจะไม่พาหนูไปเด็ดขาด" ตอนนี้ตนเองยังสำนึกผิดและยังอยากออกมาทำอาชีพอื่น เพราะคงเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต

300369

ด้านนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ เปิดเผยว่า นางสาวฮวิ่นยาวรู้สึกกังวลใจ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และเกรงว่าลูกสาวจะตายฟรี อีกทั้งต้องการให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ และชดใช้ค่าเยียวยา เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งนางสาวฮวิ่นยาวสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าคดีความตืบหน้าอย่างไรบ้าง และได้รับคำตอบว่าคดีส่งถึงศาลแล้ว จึงรู้สึกวางใจ กระทั่งต้นปี 2564 นางสาวฮวิ่นยาวได้เข้าถามอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลุดปากบอกว่าคดีความยังไม่ได้ไปไหน และยังอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าทุกข์เกิดความคิดที่ว่าแล้วที่ผ่านมาโกหกทำไม พยานมีจริงไหม อีกทั้งเจ้าทุกข์ยังเป็นชาวต่างชาติด้วย ตนจึงตัดสินใจยื่นมือเข้าไปดูแล

ขณะนี้ ตนได้รับการประสานงาน จาก พ.ต.ท.อนุชา วัฒนายุ รองผู้กำกับการ สภ.อรัญประเทศ เบื้องต้นได้เรียกแม่ของผู้ตาย และคู่กรณีพูดคุยแล้ว เห็นสมควรว่าจะต้องดำเนินการสั่งฟ้อง ในความผิดกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และจะสั่งฟ้องภายในสิ้นเดือนนี้ หลังจากที่ตนยื่นมือเข้าช่วยเหลือเจ้าทุกข์มีความหวังมากขึ้น

403562

"มีหลายคนที่เจอสถานการณ์เช่นนี้ และขาดโอกาส ไม่มีทนายความ ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือคดีความมีความล่าช้าทางหน่วยงานของรัฐควรจะหาแนวทางที่ทำให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม และไม่ล่าช้าเกินควร เพราะตามหลักกฎหมาย ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือ ความอยุติธรรมเช่นกัน" ทนายเกิดผล กล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส