ลูกผวากุมารสิงร่างแม่แก้ผ้าเล่นน้ำเขวี้ยงหินไล่สื่อ หมอปลาบุกพิสูจน์อึ้งเจอทักถึงลุงพล (คลิป)

จากกรณีนายสมคิด มีครองแบ่ง หรือ ยุ่ง อายุ 29 ปี เดินทางจากพื้นที่ ต. สวนกล้วย อ.บ้างโป่ง ราชบุรี ไปพบหมอปลา ที่ จ.เพชรบุรี เพื่อขอให้มาช่วยเหลือนางจำรัส เอิกเชื้อ ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นร่างทรงด้านความรัก หมอดูใบไม้ โดยขณะนี้มีอาการอาละวาด ทำลายข้างของจะพังบ้าง ทำร้ายคนในบ้าน ซ้ำใช้มีดไล่ฟันญาติพี่น้อง แก้ผ้าเดินทั่วตามถนน ไม่กินข้าวครึ่งเดือน ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนนั้น

ล่าสุดวันที่ 12 ม.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว อยู่บริเวณทางสามแพร่งหันหน้าออกถนน ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีกระจกแปดเหลี่ยมแปะอยู่เหนือประตูบ้าน 2 อันที่ข้างบ้าน มีศาลพระภูมิตายายพังเสียหาย หลังถูกกิ่งต้นมะม่วงที่ขึ้นอยู่ข้างกันดันจนล้ม

นายสมคิด มีครองแบ่ง อายุ 29 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน พาทีมข่าวดูจุดโต๊ะบูชา มีพานที่แม่ไปรับของมา มีสายสิญจน์ ดอกไม้แห้ง ธูป พระครื่องเก่า ธูปบายสี อีกทั้งมีทั้งมีดทำครัว มีดดายหญ้า จอบ เสียม ค้อนปอนด์ เกือบ 20 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นมีดและค้อน เพราะหากไม่เก็บไว้แม่จะนำมาทำลายบ้านทุบประตูจนพัง

นายสมคิด เล่าว่า แม่ตัวเองเป็นร่างทรงและหมอดูใบไม้ด้านความรักทำให้คนรักกัน ใครมีปัญหาเรื่องความรักก็สามารถทำให้ดีขึ้นได้ แม่สามารถแก้ไขได้หมดตั้งแต่ 2530 ก่อนที่ตนจะเกิด ทุกอย่างดูปกติ

แต่ระยะหลังปี 2563 แม่ตนไม่มีเวลาดูแลเริ่มปล่อยไม่ดูแลของไม่ไหว้ ไม่ทำความสะอาดโต๊ะบูชา ไม่ไหว้กุมาร คล้ายดูแลไม่ดี ไม่มีเวลาให้ ส่วนตนก็ดูแลไม่เป็น ไม่รู้จะทำอย่างไร อาจทำให้ครูที่แม่ขึ้นมารับพานมาโกรธก็เป็นได้

กระทั่ง ปลายเดือนธันวาคม 2563 ช่วงวันพระวันโกนสุดท้าย ก่อนปีใหม่ไม่กี่วัน แม่ตนมีอาการแปลกไป ใช้น้ำฉีดล้างทั่วบ้าน ทำปลั๊กไฟช็อตหมด บอกตนว่าจะล้างบ้านรับปีใหม่ จากนั้นแม่ก็ยังผิดเพี้ยนไปอีก เดินแก้ผ้ากลางคืนไปเล่นน้ำ เล่นขี้ดินหน้าบ้าน ย้ายตัวเองออกมานอนกระต๊อบหน้าบ้าน บางทีก็จะเผาบ้าน

จากนั้นตนจึงต้องไปปรึกษาร่างทรงให้ดูว่าแม่เป็นอะไร ทั้งที่แม่ตนก็เป็นร่างทรง โดยส่วนใหญ่ทักเหมือนกันหมดว่าแม่ตนโดนผีเข้า ของเข้าตัว ตนก็พยายามแก้ จุดธูปนำผลไม้มาไว้ทำทุกอย่าง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะแม่มีพฤติกรรมไม่กินไม่นอน กินน้ำไม่ได้ มาได้ 1 เดือนแล้ว ตนเป็นห่วงมาก

ส่วนตัวตอนนี้ตนเชื่อว่าแม่ผีเข้า อยากให้แม่หาย เพราะตนก็ทำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ว่ากุมารหรือผีตนไหนเข้า แปลกตรงที่แม่ไม่กินข้าว ไม่กินน้ำไม่นอนมา 1 เดือน แต่ก็อยู่มาได้ ส่วนที่ต้องเก็บมีดค้อนของมีคมไว้ไกลมือแม่ เพราะจะเอามาทำร้ายตน ล็อกห้องไว้ เมื่อเช้าก็เอาหินมาขว้างใส่ตน และเอาไม้ไผ่มาพุ่งใส่ตน แต่ตนหลบทัน

นอกจากนี้ แม่มีอาการเครียดเนื่องจากที่ดินที่ไปจำนองไว้หลุด และถูกขายทอดตลอดในราคา 5 แสนบาท เจ้าของที่จะมายึด และขอเงินก้อน ทำให้ตนต้องไปขอร้องทั้งที่ไม่รู้เรื่องราวมาก่อน ตอนนี้ไม่พร้อมย้ายออก ครอบครัวลำบากมาก

ระหว่างนั้น นางจำรัส เข้ามาพูดคุยกับทีมข่าว บอกว่า "ไม่มีใครตามมาทำร้าย แต่เมื่อวานซืน ใครเข้าตัวเองไม่รู้ ไปดูแขนขาหักหมด" โดยน้ำเสียงเล็กและแหบ คล้ายเสียงเด็ก จากนั้นเมื่อคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง นางจำรัสหันไปเห็นช่างภาพ จึงได้เกิดอาการโมโหเดินหนี พร้อมกับโวยวายว่าไม่ให้ถ่าย บอกว่าต้องหาใบอนุญาตมา ให้ช่างภาพออกไปเลย พร้อมก้มลงไปหยิบก้อนหินจะปาใส่ช่างภาพ

นางจำรัสยืนยันว่า ไม่มีใครตามทำร้าย ไม่ได้เข้าทรง ไม่ได้ทำอะไร ตอนนี้อยู่ธรรมดา แค่ไม่ค่อยสบาย ไม่เกี่ยวกับวิญญาณ ที่เป็นแบบนี้ เพราะลูกชายทำผิดผีมอญ ทำให้สิ่งที่เลี้ยงดูแลไว้โกรธ ตนเองควบคุมตัวเองไม่ได้ บางวันแก้ผ้าเล่นเดินไปทั่ว ทำลายข้าวของแบบไม่รู้ตัว เพราะผีมอญ หากใครทำให้โกรธจะกลายเป็นผีร้ายย้อนกลับมาทำลายคนดูแล ส่วนวิธีแก้นั้นต้องรำผีมอญถวาย

เมื่อทีมข่าวอมรินทร์ ถามว่า "ได้เลี้ยงอะไรไว้บ้างไหม" นางจำรัสได้คว้าแขนนักข่าวเดินเข้าไปในบ้าน เป็นจุดที่ตั้งของบูชา ตอนที่นั่งทรง ด้านในเป็นโต๊ะ 1 ตัว สูงเกือบ 1 เมตร บนโต๊ะมีแต่กุมาร และไอ้ไข่ ซึ่งได้มานานแล้วบูชามานาน พร้อมกับชี้ไปที่ตัวกุมาร และบอกว่า "นี่ไงกุมาร ที่พูดนี่ไม่ใช่ตน เป็นเสียงกุมาร พูดได้ครั้งเดียว"

จากนั้น เมื่อหมอปลาเดินทางมาถึง นางจำรัสก็ได้ตะโกนร้องว่า "เพื่อนมาแล้ว ๆ หมอปลาเป็นเพื่อนกัน" พร้อมถามหมอปลาว่าจำตนได้ไหม ตนเคยไปหาหมอปลาที่บ้าน จ.เพชรบุรี หมอปลาได้พยายามสอบถาม นางจำรัสบอกว่าตนเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก ไม่ได้กินข้าวมาจะเข้าเดือนที่ 5 เมื่อ 2 วันก่อนตนแขนหัก ขณะนี้ตนกำลังจะโดนยึดที่ดิน จากนั้นนางจำรัสก็ได้อาสาพาหมอปลาเดินชมบ้าน

หมอปลา บอกว่าอาการของนางจำรัสไม่ได้ผีเข้า แต่เกิดจากความเครียด ส่วนทางสามแพร่งหน้าบ้านก็ไม่เกี่ยวข้องกับอาการของนางจำรัส และแนะนำลูกของนางจำรัสให้พาแม่ไปพบแพทย์ ทั้งนี้ นางจำรัสยังตะโกนพูดถึงหมอปลาที่ไปสนิทกับลุงพลในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ด้วย

นายสมคิด บอกว่า บ้านที่ตนและแม่อาศัยอยู่ตั้งอยู่บนที่ดินของน้าชาย แต่ตนไม่เคยทราบมาก่อนว่าแม่นำโฉนดที่ดินไปจำนอง ซึ่งตนไม่ทราบเลยว่าแม่นำโฉนดที่ดินไปจำนองด้วยเหตุผลอะไร และนำไปจำนองเมื่อไร ตนเพิ่งทราบเมื่อ 2 วันก่อน เนื่องจากผู้ให้การจำนองนั้นเดินทางมาหาตน บอกกับตนว่าต้องการจะขายที่ดิน หากตนอยากได้ที่ดินคืน ก็ให้ตนนำเงินมาถอนที่ดินคืนในวงเงิน 500,000 บาท แต่ขณะนี้ตนไม่มีเงิน เนื่องจากตนตกงาน อาจจะต้องเจรจากับผู้ให้จำนองอีกครั้งว่าจะผ่อนผันอย่างไรได้บ้าง ตอนนี้ตนขอให้แม่หายป่วยก่อน ขณะนี้ตนสบายใจขึ้นที่หมอปลาเดินทางมาไขข้อสงสัยอาการของแม่ตน โล่งใจที่ไม่มีอาถรรพ์ใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง