รวบแล้ว! หนุ่มรักคุดง้อสาวไม่รอดจุดไฟเผาบ้านวอดทั้งแถบ สลดคนตาบอดหนีตายวุ่น (คลิป)

จากกรณีเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 15 ม.ค. 64 พ.ต.ต.มิตรศักดิ์ ขำทองสารวัต ร(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยสามัคคี 6 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจพร้อม พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์, พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ต.บรรจบ ราชกิจ สว.สส. และรถดับเพลิงเทศบาลนครนนทบุรี

ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังรุกไหม้ห้องเช่าชั้นเดียวห้องแรก ก่อนลุกลามไหม้ห้องอื่น เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงได้ใช้รถน้ำ 3 คันระดมฉีดน้ำนานประมาณ 30 นาที สามารถดับไฟได้

ตรวจสอบพบว่าห้องเช่าทั้งหมดประมาณ 10 ห้องถูกไฟไหม้หมด และรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีฟ้า ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งคัน ส่วนทรัพย์สินในห้องเช่าต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง

ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบไปยังซอยสามัคคี 6 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี พบว่าจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ ทั้งหมด 8 หลัง โดยเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 4 หลัง เหลือแค่เพียงโครงเสาไม้ที่มอดไหม้เป็นถ่าน นอกจากนั้นยังพบรถแท็กซี่ รถตุ๊กๆ รถจักรยานยนต์ รถยนต์ที่ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากถูกเพลิงไฟคลอก และเสียหายบางส่วน มีของเครื่องใช้ พัดลม เสื้อผ้าที่ขนมาได้วางกองอยู่ที่หน้าบ้านบางส่วน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวนายนัชชานนท์ ผู้ก่อเหตุ ที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวของแม่ ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีปากเกร็ด 41 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สภาพเมาเหล้านอนร้องไห้ ก่อนเชิญตัวมาสอบสวน

นายนัชชานนท์ ให้การรับสารภาพว่า หลังจากเมื่อเย็นวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้คุยตกลงกับ น.ส.ชุติมณฑน์ อดีตแฟนสาวและแฟนใหม่ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน หลังคุยเสร็จ ตนได้ดื่มเหล้าจนเมาและขับรถจักรยานยนต์ไปหาอดีตแฟนจนมีปากเสียงกัน ก่อนที่ น.ส.ชุติมณฑน์จะให้แฟนใหม่มารับออกไป ตนโมโหที่ถูกทิ้งให้อยู่ในห้อง จึงใช้ไฟแช็กจุดไฟเผามุ้ง และออกจากห้อง ขับจักรยานยนต์ไปนอนที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของแม่

เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์โรงเรือนที่คนพักอาศัย พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ และจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดนนทบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง

นายชาญ ขำเจริญ อายุ 55 ปี เจ้าของร้านขายของชำ อดีตพ่อตาผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุระหว่างตนได้นอนอยู่ชั้นบน จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังคล้ายประทัด จากนั้นมีแสงส้มสีสูงขึ้นมาจากที่ตนอยู่ เห็นไฟไหม้จึงรีบออกมาจากห้อง ปลุกเรียกทั้งลูกและภรรยาให้มาอยู่ด้านล่าง ทุกคนภายในบ้านก็อยู่ในอาการตื่นตกใจ ด้านล่างบ้านเช่าของตนเปิดเป็นร้านขายของชำ ห้องเก็บของด้านในชั้นล่าง ได้รับความเสียหายจากการเพลิงไหม้เป็นบางส่วน ทั้งข้าวของเครื่องใช้ภายในครัว เสื้อผ้า และเงินสด

ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตลูกเขยของตน ก่อนหน้านี้ได้เช่าบ้านให้ลูกสาวของตนอยู่อาศัย ต่อมาอดีตลูกเขยคบหากับลูกสาวได้ 1-2 ปี เริ่มทะเลาะกันเกือบทุกวัน ตบตี ทำร้ายร่างกายลูกสาวของตน จนลูกสาวทนไม่ไหวพยามหนีห่างและมีแฟนใหม่ อดีตลูกเขยไม่ยอม เมื่อคืนที่เกิดเหตุ อดีตลูกเขยเข้ามาทำร้ายทุบตีจนลูกสาวโทรศัพท์ให้แฟนใหม่มารับไป อดีตลูกก็ขับรถออกตามไปเช่นเดียวกัน ไม่นานอดีตลูกเขยก็ขับรถเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับมางัดหน้าต่างจุดไฟเผา แล้วลามไปทั่วบริเวณโดยบ้านคนอื่นเสียหายอีกจำนวนมาก

สำหรับหมู่บ้านดังกล่าวมีผู้พิการทางสายตาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้เสียหายเล่าว่า ทุกคนสัมผัสได้ถึงความร้อนขณะเกิดเหตุ ประกอบกับได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงหาทางออกมาจากบ้านเพื่อเอาชีวิตรอด ส่วนทรัพย์สินในบ้านก็เสียหายแทบทั้งหมด

นายพเนจร อักษร อายุ 52 ปี ผู้เช่าบ้านหลังที่ 2 เล่าว่า ระหว่างตนกำลังนอนหลับอยู่นั้นประมาณช่วงเที่ยงคืนกว่า ได้ยินเสียงเหมือนคนจุดประทัดเล่น เสียงดังมาก ต่อจากนั้นตนได้กลิ่นควันโชยมาในห้อง ตนรีบหาช่องทางออกมาจากตัวบ้าน ตนเป็นคนพิการทางสายตา จึงรีบวิ่งไปที่บานหน้าต่าง แล้วกระโดดออกมาจากตัวบ้าน ตนคิดอยู่แล้วว่าจะต้องมีเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยตนได้หยิบกระเป๋าสะพายส่วนตัวมาได้แค่ 1 ใบ เนื่องจากเพลิงไฟวอดไหม้อย่างรวดเร็ว

จากที่ตนอยู่ใกล้กับห้องที่ก่อเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ปกติแล้วตนจะได้ยินเสียงทะเลาะกันระหว่างชายหญิงบ่อยมากเกือบทุกวัน ในเรื่องชู้สาว ซึ่งเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาทะเลาะกันหนักกว่าทุกครั้งทำให้ฝ่ายชายก่อเหตุเผาบ้านขึ้น ส่วนบ้านเช่าของตนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ของเสียหายหมดทุกอย่าง ตู้เย็น เครื่องซักผ้า พัดลม ลำโพงเครื่องเพลง รวมไปถึงเงินสดกว่าจำนวน 10,000 บาท