"ไอซ์ ปรีชญา" แจ้งความเอาผิดอดีตแฟนคลับ ปลอมแเฟซบุ๊กหลอกเงินผู้ชายรวม 450,000 บาท

28 ธ.ค. 63

"ไอซ์ ปรีชญา" ถึงขั้นปรี๊ดแตกไม่ขอยอมทนพร้อมเดินหน้าแจ้งความเอาผิดตามกฎหมาย หลังจากที่มีหญิงสาวปริศนารายหนึ่งที่เคยเป็นแฟนคลับของเจ้าตัว แอบปลอมเฟซบุ๊กสวมรอยเป็น "ไอซ์" นานหลายเดือน พร้อมกับอินบล็อกข้อความไปหลอกลวงเงินจำนวนหลายแสนจากบุคคลในเฟซบุ๊ก ทั้งชายไทยและชายชาวต่างชาติ โดยอ้างว่าเดือดร้อนเรื่องเงิน แต่จริงๆ แล้วทางผู้ก่อเหตุกลับนำเงินไปทำศัลยกรรมใบหน้า ซึ่งเรื่องราวดังสร้างความเสียหายให้กับเจ้าตัวเป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันนี้ (28 ธันวาคม 2563) เวลา 14.00 น. ที่สน.บางเขน ทาง "ไอซ์ ปรีชญา" ได้เดินทางมาพร้อมกับคุณแม่ และหนึ่งในผู้เสียหายที่เคยโอนเงินให้กับทางผู้ก่อเหตุไปก่อนหน้านี้ และได้มีการแจ้งความไปแล้วก่อนนี้ ก็เดินทางมาร่วมเป็นพยานในการเข้าแจ้งความของ "ไอซ์" ในครั้งนี้ด้วย โดยทางเจ้าตัวได้เดินการเข้าพบกับ พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน เพื่อเเจ้งความเอาผิดกับต้องหาที่ปลอมเเปลงเฟซบุ๊กเป็น "ไอซ์ ปรีชญา" พร้อมกระทำการลักษณะเข้าข่ายหลอกลวงผู้อื่น โดยใช้เวลาในการเเจ้งความนานกว่า 1 ชั่วโมง

ก่อนที่เจ้าตัวได้เดินทางลงมาจากสน.เพื่อให้สัมภาษณ์ โดยทาง "ไอซ์" เล่าว่า วันนี้ส่วนตัวเพินทางมาแจ้งความดำเนินคดีหลังตกเป็นผู้เสียหาย จากกรณีที่แฟนคลับหญิงท่านหนึ่ง ได้มีการปลอมแปลงสร้างเฟซบุ๊กเป็นตน โดยใช้ชื่อจริงและนามสกุลจริงของตน ตลอดจนมีการนำภาพของตนลงไปในโซเชียล ทั้งนี้พฤติกรรมของผู้กระทำความผิดรายดังกล่าวนั้นได้มีการนำเฟซบุ๊กดังกล่าวไปทักหาบุคคลอื่นๆ พร้อมอ้างและหลอกลวงให้บุคคลในโชเชียลหลงเชื่อว่าเป็นตนจริง ผ่านการคุยในลักษณะเชิงชู้สาวพร้อมทั้งมีการขอให้บุคคลในโชเชียลโอนเงินมาให้ด้วย มูลค่าความเสียหายประมาณ 450,000 บาท มีผู้เสียหายที่โอนเงินให้จำนวน 3 ราย แบ่งเป็นชายไทย 2 ราย และชายต่างชาติ 1 ราย โดยเงินที่หลอกลวงไปนั้นทราบว่าทางผู้ก่อเหตุนำเงินไปทำศัลยกรรม

อย่างไรก็ตามในส่วนผู้ก่อเหตุนั้นส่วนตัวก็มีความรู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัวในระดับหนึ่ง และเคยเจอหน้ามาก่อน
ตลอดจนเคยมีการว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วรอบหนึ่งเมื่อประมาณช่วงปีที่แล้ว เพราะมีผู้เสียหายเข้ามาบอกกับตนว่าโดนหลอกเงินไป ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้ติดใจเอาความ ตลอดจนผู้เสียหายรายดังกล่าวก็ไม่อยากเอาเรื่องเลยปล่อยผ่าน แต่มาครั้งนี้ผู้ก่อเหตุกลับมาทำพฤติกรรมอีกครั้งเลยตัดสินใจขอดำเนินคดี

เมื่อถามว่าครั้งนี้ทราบได้อย่างไรว่าเขากลับมาก่อเหตุอีกครั้ง ทาง "ไอซ์" เองก็บอกว่า มาจากที่ผู้เสียหายชาวต่างชาติได้ทักข้อความมาพูดคุยกับทางคุณแม่เป็นการส่วนตัว เลยทำให้ทราบ ขณะที่มีผู้เสียหาอีกหนึ่งรายก็ได้เข้ามาพูดคุยกับตนเช่นกัน โดยที่ผู้เสียหายทั้งคู่เองก็สูญเสียทรัพย์เป็นเงินจำนวนหลักแสน เลยไม่ขอยอมความพร้อมเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทั้งนี้คาดว่าในส่วนของผู้เสียหายที่อยู่ต่างประเทศ อาจจะมอบหมายอำนาจให้เพื่อนที่พัทยาเป็นคนดำเนินการเข้าแจ้งความ

อย่างไรก็ตาม "ไอซ์" ยังเล่าอีกว่า สำหรับวันนี้เข้ามาแจ้งความนั้นไม่ได้แจ้งความในฐานะที่โดนหลอกทรัพย์ แต่เข้ามาแจ้งความในฐานะผู้เสียหายคนหนึ่งที่โดนนำภาพไปใช้ในการหลอกลวง วอนหากผู้ก่อเหตุได้ดูข่าวอยู่ ส่วนตัวอยากจะให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว คิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นครั้งนี้จะไม่ยอม เพราะใจดีมาแล้วรอบหนึ่ง

ทั้งนี้ทาง "พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน" กล่าวเสริมว่า ในส่วนของการแจ้งความวันนี้ ทาง "ไอซ์" เองเป็นผู้เสียหายในกรณีที่โดนนำภาพไปใช้ ทั้งนี้หลังจากได้รับแจ้งความแล้วทาง สน.บางเขน ก็จะนำข้อมูลที่ได้รับ ตลอดจนข้อมูลของผู้ก่อเหตุส่วต่อให้กับทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ( บก.ปอท.) ต่อไป

เมื่อถามว่าฐานความผิดที่ผู้เสียหายกระทำนั้นเข้าข่ายมาตราใดบ้างนั้น ก็จะเป็นในส่วนฐานความผิดที่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ มาตรา 16 ในการนำภาพภาพบุคคลอื่นไปใช่ทำให้บุคคลนั้นได้รับความเสียหายในส่วนของชื่อเสียง ส่วนโทษนั้นจะมีการจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท ทั้งนี้ในส่วนของผู้เสียหายที่ได้ทำการโอนเงินให้กับผู้ก่อเหตุนั้น หากแจ้งความเอาผิดก็จะเข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งหากใครรู้ตัวว่าโดนผู้ก่อเหตุรายดังกล่าวหลอกลวงไปก็สามารถเข้าแจ้งความได้ที่ สน.ใกล้บ้าน

สำหรับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ มาตรา 16 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย)

s__17334373

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส