จากกรณีมีคนกระโดดแม่น้ำปราจีนบุรี วิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจนอกเครื่องแบบ และจมสูญหายในน้ำ บริเวณศาลเจ้าพ่อหงษ์ทอง ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หน่วยกู้ภัยสว่างบําเพ็ญธรรมสถาน จ.ปราจีนบุรี จัดชุดนักประดาน้ำเพื่อค้นหาผู้สูญหายในน้ำอย่างเร่งด่วน โดยใช้เวลาค้นหานานกว่า 2 ชั่วโมงยังไม่มีวี่แวว คาดว่าจะจมน้ำเสียชีวิตในบริเวณจุดดังกล่าว
ขณะที่ดำเนินการค้นหามีตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ ร่วมสังเกตการณ์อยู่ด้วย ต่อมาทราบชื่อว่าผู้สูญหายคือ นายอเนก กงไกรลาศ อายุ 41 ปี
วันที่ 5 ม.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ จุดที่ผู้สูญหายกระดดลงไป บริเวณหลังบ้านหลังหนึ่ง ริมแม่น้ำปราจีนบุรี จ้าหน้าที่สว่างบำเพ็ญกว่า 50 คน ระดมกำลังค้นหา ผลัดกันลงเรือสำรวจตามแม่น้ำปราจีนบุรีอย่างต่อเนื่อง
โดยทีมกู้ภัยปักหลักบริเวณริมน้ำ ตรงข้ามกับจุดที่ผู้สูญหายกระโดดลงไป รวมทั้งยังมีชาวบ้านจำนวนมาก และญาติของผู้สูญหายปักหลักดูเหตุการณ์จำนวนมาก อยู่ใกล้เคียงกับจุดที่ผู้สูญหายกระโดดลงไปประมาณ 300 เมตร
นายบรรเจิด ไพบูลย์ อายุ 45 ปี ชุดค้นหาใต้นำ สว่างบำเพ็ญ และหัวหน้าตอบโต้ภัยพิบัติ จังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้มีการเริ่มค้นหาผู้สูญหายตั้งแต่เวลา 14.30 น. หลังได้รับแจ้งว่ามีคนวิ่งหนีตำรวจ กระโดดลงแม่น้ำปราจีนบุรี ทีมกู้ภัยได้ค้นหาตามพิกัดที่คนรอบข้างเห็นว่าจมที่จุดใด จุดที่ผู้สูญหายจมคือบริเวณกลางแม่น้ำปราจีนบุรี มีความลึกมากกว่า 8 เมตร
การปฏิบัติการค้นหารวม 11 ชั่วโมง 30 นาที ก็ยังไม่พบ จึงยุติการค้นหาก่อน โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ มูลนิธิสว่างบำเพ็ญ ปราจีนบุรี มูลนิธิสัจจะบำเพ็ญ กบินทร์บุรี มูลนิธิสว่างบำเพ็ญ สระแก้ว มูลนิธิสว่างเที่ยงธรรม อรัญประเทศ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ประดาน้ำ ลงดำน้ำ ชุดละ 10 คน รวมเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมากกว่า 40 คน ทำการค้นหาทั้งคืนก็ยังไม่พบ คาดว่าอาจจะค้นหาผิดจุด หรือผู้สูญหายมีการหลบหนีไปแล้ว เพราะทราบมาว่าค่อนข้างเก่งเรื่องดำน้ำ
ซึ่งวันนี้ถือว่าครบกำหนด 24 ชั่วโมงที่ผู้สูญหายจมน้ำ ในเวลา 13.25 น. ตามหลักถ้าหากผู้สูญหายเสียชีวิต ก็จะพบศพจะลอยขึ้นมาจากน้ำ อาจจะเป็นเพราะภูมิประเทศ และประกอบกับสภาพอากาศช่วงนี้ที่ค่อนข้างเย็นจัด ศพจึงลอยขึ้นช้ากว่าที่คาดเอาไว้
นางสะอิ้ง กงไกรลาศ อายุ 75 ปี แม่ของนายอเนก กรงไกลาศ ผู้สูญหาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ลูกชายบอกว่าจะมาทำงาน รปภ. ที่โรงงาน ตนก็หุงข้าวไว้ให้ แต่ลูกไม่กิน ลูกมีอาการปกติ คาดว่าน่าจะมีการแวะมาหาเพื่อนใกล้จุดเกิดเหตุ จนกระทั่งมาทราบข่าวเมื่อวานนี้ช่วง 17.00 น. ลูกกระโดดน้ำ ตนเองตกใจมาก ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมานอนไม่หลับ
ทั้งนี้ ทางครอบครัวเดินทางไปดูดวงชะตากับหลวงพ่อพัน วัดชะเอิม ซึ่งท่านก็บอกว่าลูกชายไม่อยู่แล้ว และบอกว่าลูกชายมีวาสนาเพียงเท่านี้ ดวงถึงฆาตแล้ว ดวงตก 0 ทั้งหมด ซึ่งตนเองก็เชื่อและศรัทธามาก ทำให้ทางครอบครัวต้องทำใจเอาไว้แล้วว่านายอเนกน่าจะจมน้ำเสียชีวิต
โดยมีการจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง และพระแม่ธรณีจำนวน 16 ดอก ให้ร่างลูกขึ้นมาจากน้ำ และมีการตะโกนบอกเพราะคิดว่าลูกน่าจะกำลังฟังอยู่ ก่อนหน้านี้ไม่มีลางบอกเหตุ และส่วนตัวก็ยังไม่อยากบอกอะไรกับลูก เพียงแต่ขอให้ได้เจอหน้าลูกเร็ว ๆ ตนเองยังไม่ได้คุยกับตำรวจมากนัก และส่วนตัวก็ไม่โกรธตำรวจ เพราะเข้าใจว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ลูกชายคงกลัวไปเอง รวมทั้งที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน ปกติก็จะไปกับเพื่อนนัดสังสรรค์กันตามปกติ ไม่มีเรื่องยาเสพติด และไม่เคยต้องคดี
พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ ว่าเจ้าหน้าที่สายตรวจเดินทางไปจับกุมคนร้ายยาเสพติดใกล้กันกับบริเวณดังกล่าว จึงมีการขยายผล และมีเบาะแสว่ามีกลุ่มผู้ต้องสงสัยอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ จึงเดินทางมาตรวจสอบ 4 นาย
ก่อนจะถึงที่เกิดเหตุ ห่างจากจุดที่นายอนกกระโดดน้ำประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ก็สังเกตเห็นรถจักรยานต์ยนต์จอดอยู่หน้าบ้านชาวบ้าน พร้อมกับชายไทยคนหนึ่งยืนอยู่ ทันทีที่เห็นรถของเจ้าหน้าที่จึงวิ่งหลบหนีเข้าไปทางบ้านของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงติดตามไป เมื่อไปถึงก็ยืนอยู่ริมแม่น้ำ และพบว่าชายคนดังกล่าวลอยอยู่กลางแม่น้ำ พยายามจะหาอุปกรณ์ไปช่วย ก็พบว่าชายคนดังกล่าวหายไปแล้ว จึงคาดว่าน่าจะจมน้ำ จึงมีการติดต่อกู้ภัยให้ช่วยค้นหา
สำหรับบ้านของนายอเนก อยู่ใกล้กับจุดที่นายอเนกกระโดดลงน้ำหนีตำรวจระยะทาง 6.2 กิโลเมตร และจุดที่นายอนกเจอตำรวจจนไปถึงจุดที่กระโดดน้ำระยะทาง 100 เมตร หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้มีการเก็บหมวกกันน็อกที่ตกอยู่ริมน้ำไปแล้ว ตรวจสอบบริเวณโดยรอบไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ
ทีมข่าวเดินทางไปยังจุดที่นายอเนกกระโดดน้ำ พบว่าเป็นบ้านของนางศิริรัตน์ โตฉาย อายุ 32 ปี มีบ้าน 3 หลังเรียงติดกัน โดยเป็นบ้านของญาติทั้งหมด ติดกับแม่น้ำปรรจีนบุรี พบว่าประตูรั้วด้านหน้าบ้านพังเสียหาย และทางลาดพงหญ้าหลังบ้านติดกับแม่น้ำ บริเวณหญ้ามีรอยคล้ายคนแหวกทางลงไปด้านล่างแม่น้ำ
นางศิริรัตน์ โตฉาย อายุ 32 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองไม่อยู่บ้าน เพิ่งจะกลับมาจากบ้านญาติ ช่วงเช้าของวันนี้ กลับมาก็สังเกตว่าสังกะสีด้านข้างรั้วบ้านพัง เพราะปกติก็จะตั้งขึ้น คิดว่าไม่ใช่ลมหรือฝนตก จึงมีการสอบถามคนข้างบ้าน ทราบว่ามีคนมาจอดรถจักรยานยนต์และเมื่อเห็นรถตำรวจก็รีบวิ่งหนีพังรั้วเข้ามาในบ้านทันที เมื่อวิ่งเข้ามาในบ้านตำรวจจึงวิ่งตามเข้ามา ตนยืนยันว่าตนเองไม่รู้จักกับนายอนก และก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องมากระโดดน้ำที่บ้านของตนเองด้วย
ส่วนตัวมองว่านายอเนกไม่น่าจะจมน้ำ เพราะถ้าหากจมต้องขึ้นอืดและลอยขึ้นมาแล้ว และน้ำในแม่น้ำก็ไม่ไหลแรง คิดว่าตกอยู่ตรงนี้ ก็คงจะต้องเจอไปแล้ว โดยเท่าที่เคยทราบมาบริเวณนี้ไม่เคยมีคนจมน้ำเสียชีวิต แต่ส่วนตัวก็มีความเชื่อเรื่องศาลเจ้าพ่อหงษ์ทองใกล้กับจุดเกิดเหตุ เพราะคนในละแวกนี้ก็เชื่อและศรัทธามีแต่คนนับถือ อาจจะเป็นไปได้เรื่องตัวตายตัวแทน ตนเองยังเคยไปสักการะอยู่บ้าง ขอพรได้หลายเรื่อง ทั้งเรื่องหวย ทั้งเรื่องงาน และท่านศักดิ์สิทธิ์มาก