เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 ที่ศาลอาญาธนบุรี ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.586/2563 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอภิชัย หรือ ไอซ์ องค์วิศิษฐ์ ในความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา เวลากลางคืนหลังเที่ยง ถึงวันที่ 24 ธ.ค.63 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้กระทำผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้อาวุธปืนดังกล่าวข่มขืนใจให้ผู้เสียหายไปที่บ้านแล้วกระทำชำเราผู้เสียหายโดยผู้เสียหายไม่ยินยอม เดิมจำเลยให้การต่อสู้คดี แต่ก่อนสืบพยาน จำเลยขอถอนคำให้การเดิม และให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้องทุกข้อหา
คดีดังกล่าวผู้เสียหายยื่นคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 508,000 บาท แต่ระหว่างพิจารณา จำเลยได้โอนเงินชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหาย จำนวน 100,000 บาท ตามที่ตกลงกัน จนผู้เสียหายพอใจ จึงถอนคำร้องไป
ศาลสืบพยานโจทก์ปากผู้เสียหายและพนักงานสอบสวนฟังประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว มีความเห็นว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 11 ปี 4 เดือน โดยให้นับโทษต่อจากคดียาเสพติด หมายเลขดำ ย.199/2563 ซึ่งมีคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 จำคุก 10 ปี 5 เดือน ที่ศาลอาญาธนบุรีได้ตัดสินไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า การอ่านคำพิพากษาในวันนี้ เป็นการอ่านผ่านระบบทางไกลผ่านจอภาพ หรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference) จากศาลอาญาธนบุรี ไปยังเรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งเป็นที่คุมขังจำเลยโดยไม่ได้เบิกตัวมาศาล อันเป็นหนึ่งในมาตรการของการป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในช่วงนี้ด้วย
อย่างไรก็ดี สำหรับจำเลยนี้ยังคงมีคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลอาญาธนบุรี อีก 2 สำนวน ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และความผิดต่อชีวิต ความผิดเกี่ยวกับศพ โดยศาลอาญาธนบุรีกำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดี 2 สำนวนดังกล่าวในช่วงกลางเดือน ม.ค.2564 ด้วย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 23 ธ.ค.62 โดยผู้เสียหายชื่อ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นเพื่อน กับน.ส.บี (นามสมมติ) คนที่เคยรับงานจากนายไอซ์ และเคยฝากไลน์ไว้ให้หากต้องการงานเอนเตอร์เทนเนอร์ จากนั้น น.ส.เอ จึงไลน์มาหานายไอซ์ แล้วนัดเจอกันที่ตลาดบางแค เขตบางแค กทม. ก่อนที่เสี่ยไอซ์จะใช้อาวุธปืนมาจี้ เนื่องจากเกิดความชอบ แล้วบังคับให้ขึ้นรถกลับไปยังบ้านพักเลขที่ 59 ซึ่งเป็นบ้านพักที่เกิดเหตุ
จากนั้นใช้อาวุธปืนจี้ข่มขู่บังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ เมื่อเสี่ยไอซ์เผลอ น.ส.เอ ได้ส่งข้อความไลน์บอกเพื่อนให้ช่วยแจ้งตำรวจมาช่วยเหลือในทันที เนื่องจากเสี่ยไอซ์ มีอาการคลุ้มคลั่งเกรงว่าจะได้รับอันตรายถึงชีวิต จนกระทั่งเวลา 00.10 น. วันที่ 23 ม.ค.63 ตำรวจสายตรวจ สน.เพชรเกษม จึงเข้าไปช่วยเหลือ น.ส.เอ ออกมาได้อย่างปลอดภัย
แต่ขณะนั้นยังไม่สามารถควบคุมตัว นายไอซ์ ได้ทันที เนื่องจากยังไม่มีหลักฐาน ก่อนพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.หญิง กฤตยาพร ทัดแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม และไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายก่อนพบร่องรอยการถูกข่มขืนจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนพนักงานสอบสวนจะไปยื่นคำร้องขออำนาจศาลออกหมายจับ ซึ่งคดีความผิดต่อชีวิตที่มีกำหนดนัดอ่านคำพิพากษาเป็นคดีฆ่าหญิงสาวฝังดิน ใส่หีบที่พบเจอศพบริเวณบ้านจำเลย
ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังบ้านของไอซ์หีบเหล็ก บริเวณบ้านเลขที่ 59 ถนนเพชรเกษม สุดซอย 47 แขวง-เขตบางแค กทม. เพื่อจะสอบถามข้อมูลกับป้าแม่บ้านที่ทำงานดูแลแฟลตของครอบครัวไอซ์
เมื่อไปถึงทีมข่าวได้พบกับ นายบอล (นามสมมติ) อายุ 28 ปี เพื่อนรุ่นน้องของนายไอซ์ เผยว่า ป้าแม่บ้านที่ดูแลแฟลตของครอบครัวนายไอซ์ ตอนนี้ได้ออกไปอยู่ที่อื่นไม่ได้ทำงานเป็นคนดูแลแฟลตแล้วนานกว่า 3 เดือน เนื่องจากมีปัญหาหนี้สินส่วนตัว จึงย้ายออกไป แต่ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรที่แน่ชัด
ส่วนตัวเรื่องเกี่ยวกับนายไอซ์ ตนไม่ค่อยอยากจะให้ข้อมูลอะไรมาก เนื่องจากก็อาศัยอยู่ในแฟลตของครอบครัวไอซ์ กลัวจะได้รับผลกระทบ ส่วนเรื่องคดีความนั้นตนมองว่าการกระทำที่เกิดขึ้นก็เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมเกินไป แต่หากมองในมุมเพื่อน ตนมองว่านายไอซ์ก็เป็นคนที่จิตใจดีนิสัยดีคนหนึ่ง หากไม่ได้เสพยาเสพติด เพราะเมื่อเวลาเสพยาเสพติดก็จะมีอาการคุ้มคลั่งกลายเป็นอีกคนหนึ่ง
ดังนั้นหากมองในมุมของส่วนรวม ตนมองว่าการที่ศาลตัดสินโทษตามขั้นตอนของกฎหมาย ตนก็มองว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนายไอซ์เป็นผู้กระทำผิด ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ตนก็สามารถให้ได้เพียงเท่านี้
หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางอั้ม (นามสมมติ) 41 ปี เพื่อนสมัยเด็กของไอซ์ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นตามความผิด หากศาลตัดสินลงโทษอย่างไรก็ต้องปล่อยให้ศาลดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายไป เนื่องจากตัวนายไอซ์ก็เป็นผู้กระทำผิด หากตำรวจมีหลักฐานเอาผิดก็ต้องรับโทษตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะมีผู้เสียหายที่ถูกกระทำหลายราย ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไร แต่ต้องได้มารับผลการกระทำของนายไอซ์
แต่ส่วนตัวแล้วที่ได้รู้จักและสัมผัส ปกติแล้วนายไอซ์ ที่ตนรู้จักจะเป็นคนนิสัยดี-อัธยาศัยดีไม่ถือตัว เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยตอนเรียนชั้นประถม ซึ่งในตอนแรกที่ตนทราบข่าวการก็รู้สึกตกใจ แต่ก็มีความคิดว่าที่นายไอซ์ก่อเหตุดังกล่าว เป็นเพราะอาจจะมีการกระทบกระเทือนทางสภาพจิตใจมาตั้งแต่เด็ก รวมไปถึงเพื่อนหรือสภาพแวดล้อมสังคมที่เขาอาศัยอยู่ อาจจะชักชวนไปในทางที่ผิด รวมถึงเรื่องยาเสพติดด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ตนคิดว่านายไอซ์ น่าจะมีความเครียดส่วนตัวพอสมควรตั้งแต่เด็ก ๆ ที่พ่อแม่กระทำไว้ จึงจดจำภาพดังกล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่พ่อแท้ ๆ เคยก่อเหตุฆ่าคน อีกทั้งต่อมาแม่แท้ ๆ ยังมาก่อเหตุฆ่าพ่ออีก จึงขาดความอบอุ่นและแสดงพฤติกรรมออกมาในด้านลบ หันไปพึ่งยาเสพติด เพราะจากที่ตนสัมผัสมานายไอซ์ ไม่ได้มีพฤติกรรมก้าวร้าว-เกรี้ยวกราดแต่อย่างใด
โดยหลังเกิดเหตุตนก็ยังไม่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมนายไอซ์ เนื่องจากไม่กล้าไปเยี่ยมเพราะมีกระแสข่าวโจมตีหนัก แต่หากมีโอกาสได้พูดกับนายไอซ์ตนอยากบอกว่า ตนยังคิดว่านายไอซ์ เป็นพี่ที่น่ารักคนหนึ่งเสมอ และยังอยากให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ ตนก็อยากจะให้กำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป
อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากถึงคนในสังคมว่า แต่ละคนมีความคิดไม่เหมือนกันเลยคิดว่า สิ่งที่นายไอซ์ทำมันโหดร้ายเกินไปไหม แต่หากมองในมุมเพื่อนตนอยากอธิบายว่า แต่ละคนมันเคยเจออะไรมาไม่เหมือนกัน และเชื่อว่าลึก ๆ แล้วนายไอซ์คงไม่ได้อยากจะทำร้ายใคร
ทั้งนี้หากเป็นไปได้ ตนก็อยากจะขอโทษ คนในสังคมแทนนายไอซ์ กับการกระทำที่เกิดขึ้น เพราะนายไอซ์ไปเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ ในชีวิตมาเยอะ จึงอยากขอโทษแทน สุดท้ายตนอยากฝากถึงเรื่องยาเสพติด หากผู้ที่มีความคิดอยากลอง-ยุ่งเกี่ยว ควรหนีห่าง เนื่องจากเป็นภัยต่อสังคมและคนรอบข้าง
ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของ น.ส.วรินทร์ธรณ์ ไชยเชษฐ หรือ กุ๊กกิ๊ก สาวผู้เสียชีวิต คดีไอซ์หีบเหล็ก ที่บ้านเลขที่ 165 หมู่ 2 บ้านท่าควาย ต.ท่าก้อน อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร น.ส.ศึกษาพร ไชยเชษฐ แม่ของน้องกุ๊กกิ๊ก เปิดใจด้วยแววตาที่เศร้าหมองว่า หลังเกิดเหตุก็ยังรู้สึกว่า ลูกสาวยังไม่ไปไหน ยังวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ เพราะน้องกุ๊กกิ๊กรักตนมาก อยากให้แม่สบาย ไม่อยากให้ลำบาก
หลังจากน้องกุ๊กกิ๊ก เสียชีวิต ตนเคยเจอกับพระธุดงค์ ทักว่าวิญญาณลูกสาวยังวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ญาติจากกรุงเทพฯ เดินทางมาเยี่ยม และไปกินข้าวกัน ลูกสาวน้องกุ๊กกิ๊กที่อายุเพียง 6 ขวบ จู่ ๆ ก็จิตตกร้องไห้หาแม่ บอกว่าคิดถึงแม่กิ๊ก ขณะที่ญาติ ๆ บางคนก็ฝันถึงว่าลูกสาวมาหา คาดว่าลูกคงเป็นห่วงตน เชื่อว่าลูกสาวยังวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ วิญญาณยังไม่ไปไหน
ขณะเดียวกัน คดีของน้องกุ๊กกิ๊ก ศาลนัดฟังคำตัดสินคดีน้องกุ๊กกิ๊กวันที่ 29 ม.ค.64 ตนอโหสิกรรมให้ ไอซ์ หีบเหล็ก ไปแล้ว เชื่อว่าการอโหสิกรรม จะเป็นอานิสงส์ให้ลูกสาว ตนได้บอกนายไอซ์ไปแล้ว เรื่องคดีสุดแล้วแต่กฎแห่งกรรมของนายไอซ์ ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไร อยู่ที่ดุลพินิจของศาล
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวอยากจะทำบุญใหญ่ให้ แต่ตามความเชื่อของคนอีสาน ต้องให้ตาย 3 ปีขึ้นไป ถึงจะทำบุญใหญ่ได้
