สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 63 เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ มาท่องเที่ยงในวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ภายในอ่างเก็บน้ำคลองสียัด เขาตะแบก บ้านท่าคาน ม.2 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา นั่งเรือยนต์ของนายประคอง บุญเลี้ยง อายุ 50 ปี เพื่อข้ามไปเกาะกลางน้ำไปสังสรรค์และตกปลา แต่เกิดอุบัติเหตุเรือล่มกลางน้ำ
มีผู้สูญหาย 3 ราย คือ นางรัชดา ปิดตาทเน อายุ 49 ปี ภรรยานายประคอง คนขับเรือ ต่อมาพบศพแล้วนำไปบำเพ็ญกุศลที่ ต.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา และนักท่องเที่ยว 2 คน คือ นายเทิดศักดิ์ ปราบภัย อายุ 52 ปี พบศพแล้วนำไปบำเพ็ญกุศลที่บุรีรัมย์ ส่วนนายตั้ง ฮวดใช้ อายุ 65 ปี ยังสูญหาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เริ่มปฏิบัติการค้นหาต่อเนื่อง
ล่าสุดวันที่ 2 ม.ค. 54 เวลา 06.45 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยปฏิบัติการค้นหาสำเร็จ พบร่างของนายตั้ง ฮวดใช้ ห่างจุดพบเรือ 100 เมตรสภาพศพคว่ำหน้าลอยขึ้นมาจากใต้น้ำ
นายกษมนณฏฐ์ พฤกษา อายุ 19 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยพนม กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เริ่มปฏิบัติการค้นหานายตั้ง ตั้งแต่เวลา 05.00 น. จนเวลา 06.45 น. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติบนเรือการค้นหาบริเวณพื้นผิวน้ำพบนายตั้งลอยขึ้นมาจากพื้นผิวน้ำ ได้นำร่างขึ้นมาก่อนส่งนำไปพิสูจน์ที่โรงพยาบาลท่าตะเกือบ ขณะนี้โล่งในมากที่สามารถปฏิบัติภารกิจสำเร็จ เนื่องจากได้ทำการค้นหาร่างมาอย่างยาวนานตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 63
นอกจากนี้ ได้บนบนบานศาลกล่าวขอเจ้าพ่อเขากาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บริเวณจุดเกิดเหตุ บนเหล้า 9 ขวด ไก่ต้ม 4 ตัว หากไม่บนบานศาลกล่าวน่าจะไม่พบเจอ ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และอาจประกอบกับที่ศพเสียชีวิตมาหลายวันแล้วจึงลอยขึ้นมา
ที่โรงพยาบาลท่าตะเกียบ ภรรยา ลูกสาว และญาติของนายตั้งยังคงมารอรับศพเพื่อที่จะนำไปบำเพ็ญกุศลศพที่ วัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ จ.สมุทรปราการ นางสิริกานฑ์ ฮวดใช้ อายุ 57 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายเทิดศักดิ์ ได้มาชวนนายตั้งสามีของตนไปเที่ยวอ่างเก็บน้ำสียัด ด้วยความที่สามีของตนชอบดูการตกปลาจึงตกลงมาเที่ยว ตนติดต่อกับสามีครั้งสุดท้ายได้ในเวลา 13.00 น. จากนั้นก็ขาดการติดต่อ แต่ก็ไม่ได้เอะใจ คิดว่าคงสนุกสนานกับเพื่อนอยู่
ต่อมาเวลา 16.00น. กู้ภัยได้โทรศัพท์ไปแจ้งข่าวว่าสามีเรือล่ม แต่คนที่แจ้งไม่บอกรายละเอียดว่าเสียชีวิตหรือรอด บอกเพียงว่าให้มาดูเอง ตนจึงรีบเดินทางออกมาจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ก็พบอุปสรรค์ในการเดินทาง เนื่องจากเส้นทางไม่เอื้ออำนวย ทำให้มาถึงล่าช้า ในเวลา 21.00 น. พบว่าสามีของตนสูญหาย ตนได้ภาวนาขอให้ร่างสามีไปติดตรงฝั่งไหนสักฝั่งของอ่างเก็บน้ำ จากนั้นได้รอคอยทั้งคืนก็ไม่พบ สิ่งที่เกิดขึ้นตนยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจนว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่สามีของตนว่ายน้ำเป็น และตนไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับคนขับเรือ เชื่อว่าทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว
หลังจากที่ปฏิบัติการค้นหาสามีของตน ชาวบ้านในพื้นที่แนะนำให้ไปบนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือ เจ้าพ่อเขากา ซึ่งมีอดีตเป็นทหารคอยปกปักรักษาบริเวณอ่างเก็บน้ำ และให้ไปหาร่างทรงตาทอง หรือตาจันทร์ทอง ครอบครัวของตนก็ไปบนบานศาลกล่าวตามความเชื่อของชาวบ้าน เพื่ออยากเจอร่างของสามี โดยร่างทรงตาทองได้อ้างว่าร่างของสามีตนติดอยู่ตอเขียวต้นไม้ ถูกบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวไว้ อยู่ทางทิศใต้ ไม่ห่างจากจุดที่เรือล่ม สภาพจะนอนคว่ำหน้า หากไม่เจอตาทองจะไปช่วย พื้นที่ที่เรือล่มต้องการตัวตายตัวแทน ให้ปั้นหุ่นดินน้ำมันเป็นรูปเพศชาย ไปทิ้งบริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมกับกล่าวว่าเอาตัวแทนมาให้แล้ว ให้ปล่อยสามีตนออกมา นอกจากนี้จะต้องนำพระมาเชิญวิญญาณตั้งแต่จุดเกิดเหตุไปถึงวัดที่จะบำเพ็ญกุศุลศพ ไม่เช่นนั้นวิญญาณจะไม่ได้กลับไปด้วย
และจากคำบอกเล่าของชาวบ้านตรงจุดที่เกิดเหตุเคยมีทหารเสียชีวิต ตนก็ไม่แน่ใจว่าเขาต้องการชีวิตสามีของตนหรือไม่ เพราะสามีตนเคยเป็นอดีตทหาร การที่ตนไปหาร่างทรงหรือบนบานศาลกล่าว ทำให้เกิดความอุ่นใจ ถึงแม้ว่าจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ไม่ได้ลบหลู่ ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย และก็เชื่อว่าตาทองทำให้พบเจอศพ ภายหลังที่พบเจอร่างของสามี ตนโล่งใจ เหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่ก็ยังคงเสียใจอยู่ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าเขาไปดีแล้ว
สำหรับลักษณะนิสัยของสามี ชอบช่วยเหลือทุกคน เป็นที่รักของเพื่อนฝูง นิสัยดี ไม่ลืมบุญคุณคน หลังจากนี้ตนยังไม่ได้วางแผนการใช้ชีวิต แต่ก็คงอยู่กับลูก ๆ ถึงแม้ว่าจะสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ข้อมูลจากชาวบ้านในหมู่บ้านว่าที่นี่มีร่างทรงของเจ้าพ่อเขากา และตาจันทร์ทอง หรือตาทอง ซึ่งเป็นลูกน้องรับใช้ของเจ้าพ่อเขากา เมื่อเราไปก็ไปเจอกับร่างทรงที่กำลังทำพิธีอยู่ ทีมข่าวมีโอกาสได้นั่งดูการทำพิธี
ร่างทรงตาทอง เผยว่า วานนี้ทางภรรยา ลูกชาย และลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตมาหา โดยให้ช่วยเหลือนำศพขึ้นมา จากที่ได้นิมิตเห็นนั้นพบว่า ศพคว่ำหน้าอยู่ ร่างติดอยู่ตอต้นไม้ใต้น้ำ บริเวณตรงที่เกิดเหตุมีต้นไม้ที่เป็นหนามจำนวนมาก แต่ทั้งนี้ยังไม่พบศพ เพราะยังไม่ถึงวาระที่เขาจะลอยขึ้นมา จิตเขายังผูกอยู่ที่เกิดเหตุ ซึ่งจะต้องปั้นหุ่นเพศชายโยนลงไปที่กลางน้ำ พื่อเป็นตัวตายตัวแทน แล้วร่างจะลอยขึ้นมาจากน้ำในไม่ช้า
ภายหลังที่สามารถพบศพของนายตั้งแล้วนั้น วิญญาณของนายตั้งยังคงหลงเหลือบางส่วน ซึ่งต้องเป็นทาสบริวารรับใช้ ตัวตายตัวแทนของทหาร 3 รายที่เคยเสียชีวิตจากเรือล่มมาก่อนหน้านี้ เป็นคราวเคราะห์ของนายตั้ง เพราะอดีตของนายตั้งเคยทหารเกี่ยวพันกับจุดป่าช้าที่เกิดเหตุ ได้เกิดใหม่นายตั้งก็ได้เป็นทหารอีก อย่างไรก็ตาม อย่าไปโทษเจ้าของเรือ เพราะเจ้าของเรือก็ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนบริเวณที่รถจมน้ำนั้นจะมีพวกวิญญาณจำนวนมาก ต้องการตัวตายตัวแทน
นางอำนวย รุ่งแสง อายุ 43 ปี ผู้ดูแลศาลเจ้าพ่อเขากา เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุการณ์เรือล่มลมแรงมาก ปกติแล้วเหมือนลมโยกไปโยกมา และในวันต่อมาก็เกิดเหตุการณ์รถเก๋งจมน้ำ ซึ่งตนเชื่ออาถรรพ์ตัวตายตัวแทน และแปลกมากที่ 2 เหตุการณ์ มีผู้เสียชีวิต 3 คนเหมือนกัน นอกจากนี้ สถานที่ดังกล่าวเคยมีคนเล่าให้ฟังว่าเคยมีคนจูงลงน้ำไป แต่โชคดีที่มีคนช่วยไว้ได้ทัน คาดว่าน่าจะเป็นยายหมาน้อย
เป็นเรื่องเล่าที่เล่าต่อกันมากว่า 100 ปี เกี่ยวกับเรื่องยายหมาน้อยที่เป็นชาวบ้านเกาะสะแก อายุประมาณ 89 ปี ชอบเดินไปหาของป่ากับหมาตัวหนึ่งเป็นประจำ ก่อนจะหายตัวไปอย่างลึกลับ ชาวบ้านช่วยกันออกตามหาแต่ไม่พบร่องรอย หลังจากนั้นจะมีชาวบ้านชาวประมงมักเห็นยายแก่ ๆ กับหมาเดินออกมาจากป่า ทุกคนจะรู้กันว่าคือวิญญาณยายหมาน้อย ซึ่งจะไม่มีใครกล้าทัก ชาวบ้านจึงตั้งศาลยายหมาน้อยไว้ตรงหน้าเขาที่ยายหายไป
ทั้งนี้ ปกติแล้วปี ๆ หนึ่ง อ่างเก็บน้ำแห่งนี้มักจะมีคนเสียชีวิตทุกปี 3-5 ราย ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนบนบานศาลกล่าวว่าหากสร้างอ่างเก็บน้ำเสร็จจะต้องสังสังเวยกี่ศพ อีกทั้งเหตุการณ์เกิดขึ้นได้ทุกเทศกาล
ก่อนสร้างอ่างเก็บน้ำพื้นที่ดังกล่าวเป็นหมู่บ้าน มีสถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์และวัด ศาลเจ้าพ่อก็ถูกย้ายมาตั้งสถานที่ใหม่ มีการเชิญมาจากเชี่ยงแซที่ถูกหลัก นอกจากนี้วันที่ 15-16 ม.ค. 64 จะถึงจะมีการบวงสรวงศาลเจ้าพ่อเขากา จะมีเครื่องเซ่นไหว้ทำพิธีโดยพราหมณ์ และขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 จะนิมนต์พระมาสวดมนต์ช่วงเย็นด้วย
