"นีต้า" อาการดีขึ้น โพสต์ขอบคุณกำลังใจ เตรียมแถลง - พม. ทาบร่วมงานให้ความรู้ ลดรุนแรง

จากเหตุการณ์ที่นายชัยชนะ ศิริชาติ หรือ เอ็ม อายุ 26 ปี ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กทำร้ายร่างกายนีต้า แฟนสาววัย 21 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อค่ำวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาเองยอมรับว่า เมายาเสพติดก่อนจะลงมือก่อเหตุ อ้างว่าทำไปเพราะไม่รู้ตัว โดยกล่าวกับสื่อฯในช่วงแรกด้วยอาการมึนเมา และพูดจาวกวน ในขณะที่นีต้า มีอาการดีขึ้นตามลำดับ

วันนี้ (25 เม.ย.) นีต้า ยังคงพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีใจความว่า “แอดมิน รพ.4 วันแล้ว อาการดีขึ้นเป็นลำดับ สภาพจิตใจดีมากๆ กำลังใจดีมากๆค่ะ วันนี้สระผมได้แล้วน่ะ ไม่แข็งเป็นเสาบนหัวแล้วน่ะ อีกไม่กี่วันคงจะได้มาแถลงเองแล้ว เพราะไม่มีใครเข้าใจ เท่าตัวของนีต้าเองน่ะ ขอบคุณทุกคำปลอบใจ กำลังใจ น่ะค่ะ ☺✌”

ขณะที่มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมากถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบางส่วนที่ให้กำลังใจนีต้า พร้อมอวยพรให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว

ด้านนายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบัน ครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วยนายโสภณ แก้วล้อมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (ศปก.สค.) และนักสังคมสงเคราะห์เดินทางไปเยี่ยมนีต้าที่โรงพยาบาล โดยนำกระเช้าผลไม้มาเยี่ยม พร้อมพูดคุยกับนีต้า และครอบครัว นายเลิศปัญญา กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมว่า วันนี้นีต้าอาการดีขึ้นมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส และพื้นฐานครอบครัวของน้องก็ดีมาก ช่วยกันให้กำลังใจ คาดว่าอีกไม่กี่วันจะออกจากโรงพยาบาลได้ ตอนนี้แพทย์ยังให้ยาฆ่าเชื้อ และดูแลเฟือกอ่อนที่กระดูก

ทั้งนี้ ทางคดีจะเป็นเรื่องทางคดีอาญา เกี่ยวกับการกระทำความรุนแรงต่อเด็ก ผู้หญิง ตัวอย่างเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า หากมีการถูกกระทำความรุนแรงโดยบุคคลใกล้ชิดหรือคนที่รักแล้วนิ่งเฉยปล่อยผ่าน จะทำให้ถูกกระทำซ้ำ แนวทางที่ควรทำคือ ถ้ามีผู้ถูกกระทำความรุนแรง เบื้องต้นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อตรวจสภาพร่างกาย และจิตใจ จะได้รับการช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ในส่วนของ พม. มีศูนย์ปฏิบัติการในเรื่องของผู้ถูกกระทำความรุนแรง ซึ่งพร้อมจะเข้าไปช่วยในเรื่องของสังคมสงเคราะห์ ซึ่งทาง พม. อยากให้น้องนีต้า เข้ามาช่วยงานด้วย หากอาการหายดีแล้ว เช่น เป็นวิทยากร เป็นเครือข่ายในการรณรงค์เรื่องความรุนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก