เครือข่ายพระสงฆ์ แถลงขอบิณฑบาต พื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ ชี้โครงการบ้านพักฯ สร้างความขัดแย้ง

27 เม.ย. 61
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่วัดพระธาตุดอยสะเก็ดพระอารามหลวง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พระครูวิมลธรรมานุศาสตร์ เจ้าคณะอำเภอพร้าว จ.เชียงใหม่ พร้อมคณะสงฆ์ ในนามเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ขอบิณฑบาตคืนพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ โดยขอให้ระงับโครงการในส่วนบ้านพักตุลาการ
แถลงการณ์ จากศูนย์ประสานงานพระนักพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ และเครือข่ายฯ
โดยแถลงการณ์ ระบุว่า ดอยสุเทพมีความสำคัญต่อชาวเชียงใหม่ และคนไทยทั้งประเทศ เพราะเป็นป่าธรรมชาติที่ใกล้เมืองที่สุด มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมากกว่าเกาะอังกฤษทั้งเกาะ อีกทั้งอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ 2 แห่ง ได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ และพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ประชาชนที่เข้าร่วมฟังแถลงการณ์
ขณะเดียวกันยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จากการที่พญามังรายปฐมกษัตริย์ผู้สร้างเมืองเชียงใหม่ เห็นความสำคัญของดอยสุเทพ ในฐานะเป็นปราการด้านตะวันตกของเมือง และเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่หล่อเลี้ยงเมือง นอกจากนี้ ชาวพุทธจะได้สักการะบูชายอดดอยสุเทพ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมือง และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่
บริเวณที่มีการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการ ศาลตุลาการ
ซึ่งโครงการดังกล่าว สร้างปัญหาความขัดแย้งในวงกว้างเป็นอย่างมาก และสร้างผลกระทบในหลายมิติ ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม มิติทางด้านสังคมวัฒนธรรม มิติทางประวัติศาสตร์ มิติด้านวิศวกรรมศาสตร์การออกแบบเมือง และมิติทางเศรษฐศาสตร์ จนทำให้หลายภาคส่วนออกมาคัดค้านโครงการ ซึ่งเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ได้หารือร่วมกันและมีมติว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้
พระครูสมุวิเชียร คุณธัมโม ประธานศูนย์ประสานงานพระนักพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่
พระครูสมุวิเชียร คุณธัมโม ประธานศูนย์ประสานงานพระนักพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า การออกแถลงการณ์ครั้งนี้ เพื่อขอบิณฑบาตให้ระงับโครงการในส่วนบ้านพักตุลาการ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด และฟื้นฟูให้คืนสภาพป่าธรรมชาติดังเดิม เนื่องจากดอยสุเทพมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เป็นป่าใกล้เมืองที่สุด และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหล่อเลี้ยงผู้คน ยังเป็นที่ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่โบราณ คนเชียงใหม่รักและหวงแหนดอยสุเทพมาก จึงไม่สามารถยินยอมได้ หากจะมีผู้ใดมารุกล้ำทำลายด้วยวิธีการใดๆ ก็ตาม รวมทั้งกรณีโครงการบ้านพักตุลาการ เพราะหวั่นเกรงว่า หากปล่อยไปในอนาคตอาจจะขยายวงกว้างยิ่งขึ้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