กรณีมีผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า "คนนี้ที่ทำร้ายลูกแม่ ตอนนี้แจ้งความเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้สืบลงพื้นที่ ฝากแชร์ตามตัวไอ้เด็กคนนี้มาดำเนินคดีไห้ได้มึงหนีได้มึงนี้ไป ฝากแชร์ด้วยนะคะ"
สำหรับผู้ก่อเหตุนั้น ทราบว่าคือ นายนิล อายุ 20 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อนายกร อายุ 16 ปี มีอาการบาดเจ็บเป็นแผลถูกแทงที่หลังด้านซ้าย ไต และปอดด้านซ้ายฉีกขาด
ล่าสุดวันที่ 14 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ที่บริเวณปากซอยเพชรหึงษ์ 25 ที่เกิดเหตุเป็นหน้าร้านชำ พบคราบเลือดของผู้บาดเจ็บติดตามพื้นปูน โดยร้านค้าที่เกิดเหตุขณะทีมข่าวลงพื้นที่ได้ปิดร้านเงียบสนิท
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายเปา (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เพื่อนของผู้บาดเจ็บ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันนี้ (14 ม.ค.64) ตนและนายกร ผู้บาดเจ็บ ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปซื้อของที่ร้านชำ หน้าปากซอยเพชรหึงษ์ 25 โดยตนเป็นคนขี่ ผู้บาดเจ็บเป็นคนซ้อน
กระทั่งถึงร้านค้าพวกตนได้ลงจากรถ แล้วเลือกซื้อของ ระหว่างนั้นตนและนายกร สังเกตเห็นนายนิล ผู้ก่อเหตุ ขี่รถเลยร้านค้าจุดเกิดเหตุ แล้วนายนิล เขาสังเกตเห็นนายกร ที่ร้านค้า เขาได้วนรถกลับมาหานายกร จากนั้นผู้ก่อเหตุได้มาจอดรถข้าง ๆพวกตน แล้วเดินถือมีดเข้ามาหานายกร ซึ่งไม่มีการพูดคุยอะไรกันก่อน
เมื่อนายกร เห็นว่านายนิล ถือมีดทำครัวจะเข้ามาทำร้าย นายกรได้นำมีดที่พกติดตัวออกมาต่อสู้กับนายนิล จากนั้นทั้ง 2 คนก็มีเรื่องชกต่อยกัน จนนายกรเสียหลักล้มลงไปนอนที่พื้น นายนิลจึงใช้มีดที่อยู่ในมือแทงเข้าที่กลางหลังนายกร ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า "เดี๋ยวกูจะเอาปืนมายิงมึง" จากนั้นนายนิล ผู้ก่อเหตุ ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์หลบหนีไป จากนั้นตนก็ได้แจ้งชาวบ้านแถวนั้น ให้มาช่วยเหลือนายกร โดยตอนเกิดเหตุ ตนยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ไม่ได้ร่วมลงมือ และตนก็รู้สึกตกใจถึงขั้นช็อกที่เห็นเพื่อนถูกแทงกลางหลังอีกด้วย
ส่วนตัวแล้วตนไม่รู้ว่าทั้ง 2 คน มีเรื่องกันมาจากปมอะไร ตอนที่ตนไปกับนายกร เขาก็ไม่ได้พูดให้ตนฟัง ว่าเขาไปมีเรื่องกับนายนิล เรื่องอะไร สำหรับนายกร เป็นคนที่นิสัยดี ส่วนนายนิลคนก่อเหตุ เป็นคนนิสัยไม่ดี เลี้ยงเสียข้าวสุก ชอบมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนในซอย
อย่างไรก็ตาม สำหรับนายกร รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ อาการล่าสุดแพทย์ได้ถอดเครื่องหายใจ เพราะนายกร สามารถหายใจเองได้แล้ว แต่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ซึ่งแพทย์ได้งดให้ญาติเยี่ยม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
ต่อมาทีมข่าวเดินทางมาพบกับพ่อผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่ทราบเรื่องที่ลูกชายไปก่อเหตุแทงนายกร จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนเพิ่งมาทราบเรื่องตอนที่ทีมข่าวมาขอสัมภาษณ์ ขณะนี้ลูกชายก็ยังไม่กลับเข้าบ้าน
สำหรับนายนิล ลูกชายตนขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าลูกชายขับรถออกไปไหน และไม่รู้ว่าลูกชายพกอาวุธมีดไปด้วยหรือไม่ ไม่รู้ว่าลูกชายจะหยิบมีดเล่มไหนไป เพราะมีดทำครัวที่บ้านมีหลายเล่ม
ทั้งนี้ตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากรู้เหมือนกันว่าลูกชายไปมีเรื่องอะไรกัน จนถึงขั้นได้แทงกัน ตนไม่รู้จักกับคนเจ็บ และลูกชายก็ไม่เคยเล่าให้ตนฟัง ว่าเขาไปมีเรื่องกับนายกร ตอนนี้ตนติดต่อลูกชายยังไม่ได้ เพราะตนก็ไม่มีโทรศัพท์ สำหรับลูกชายตนเท่าที่สังเกตเขาเป็นเด็กทั่วไป ทำงานรับจ้าง เคยมีเรื่องชกต่อยมาบ้างเมื่อ 1 ปีที่แล้ว
ส่วนตัวแล้วตนก็ยังไม่อยากจะขอโทษครอบครัวคนเจ็บแทนลูกชาย เพราะตนก็ยังไม่รู้ว่าลูกชายไปมีเรื่องอะไรกันกับคนเจ็บ ลูกชายตนอาจป้องกันตัวหรือไม่ คาดว่าคงมีต่อสู้กันทั้ง 2 ฝ่าย อยู่ดี ๆ ลูกชายตนจะไปแทงคนไม่ได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป