ชีวิตเปลี่ยน! "ทูน หิรัญทรัพย์" ฝึกอยู่ในโลกมืด รับเคยเครียดถึงขั้นคิดสั้น

11 ม.ค. 64

"ทูน หิรัญทรัพย์" อดีตพระเอกในตำนานที่ยืนหนึ่งอยู่ในใจของแฟนๆ ล่าสุดเจ้าตัวได้พาลูกสาวคนสุดท้อง "น้ำตาล หิรัญทรัพย์" ที่ไม่ค่อยออกสื่อสักเท่าไหร่ มานั่งพูดคุยแบบเปิดอกด้วยกันในรายการ Club Friday Show เปิดใจถึงเหตุผลที่ต้องแยกทางกับอดีตภรรยาหลังประคองชีวิตคู่มากว่า 39 ปี ซึ่งลูกสาวเป็นคนพาไปหย่า พร้อมทั้งเคลียร์ข่าวเรื่องความเจ้าชู้กับสามสาวคนดังในวงการบันเทิงแบบหมดเปลือก รวมถึงการใช้ชีวิตในโลกมืด หลังสูญเสียการมองเห็นตาข้างขวา จนเกือบคิดสั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "หมอช้าง" ชีวิตพลิกชั่วข้ามคืนจากเคยรวยนั่งรถหรูสู่รถเมล์ รัก 15 ปีที่ไม่สามารถเล่าได้ 
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่     

s__67559505

ถาม การเป็นพระเอกของทูน หิรัญทรัพย์ อาจจะไม่เหมือนคนอื่น เพราะว่ามาทางสายตลก เป็นพระเอกที่ตลกทะเล้น

ทูน หิรัญทรัพย์ : พระเอกเมื่อก่อนต้องเล่นกล้ามให้มีหน้าอกหน่อยๆ แต่สำหรับตัวเรา ต้องขอบคุณพี่แอ๊ด สมบัติ มากๆ เพราะพี่แอ๊ดบอกเราว่า บ๊อบ รู้จักคำว่าพระเอกไหม มันเป็น 2 คำนะ คือพระเป็นคนดีของสังคม เอกหมายถึงว่านำไปทางที่ดี เป็นเรื่องดีทั้งทางเรื่องการพูดจา พฤติกรรม เราเลยจะไม่มีข่าวเรื่องดื่มเหล้า ยาเสพติด เที่ยว หรืออะไรพวกนี้เลย เพราะว่ากลัวจะไม่ได้เป็นพระเอก (หัวเราะ)


ถาม ไม่มีข่าวก็จริง แล้วเราไปทางนั้นไหม

ทูน หิรัญทรัพย์ : เขาจับไม่ได้ (หัวเราะ) อุ้ย!! ไม่มีๆ ครับ เราก็ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ตั้งแต่ต้นเลย

 

ถาม ไม่ได้หลงใหลกับชื่อเสียงพระเอก แล้วหลงใหลกับสาวๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาไหม

ทูน หิรัญทรัพย์ : ก็มีคิดบ้าง แต่ว่าในเชิงปฏิบัติแล้ว มันไม่น่าได้ เพราะตอนนั้นที่เราเริ่มต้นเป็นพระเอก เราแต่งงานแล้ว พอเข้าวงการได้ 1 ปี เราก็แต่งงาน มีลูกเลย แต่เราก็ไม่ได้ปิดนะครับ เพราะเราก็อยากให้เกียรติเขา แต่ผู้สร้างหนังบอกว่าอย่าเลย เดี๋ยวหนังจะขายไม่ออก ถามว่าเป็นคนเจ้าชู้ไหม เฟรนด์ลี่กับเจ้าชู้ อาจจะแตกต่างกับแบบเส้นบางๆ มาก เราเป็นคนที่เจอใครก็ทัก ก็กอดกันเป็นปกติของฝรั่ง เราก็เลยรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ


ถาม เมื่อก่อนไม่มีโซเชียล มีข่าวพี่บ๊อบบ้างไหม

ทูน หิรัญทรัพย์ : ไม่มีครับ ข่าวไม่มีเลย แต่ว่าข่าวไปถึงหูแม่ของลูกเนี่ย มี ว่ามีอะไรกับพุ่มพวง มีอะไรกับเนาวรัตน์ มีอะไรกับจารุณี เราก็บอกว่าเอาข่าวพวกนี้มาจากไหน เล่นเรื่องไหนก็มีข่าวมาถึงเขา แต่ไม่มีข่าวลงในสื่อ แต่ว่าเขาไปสืบมา เพราะผมก็ถามเขาจริงๆว่าไปเอาข่าวนี้มาจากไหน เขาก็บอกเราว่าพูดกันในที่ร้านทำผม คงเป็นที่ที่ผู้หญิงเยอะ เราก็ไม่ได้แก้ตัวอะไร เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ตอนแรกที่เราแต่งงานกัน ได้พูดคุยกัน ได้เข้าใจในงานที่เราทำ แต่ตอนหลัง เราทำงานที่ต่างจังหวัดนาน เขาคงได้ข่าวมา แต่ได้มาจากร้านทำผม ข่าวที่ได้มาไม่มีมูล พอไม่มีมูล ก็ไม่เป็นข่าว พอไม่เป็นข่าว ก็ไม่เป็นความจริง


ถาม เพราะข่าวนี้ทำให้ทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน

ทูน หิรัญทรัพย์ : เราก็เป็นมนุษย์ธรรมดา แต่เราทำอะไร เราต้องมีสติ เราได้ร่วมงานกับนางเอกคนไหนก็ตาม แล้วเรามีใจให้กัน เราก็ต้องมีคำว่าเฮ้ย ..ที่บ้านเขาจะเป็นอย่างไร และที่สำคัญที่สุด คนนี้เขาก็เป็นดาราเป็นนักแสดงดัง แล้วถามว่าถ้าเกิดมีข่าวออกไป คนที่เสียหายจะเป็นผู้หญิง เราก็มีความรู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับคนที่บ้าน และไม่แฟร์กับนางเอกในวงการเดียวกัน

s__67559504

ถาม จากตอนที่มีปัญหาตอนนั้น มันบั่นทอนความรู้สึกดีต่อกันไหมในครอบครัว

ทูน หิรัญทรัพย์ : มีนะครับ แต่เราต้องประคอง สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ดีให้ได้ เราต้องให้เวลากับเขาได้ นั่นอาจจะเป็นข้อผิดพลาดของเราก็ได้ เพราะเราไม่ค่อยมีเวลา ใน 1 เดือน เรากลับบ้านแค่ 3-4 วันเท่านั้น บางครั้งมานอนแค่คืนเดียวก็ไปทำงานต่อไม่เชียงใหม่ ก็กาญจนบุรี ไม่ก็สระบุรี ไปทุกจังหวัด จะบอกว่าชีวิตของนักแสดงไทย ผมว่ารันทดนะ อย่างที่เขาบอกว่านอนกลางดินกินกลางทราย ใกล้เคียงเลย เพราะนอนในรถอย่างเดียวเลย


ถาม แล้ววิธีสร้างความไว้วางใจ พี่บ๊อบทำอะไรบ้าง

ทูน หิรัญทรัพย์ : บางทีก็เวิร์ก บางทีก็ไม่เวิร์ก เราเป็นคนที่พูดครั้งเดียว น่าจะเข้าใจ พูดหลายๆ ครั้งก็จะเป็นเรื่องชินไปแล้ว


ถาม ความไม่วางไว้จริงๆ เกิดจากกระแสข่าวที่ร้านทำผม หรือเกิดจากตัวของพี่บ๊อบไปทำให้เขาเกิดความไม่ไว้ใจเอง

ทูน หิรัญทรัพย์ : ก็มีส่วน เพราะอย่างเราทำงานเสร็จ แทนที่จะกลับบ้าน เราก็เถลไถล พี่ๆ ชวนมาบ้านพี่หน่อยเราก็ไป เมื่อก่อนไม่มีมือถือที่จะโทรบอกที่บ้านว่าเราจะกลับบ้านช้านะ มันก็ยากในการติดต่อเหมือนกัน การสื่อสารก็เลยคลาดเคลื่อน เราก็บอกเขาว่าเราเป็นคนไม่มีอะไร จงเข้าใจ แต่ถ้าไม่เข้าใจ เราไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะเราเป็นคนที่พูดครั้งเดียว ช่วยจำหน่อย เราเป็นคนที่ปฏิบัติตัวแบบนี้มาตลอดแล้วจนถึงทุกวันนี้ 40 ปีที่อยู่ในวงการก็คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ไม่มีชื่อเสียงที่เสีย

ทูน หิรัญทรัพย์ : พอถึงจุดหนึ่ง เราก็ย้อนกลับไปดูว่าทำไมเราต้องทะเลาะกันบ่อยๆ ทำไมคุณต้องคิดแบบนั้น ทำไมมันไม่สมบูรณ์แล้วเราก็คิดว่ามันยากมากที่คนสองคนจะมาอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข


ถาม ตอนที่เรามีปัญหากัน เราห่วงลูกไหม พี่บ๊อบมีลูกกี่คน

ทูน หิรัญทรัพย์ : จริงๆ แล้วมีลูกทั่วประเทศครับ (หัวเราะ) หมายถึงว่าไปไหนใครๆ ก็เรียกว่าพ่อ จริงๆ มีลูก 3 คน ตอนที่เริ่มมีปัญหาก็มีลูกสามคนแล้ว ลูกคนที่สามเขาห่างจากคนกลาง 10 ปี แล้วเขาก็มีคำถามว่าทำไม? มีคำถามที่เขายอมรับไม่ได้ เราเข้าใจเขานะ เพราะเขาเป็นเด็ก เขาก็ต้องมีความรู้สึก เพราะตอนที่เราเด็กๆ พ่อแม่เลิกกันก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แล้วเราก็ตั้งใจเรียนหนังสือเพราะหน้าที่ของเราคือเรียนหนังสือ เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เราก็มีครบทั้งพ่อและแม่ เพียงแค่ว่าเราอยู่คนละบ้านกันเท่านั้น เราก็บอกลูกไปแบบนี้ แล้วเราก็ย้ายไปอยู่ที่สำนักงานของเรา เคลียร์ที่นั่นเป็นที่นอน เราก็พิสูจน์ว่าที่เราไปอยู่ที่นั่นไม่มีอะไร ไม่มีใคร มาทุกครั้ง บางทีก็มาแบบเซอร์ไพรส์เปิดประตูทำอะไร!! เราก็ประชุมอยู่ เขียนงานอยู่


ถาม เมื่อได้ฟังแล้วบางทีจะว่ายากก็ยาก บางคู่จะง่ายก็ง่าย เพราะอยู่ที่การสื่อสาร เพียงแต่ว่าในงานของพี่บ๊อบเองคนที่อยู่ข้างๆ ต้องเป็นคนที่ใจกว้างพอสมควร เพราะเป็นงานที่ดึงเวลาของครอบครัวไปเยอะ ปฏิเสธข่าวสารที่เข้าหูไม่ได้ แต่พี่บ๊อบก็พยายามยื้อชีวิตคู่มายาวนาน กี่ปีที่ตัดสินใจว่าพอแล้ว

ทูน หิรัญทรัพย์ : น่าจะเป็น 38-39 ปี คนก็มักจะถามว่าทำไมรอขนาดนี้ เพราะเราอยากให้ลูกโตแล้วรู้เรื่องก่อน เพราะว่าที่เราอยู่ด้วยกันมา เราอยู่กันเพราะว่าลูก

s__67559502

ถาม ตอนแรกที่ตั้งใจว่าจะอยู่กันเพื่อลูก แต่ลูกบอกว่าหย่าเถอะ และลูกสาวคือคนที่พาไปหย่า

ทูน หิรัญทรัพย์ : ใช่ครับ คนที่หนึ่งกับคนที่สองเขาก็เข้าใจ เพราะตอนเด็กๆ เขาก็จะได้ยินเสียงทะเลาะกันตลอด ในสิ่งแวดล้อมที่มันไม่ดี เขาก็เครียด เขาก็อยากให้อยู่กันได้ โดยที่ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน สำหรับเรื่องนี้ เราคุยกันในครอบครัวว่าทางออกมันจะเป็นยังไงเพราะว่าลูกคนหนึ่งไปเรียนอเมริกา อีกคนเรียนที่ออสเตรเลีย เขาก็เห็นเรื่องการหย่ามา เขาก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะในช่วงนั้นเราทะเลาะกันเยอะ เรื่องทะเลาะมันเกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ ครับ เราก็แค่หาทางทำยังไงให้ลดตรงนี้ลง ถามว่ายากไหมในการตัดสินใจ ตอนนั้นทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว เรื่องของบ้าน เรื่องของการดูแลลูกๆ ให้เรียนจบ แล้วก็ทุกอย่างมันพร้อมหมดแล้ว เราก็คิดว่าเราอยากจะทำอะไรเพื่อตัวเองแล้วกับเวลาที่เหลือ มันอาจจะไม่มีโอกาสทำ ก็เลยได้ทำเรื่องของสังคม เยาวชน ก็เลยมีความสุขกับตรงนี้ ลูกๆ ทุกคนก็เห็นด้วยกับตรงนี้ ลูกๆ เป็นพยานให้เลยครับ เขายังบอกเราอีกว่า พ่อ .. หยุดเถอะ ทำไมทำให้คนอื่นเขา ทำไมไม่ทำให้ตัวเองบ้าง หยุดเถอะ หยุดบ้าง เราก็บอกว่าไม่ได้ เพราะอีกไม่นานเราก็เข้าเลข 7 แล้วเพราะตอนนี้เราก็ย่างเข้า 66 ปีแล้ว เราก็อยากจะทำอะไรที่มันเป็นประโยชน์ ซึ่งสำหรับอดีตภรรยาของผม ตอนนี้เรายังสามารถติดต่อ พูดคุยกันได้ปกตินะครับ แต่ว่าอาจจะไม่ได้สนิทเท่ากับสมัยก่อนและอาจจะไม่ได้คุยกันบ่อยๆ เหมือนเดิม


ถาม ลูกสาวที่บอกกับพ่อแม่ว่าไม่เป็นไร ถ้าเดินหน้าในฐานะสามีภรรยาไม่ได้ หนูโอเคกับภาวะที่เกิดขึ้นตอนนั้น พี่น้องเราคุยกันยังไงบ้าง

น้ำตาล(ลูกสาว ทูน หิรัญทรัพย์) : เราสนิทกันมาก ใกล้ชิดกันมาก เขาทั้งคู่ก็มาอธิบายให้เราฟังว่าเราโอเคไหมที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ตอนนั้นเราอยู่โรงเรียนประจำ เราเลยไม่ได้สัมผัสเท่ากับที่พี่ๆ เขาสัมผัสเรื่องราวที่เกิดขึ้น พอเราได้รับฟังพี่ๆ อธิบาย เราก็อาจจะมีคำถามว่าทำไม แต่เหมือนว่าพอเราโตแล้วก็รู้ว่าเป็นทางเลือกของเขา แล้วเขามีความสุขมากกว่าในการที่เขาไม่ต้องอยู่ด้วยกัน เราก็ไม่ได้ติดอะไรตรงไหน เรื่องการดูแลก็สลับกันไปค่ะ จริงๆ แล้วประจำจะอยู่กับคุณแม่ แล้วแต่ว่าอาทิตย์ไหนใครสะดวก ก็ไปดูแลคุณพ่อค่ะ

s__67559500


ถาม ไม่ถามไม่ได้เลย สำหรับปัญหาเรื่องสุขภาพตา ที่ตอนนี้เห็นว่าการมองเห็นสามารถมองเห็นได้เพียงข้างเดียว

