สุดเวทนาหนุ่มตาบอดขาเป๋ ถูกแม่เลี้ยงจับพิมพ์มือฮุบที่พ่อ อีกฝ่ายโต้ใช้เงินช่วยผัวป่วย (คลิป)

จากกรณีนายสันติ ถึกหลาย อายุ 39 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 3 ต.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เป็นชายพิการดวงตาทั้งสองข้างบอดสนิท ขาข้างซ้ายถูกตัด ปัจจุบันใส่ขาเทียม ได้เข้าแจ้งความว่ามีที่ดินอยู่แปลงหนึ่งเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา โดยปลูกบ้านเพื่อพักอาศัยไว้หนึ่งหลัง แต่ถูกนำจำนอง ทั้งที่ไม่เคยเอาที่ดินไปจำนองไว้ แต่แม่เลี้ยงนำเอกสารมาให้พิมพ์ลายนิ้วมือ จึงคาดว่าผู้ที่นำโฉนดที่ดินไปจำนองเป็นแม่เลี้ยง

ล่าสุด วันที่ 29 ธ.ค. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่ บ้านเลขที่ 13 หมู่ 3 ต.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ซึ่งเป็นที่ดินซึ่งถูกนำไปจำนอง และเป็นบ้านพักของนายสันติ ผู้เสียหาย ภายในที่ดินดังกล่าวมีบ้านพัก 2 หลัง เป็นบ้าน 2 ชั้น 1 หลัง ซึ่งเป็นบ้านของนายสันติ และบ้านพักลักษณะเป็นห้องแถว 1 หลัง เป็นของลูกติดแม่เลี้ยง

นายสันติ ถึกหลาย อายุ 39 ปี ผู้เสียหาย ผู้พิการตาบอดทั้งสองข้าง และขาข้างซ้ายใส่ขาเทียม เนื่องจากเมื่อ 7 ปีที่แล้วประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า แม่เลี้ยงมาอยู่กับพ่อของตนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 โดยแม่เลี้ยงเก็บเอกสารสำคัญของตนเอาไว้หมด แต่บัตรเอทีเอ็มกับบัตรคนพิการ ลูกชายของแม่เลี้ยงเป็นคนเก็บไว้

ขณะที่แม่เลี้ยงเอาที่ดินไปจำนำ ไม่ได้บอกตน แต่ตนได้ยินข่าวว่าพี่สาวของแม่เลี้ยงถูกหลอกให้เอาโฉนดที่ดินไปจำนำ ตนเอะใจ และอยากจะดูโฉนดของตัวเองจึงไปสอบถามแม่เลี้ยง และสืบทราบว่าโฉนดถูกนำไปจำนองแล้ว โดยเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ที่รับจำนองทราบข่าวว่าตนกำลังสืบเรื่องนี้อยู่ ก็เข้ามาบอกกับตนว่าโฉนดที่ดินอยู่กับน้า และขาดส่งมานานแล้ว แม่เลี้ยงนำไปจำนองในราคา 200,000 บาท แต่หลังจากที่คุยกันก็ยังไม่ได้ทำสัญญาใหม่ และไม่ได้บอกว่าจะเอาที่ดินไปขาย

ทั้งนี้ ตนคิดว่าเมื่อปีที่แล้ว แม่เลี้ยงได้บอกกับตนว่าจะให้ตนปั๊มลายนิ้วมือ เพื่อที่จะนำไปต่ออายุประกันสังคม แม่เลี้ยงมีนิสัยขี้คุย ชอบใส่ร้ายคนอื่น ชอบพูดจาดูถูกคนอื่น และชอบพูดเอาความดีเข้าตัวเอง เอาเรื่องแย่ให้คนอื่น ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน เพราะอีกฝ่ายไม่เคยพูดดีกับตน จึงไม่อยากจะคุยด้วย อย่างไร ตนอยากได้โฉนดที่ดินคืน เพราะห้องแถวที่ตั้งอยู่ติดกับบ้าน ก็กลายเป็นที่ดินของแม่เลี้ยงไปหมดแล้ว ตนจึงเหมือนคนไม่มีทรัพย์สินติดตัว

นางแอ๊ด แม่เลี้ยงของนายสันติ เปิดเผยว่า พี่สาวของตนเป็นคนจูงจมูกยุแยงให้นายสันติไปแจ้งความ โดยที่ดินที่นำไปจำนอง มีเนื้อที่ 2 งาน หรือ 48 ตารางวา เป็นชื่อของนายสันติ กับลูกสาวของตน โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พ่อของสันติ ซึ่งเป็นสามีของตนนอนป่วยติดเตียง และเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง อยู่ที่โรงพยาบาลต้องใช้เงินรักษาจำนวน 500,000 บาท แต่ตนมีเงินเพียง 300,000 บาท ตนจึงนำที่ดินไปจำนองกับคนที่รู้จักกันในราคา 200,000 บาท โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย แต่ขณะนี้ตนยังไม่ได้ไปไถ่คืน เพราะกำลังรอขายที่ดินซึ่งเป็นห้องแถว

ส่วนพี่สาวของตนเล่นพนันออนไลน์ เสียเงินไป 50,000 บาท และขอให้ตนช่วยพาไปจำนองที่ดิน ส่วนตัวเอาเงินมาใช้เพียงส่วนหนึ่ง และจำไม่ได้ว่าเอามาใช้เท่าไร ส่วนทุกเช้านายสันติจะมาขอข้าวกิน มักจะด่าทอตนเป็นประจำ ส่วนตัวรู้สึกลำบากใจมาก ไม่อยากจะดูแลนายสันติแล้ว ส่วนเรื่องที่แจ้งความ ตนมองว่าถ้าอยากดำเนินการก็ปล่อยให้เขาทำไป เพราะตนก็กำลังเดินเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเช่นกัน ตนเป็นหนี้จริง แต่ไม่ได้เอาเงินตรงนี้มาจ่ายหนี้ และเอาเงินของตัวเองไปจ่ายหนี้แทน ส่วนเงินที่ได้จากการจำนอง ยืนยันว่านำไปรักษาพ่อของนายสันติจริง

ด้านนางคำนึง เจริญขำ ผู้ที่รับจำนองที่ดิน เปิดเผยว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้วหลังจากพ่อของนายสันติเสียชีวิต นางแอ๊ดจะทำบุญให้พ่อของนายสันติ จึงนำที่เดินมาจำนองกับตน อ้างว่าหากทำบุญเสร็จจะขายที่ดินบริเวณห้องแถว และนำเงินมาคืน โดยเป็นที่ดินเนื้อที่ 2 งาน เป็นของพ่อนายสันติ 1 งาน ปัจจุบันเป็นของแม่เลี้ยง เพราะจดทะเบียนสมรสกัน และอีก 1 งาน เป็นของนายสันติกับลูกสาวของแม่เลี้ยง และตนรับจำนองในราคา 200,000 บาท

กระทั่งตนได้พูดคุยกับนายสันติแล้ว และอธิบายให้ฟังว่าไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะถูกยึด เพราะที่ดินเป็นชื่อของนายสันติ ตนยึดไปไหนไม่ได้ ถ้าอยากได้คืนให้ร้องเรียนกระทรวง ให้เข้ามาช่วยเหลือจะดีกว่า ส่วนตัวมองว่าหากนำไปจำนำที่อื่นก็คงจะถูกยึดแล้ว แต่ตนขอเพียงแค่นำเงินต้นกับดอกเบี้ยมาคืน ตนก็จะคืนโฉนดให้ ซึ่งขณะที่ทำสัญญาจำนองที่ดิน ไม่ได้ใช้ลายนิ้วมือของนายสันติ ใช้เพียงลายเซ็นของนางแอ๊ดเท่านั้น