กรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 380 รัวยิงนายสามารถ ปักเคเต อายุ 33 ปี ชาว จ.สระแก้ว ตำแหน่งพนักงานดับเพลิงของ อบต.โคกขาม จนเสียชีวิตคาที่บริเวณด้านข้างของสถานีดับเพลิงย่อย อบต.โคกขาม ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 9 ม.ค.64 ที่ผ่านมา
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายครรชิต ภิรมย์ทอง อายุ 33 ปี ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในทางหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว หรือโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนในเมืองหมู่บ้านโดยใช่เหตุ
เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ของวันที่ 12 ม.ค.64 พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย ขอค้า ผกก.สภ.โคกขาม พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาครฐ ร่วมกันนำตัวนายครรชิต ภิรมย์ทอง ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยที่แรกเป็นบริเวณที่เกิดเหตุ ด้านหลังสถานีดับเพลิงย่อย อบต.โคกขาม ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายได้เรียกผู้เสียชีวิตออกมา ก่อนที่จะมีการพูดคุยกัน 2-3 คำ แล้วคนร้ายก็ลงมือยิงผู้เสียชีวิตตามภาพจากกล้องวงจรปิด
จากนั้นคุมตัวไปยังจุดที่สอง ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์กลับไปที่บ้าน เพื่อนำรถคันที่ใช้หลบหนีไปจอดทิ้งไว้ และจุดสุดท้ายเป็นบริเวณปากคลองโคกขาม เป็นจุดที่คนร้ายนำอาวุธปืนโยนทิ้งน้ำ ซึ่งหลังจากที่ทำแผนเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้คุมตัวนายครรชิต กลับขึ้นรถทันที เพื่อนำไปสอบปากคำเพิ่มเติม และส่งศาลจังหวัดสมุทรสาครต่อไป
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามนายครรชิต แต่นายครรชิตกลับไม่ยอมพูดอะไร หลุดออกมาเพียงคำเดียวคือ “ผมไม่ผิด”
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นายเด่นพงษ์ ธูปหอม อายุ 52 ปี รุ่นพี่ที่ทำงานของผู้ตาย กล่าวว่า ตนรู้จักทั้งนายสามารถ ผู้ตาย และนายครรชิต ผู้ก่อเหตุ เนื่องจากตนอยู่บ้านใกล้กับนายครรชิต ซึ่งนายสามารถก็เป็นเพื่อนนายครรชิต เคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านนายครรชิต ประมาณ 2-3 ปี ก่อนแยกออกมาเช่าบ้านอยู่เอง
โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน ตนได้ยินข่าวมาว่านายสามารถ ไปคบหากับภรรยานายครรชิต ในระหว่างที่ทั้ง 2 คนกำลังมีปัญหากันอยู่ ตนจึงสอบถามแต่นายสามารถปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว จึงทำได้เพียงแค่ตักเตือน เพราะไม่อยากมีปัญหากัน
กระทั่งเกิดเหตุ นายสามารถถูกยิงตนตกใจมาก ไม่คิดว่านายครรชิต จะทำรุนแรงถึงขนาดนี้ รู้สึกสงสารนายสามารถมาก โดยเฉพาะนาทีที่นายสามารถ ล้มลงไปตามภาพ เป็นการกระทำที่รุนแรงมาก เพราะคนเคยอยู่ด้วยกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน
ส่วนตัวคิดว่าน่าจะชกต่อยกันให้เรื่องจบไปก็พอแล้ว ซึ่งที่ผ่านมานายสามารถเป็นคนร่าเริง ไม่เคยมีปัญหากับคนอื่นในที่ทำงาน โดยหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ก็รู้สึกโล่งใจ แต่ก็สงสารทั้ง 2 ฝ่าย
ส่วนที่นายครรชิตบอกว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดนั้น คิดว่าไม่ถูกต้อง เพราะฆ่าผู้อื่นถือเป็นความผิด แม้ว่าคนตายอาจจะมีปัญหาส่วนตัวกับผู้ก่อเหตุมาก่อน ก็ไม่สามารถนำเรื่องนี้มาอ้างได้ ก็ต้องปล่อยให้รับกรรมไป
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้าน เลขที่ 140 หมู่ที่ 6 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พบนางสุรัตน์ ปักเคเต อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ของผู้ตายและนางสมัย ปักเคเต อายุ 45 ปี ผู้เป็นอาของผู้ตาย ซึ่งยังอยู่ในอาการโศรกเศร้าที่สูญเสียบุตรชาย ที่เป็นเสาหลักของครอบครัวไป โดยได้จัดสถานที่สวดพระอภิธรรม ที่บริเวณบ้านพักของตัวเอง
นางสุรัตน์ ปักเคเต อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ของผู้ตาย กล่าวว่า หลังจากที่ได้ทราบข่าวมาแล้วว่า ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายครรชิต ภิรมย์ทอง คนร้ายที่ได้ก่อเหตุยิงบุตรชายตนได้นั้นก็ดีใจมาก เพราะรับไม่ได้คนร้ายมันโหดเหี้ยมมาก และทราบมาว่าแม้ลูกชายพยายามวิ่งหนีแล้วแต่ไม่ทัน ทำให้ผู้ตายถูกกระสุนปืนล้มลง คนร้ายยังตามรัวยิงซ้ำ จนขาดใจตายคาที่ จิตใจมันทำด้วยอะไร โหดเหี้ยมอำมหิตมาก
ส่วนโทษในครั้งนี้อยากจะให้ลงโทษประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน เพราะลูกชายคนเป็นเสาหลักให้กับครอบครัว ทุกเดือนจะส่งเงินมาให้ทางครอบครัวตลอด ถ้าไม่มีลูกชายไม่รู้จะอยู่อย่างไร และขณะนี้ก็ออกไปทำงานก็ไม่ได้ เพราะเกรงกลัวโควิด-19
ส่วนการงานศพนั้น ทางการมาดูแลส่งเจ้าหน้าที่ อสม. มาจัดเตรียมสถานไว้เพื่อป้องกันโควิด-19 โดยจะสวดพระอภิธรรมทุกคืน และในวันที่ 14 ม.ค.64 ก็จะประกอบพิธีฌาปนกิจศพที่วัดโคกสามัคคี หมู่ 6 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ตำรวจสภ.โคกขาม ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายครรชิต ภิรมย์ทอง อายุ 33 ปี ดังต่อไปนี้ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง, พาอาวุธปืนไปในทางหมู่บ้านทางสาธารณะ และยิงปืนในเมืองหมู่บ้านโดยใช่เหตุ