ทูน หิรัญทรัพย์ : ตอนนี้ตาข้างขวาคือมองไม่เห็นเลย ส่วนตาข้างซ้ายยังมองเห็นอยู่ แต่แค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ตอนแรกที่เรารับรู้ว่าจะมองไม่เห็น เหมือนเราไม่รู้อนาคต ไม่รู้อาทิตย์หน้าจะมองไม่เห็นอีกข้างหนึ่งไหม เลยเกิดความเครียดขึ้นมาครับ จนครั้งหนึ่งเราเองคิดว่าจะฆ่าตัวตาย แต่ลูกคือคนที่ทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาได้ หลังจากนั้นเราก็พยายามฝึกและซ้อม เผื่อว่าถ้าวันหนึ่งเราเกิดมองไม่เห็นจริงๆ  เราก็ลองปิดตาดูให้เหมือนเราอยู่ในโลกมืด แล้วใช้วิธีการคลำ ใช้มือเป็นตา


ถาม แล้วในวันที่คุณพ่อมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ลูกๆ ให้กำลังใจคุณพ่อยังไงบ้าง

น้ำตาล : เวลาคุณพ่อเครียดเขาจะไม่ค่อยแสดงออกให้เราเห็น ด้วยความที่เราเป็นลูกสาวทั้งสามคน ก็อาจจะมีเขียนการ์ดให้ ส่งข้อความให้ เตือนคุณพ่อตลอดว่าอย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ อย่าลืมทานยา อย่าลืมหยอดตา เป็นการให้กำลังใจแบบนี้ตลอด ให้เขารู้ว่าเราอยู่ข้างๆ เขา

s__67559503

ถาม ในความอายุ 25 ปี ของน้ำตาล เรารับรู้ความเป็นทูน หิรัญทรัพย์ยังไงบ้าง

น้ำตาล : จริงถ้าเทียบกับพี่ฝนกับพี่หวาน ค่อนข้างลำบาก เพราะหนูค่อนข้างที่จะห่างจากพี่สาวคือ 10 ปี กับ 13 ปี เพราะฉะนั้นพี่ๆเขาจะมีเพื่อนๆ ที่ดูละครคุณพ่อ แต่อย่างหนูเพื่อนๆ ก็จะรับรู้ในฐานะที่ว่าเคยเห็นคุณพ่อเล่นเป็นคุณพ่อนางเอก พระเอกค่ะ ก็ไม่ได้สัมผัสอะไรมากขนาดนั้น แต่ก็จะรับรู้จากคุณพ่อคุณแม่เพื่อนว่าเคยเห็นคุณพ่อเราเล่นเป็นพระเอก


ถาม อะไรคือสิ่งที่ทำให้น้ำตาลภูมิใจในการที่เราได้เป็นลูกสาวของคุณพ่อทูน หิรัญทรัพย์

น้ำตาล : คุณพ่อไม่ค่อยนึกถึงตัวเองเลย ทำให้เราเป็นห่วงเขา อยากทำงานเพื่อสังคม อยากทำงานเพื่อส่วนรวม อยากให้ทุกคนมีความสุข อยากทำให้ชีวิตเยาวชนดีขึ้น เป็นเรื่องที่เราภาคภูมิใจ เพราะเราก็อินเรื่องราวโซเชียลอยู่แล้ว ก็ภูมิใจตรงที่ว่าเขาคิดถึงแต่คนอื่นค่ะ อันนี้เราไม่ได้ negative นะคะ ไม่ได้น้อยใจด้วย ตรงนี้ทำให้รู้ว่าเหมือนเราโอเคแล้ว เราได้ไปดูแลคนอื่น ช่วยเหลือคนอื่นก็เป็นสิ่งที่กลับมาทางเราในส่วนหนึ่งด้วยที่เราได้แบ่งปันให้กับคนอื่นค่ะ

s__67559499

ดูคลิปย้อนหลังรายการ Club Friday Show ได้ทางยูทูป

https://youtu.be/eahyUpCvssk

https://youtu.be/bDck8qnf3SA

https://youtu.be/wvuUUqxbCns

https://youtu.be/uQltmE41wYc

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส