ผบ.ตร.ไฟเขียว จนท.ใช้กำลังคุมม็อบได้หากจำเป็น ไม่ต้องลังเล หลังการ์ดวีโวชักธง 112 ขึ้นหน้า สภ.คลองหลวง ชี้กระทบความรู้สึกคนทั้งประเทศ ย้ำเดินหน้าเอาผิดทุกคน
วันที่ 16 ม.ค.64 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงพล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ1 พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิต รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยุตมารยาทตร์ ผบก.จ.ปทุมธานีได้เดินทางมาที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีเพื่อประชุมความคืบหน้ากรณีมวลชนปลดธงชาติหน้าสภ.คลองหลวง ลงมาและได้นำผ้าสีแดงที่เขียน112ไปติดและชักขึ้นไปสู่ยอดเสาตามที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้
พล.ต.อ.สุวัฒน์ เผยว่า วันนี้มาด้วยวัตถุประสงค์ 3 เรื่อง เรื่องแรกที่ชาวบ้านตั้งคำถามปล่อยให้เกิดเหตุแบบนี้ได้อย่างไร ต่อหน้าต่อตา เรื่องที่ 2 จะป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ และเรื่องที่ 3 คนที่ทำผิดจะต้องโดนอะไรบ้าง
เรื่องแรกจะต้องยอมรับว่ายุทธวิธีของผู้ที่กระทำผิดต้องการสร้างพื้นที่ข่าว ซึ่งก็ต้องยอมรับเขาทำได้ดีภาพที่ตำรวจจะชักธงลงก็กลายเป็นภาพตำรวจยืนดู ซึ่งต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่มีกำลังพร้อมอยู่เพียงแต่ว่าอาจจะเป็นเพราะว่าอยู่บนพื้นฐานในหลักคิดที่จะไม่ใช้กำลังโดยไม่จำเป็น และหลีกเลี่ยงการปะทะ แต่ว่าผู้บังคับบัญชาทุกระดับตั้งแต่ผมลงมาก็จะต้องมาพบปะทำความเข้าใจกับลูกน้องว่าเรื่องแบบนี้จะให้เกิดอีกไม่ได้ ถ้าจำเป็นที่จะต้องใช้กำลังก็ต้องใช้ และพวกเราก็ยอมรับผิดและรับผิดชอบ ไม่ทอดทิ้งกัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเพราะมันกระทบกระเทือนของความรู้สึกคนทั้งประเทศ ซึ่งอาจจะเพลี่ยงพล่ำในพื้นที่การข่าวก็ว่าไป แต่อย่างที่บอกว่าสงครามมันยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร
เรื่องที่ 2 จะป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ต้องมาปรับการทำงานโดยเฉพาะตำรวจระดับเล็ก จะไม่มั่นใจในอำนาจหน้าที่ ในเรื่องของกฎหมายยังไม่แตกฉานเพียงพอ และผู้บังคับบัญชาที่อยู่ก็อาจจะอยู่บนพื้นฐานที่ไม่อยากจะใช้กำลังโดยไม่จำเป็น ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องปรับความคิดกันใหม่ให้ความรู้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งตรงนี้ก็ทำกันมาตลอดร่วมถึงเรื่องยุทธวิธีด้วย แต่ว่าก็จะต้องทำให้เข้มข้นขึ้นว่าเขาจะทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ ยุทธวิธีควรจะเป็นอย่างไรแล้ว เราก็จะต้องเอาบทเรียนมาถอด
ส่วนเรื่องที่ 3 ใครจะต้องรับโทษอะไรบ้าง ก็จะอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายอยู่แล้ว เพียงแต่เราก็จะต้องเร่งรัดและทำให้กระจ่างให้สังคมเห็นว่าต้องรวดเร็ว ครบถ้วนทุกข้อหาและทุกคนด้วย ส่วนตัวต้องไปเดินสายทำความเข้าใจกับตำรวจทั่วประเทศ เอาบทเรียนตรงนี้ไปให้ความคิด ความรู้กับเจ้าหน้าที่และผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น และทำให้ลูกน้องมั่นใจว่าเรารับผิดชอบในสิ่งที่เราสั่งและขอให้เขามั่นใจในสิ่งที่เขาทำ เพราะเราไม่ได้สั่งให้เขาทำอะไรนอกอำนาจหน้าที่ แค่ให้รู้ว่าอะไรทำได้และเมื่อจำเป็นต้องใช้กำลังก็อย่าลังเล อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ในเบื้องต้นเรื่องผู้กระทำผิด ต้องออกหมายเรียกทุกคน ซึ่งจากที่ฟังพนักงานสอบสวนก็จะมีกฎหมายอยู่หลายฉบับ มีเรื่องเกี่ยวพรบ.ฉุกเฉิน พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ และพรบ.ธงชาติมีเรื่องการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน การทำให้เสียทรัพย์และก็เรื่องของการดูหมิ่น ในส่วนของเยาวชนทางตำรวจมีกฎหมายเยาวชนชัดเจนอยู่แล้ว ขอให้มั่นใจเราไม่ทำอะไรนอกอำนาจ ส่วนหลังจากออกหมายเรียกแล้วก็จะมีขั้นตอนเกี่ยวกับเรื่องของการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ในส่วนของความบกพร่องนั้น เชื่อว่าผู้ใต้บังคับบัญชาตั้งใจทำงาน แต่ว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็ต้องเป็นบทเรียนและต้องดูคนของเราให้พร้อมรับมือทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ในส่วนของมวลชนที่จะมาปักหลักติดตามให้กำลังใจผู้ที่ถูกออกหมายเรียกและเข้ามารายงานตัวนั้นทางตำรวจก็จะมีมาตรการที่ดีกว่านี้