จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกัน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่สวนอาหาร ม.1 ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้นายภุชงค์ แสงใส อายุ 36 ปี และนายธนสิทธิ์ อยู่เหมาะ อายุ 36 ปี เสียชีวิต ซึ่งรัวยิงประมาณ 20 นัด
วันที่ 25 ธ.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังสวนอาหารบ้านเย็น เป็นร้านอาหารที่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ ในพื้นที่ ม.1 ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบร่องรอยคราบเลือดที่เกิดเหตุ
นางสาวส้ม (นามสมมติ) อายุ 18 ปี พนักงานเสิร์ฟ เล่าว่า ตนเพิ่งมาทำงานที่ร้านได้ไม่นาน และเพิ่งเคยเห็นนายธนกฤต หรือ เฉลิม เป็นครั้งแรก โดยมาพร้อมกับนายถนอมศักดิ์ หรือ เหลือ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นนั้น นายเฉลิมก็สั่งอาหารมาทาน ซึ่งค่อนข้างพูดจาดี แถมยังให้ค่าดริ้งก์ตน 5 ดริ้งค์ด้วย
หลังจากนั้นก็มีคนตามมาอีก 2 คน คือนายธงชัย หรือ เล็ก มาพร้อมกับนายนาย และนายภุชงค์ หรือ ไผ่ กับนายธนสิทธิ์ หรือ ตู่ ผู้เสียชีวิต ก็ตามมาทีหลัง
โดยในวงเหล้ามีการพูดคุยถึงเรื่องในอดีต ว่านายเหลือเคยมีปัญหากับนายกฤษณะ หรือ บาส ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันกับนายภุชงค์ ถามว่ารู้จักหรือไม่ ส่วนนายไผ่ก็ยอมรับว่ารู้จัก แต่ขอไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหานี้ ขอให้นายเฉลิมและนายบาสไปเคลียร์ปัญหากันเอง
จากนั้น นายไผ่ก็ค่อนข้างมีอาการเมาแล้ว พูดวนไปวนมาในลักษณะที่ว่า เรารู้จักกันแล้ว เป็นเพื่อนกันแล้ว มีอะไรต้องช่วยเหลือกันนะ ซึ่งนายไผ่นั่งอยู่ข้างขวาของนายเฉลิม จึงมีการตบไปที่หน้าขาซ้ายของนายเฉลิมค่อนข้างแรง ประกอบกับพูดในลักษณะเดิม ๆ พร้อมตบที่หน้าขานายเฉลิมเหมือนเดิม วนไปวนมาประมาณ 3-4 ครั้ง ซึ่งตนเห็นว่าขณะนั้นสีหน้าของนายเฉลิมไม่ค่อยดีแล้ว
นายเฉลิมจึงมีการพูดกับนายไผ่ ประมาณว่าคุยนักเลงแบบนี้คุยไม่รู้เรื่องแล้ว และเดินออกจากร้านไป ซึ่งหลังจากนั้นนายไผ่ก็มีการเดินไปสั่งเหล้า 2 แบน แบนละ 180 บาท จ่ายเงินสดมานั่งกินต่อกับนายเล็ก นายนาย นายตู่ ซึ่งก็พูดคุยเล่นกับเด็กเสิร์ฟคนอื่น ๆ ทั่วไป
จากนั้นช่วงก่อนเกิดเหตุ 00.25 น. ใกล้เวลาร้านปิด ตนจึงเดินถือบิลที่นายเฉลิมมาเปิดไว้ ราคา 2,740 บาท ขณะนั้นยังไม่ทันได้เคลียร์บิล นายเฉลิมก็บุกเข้ามายิงนายไผ่และนายตู่ ตนถึงกับช็อกทำอะไรไม่ถูกมุดลงใต้โต๊ะพร้อมเอามือปิดหูทั้งสองข้างไว้ ซึ่งปลอกกระสุนก็กระเด็นมาโดนตน แต่นาทีนั้นไม่สามารถขยับไปไหนได้ จนเห็นภาพนายตู่โดนยิงที่ศีรษะ จากนั้นเพื่อนในร้านอีกคนก็มาดึงตนออกไปจากจุดเกิดเหตุ ส่วนตัวยังรู้สึกหวาดกลัว เนื่องจากมาทราบในภายหลังว่านายเฉลิมค่อนข้างมีอิทธิพล
นายธงชัย นาคคล้ำ หรือ เล็ก อายุ 44 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตและเพื่อนผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ปกติตนมักถูกนายธนกฤต หรือ เฉลิม โทรชวนมานั่งดื่มด้วยประจำ แต่คนสนิทของนายธนกฤตคือ นายถนอมศักดิ์ วันที่ 24 ธ.ค. 63 นายเฉลิมโทรมาหาตนให้มาหาตนที่สวนอาหาร ตนจึงชวนนายนายมาด้วย ถึงร้านประมาณ 20.00 น. ก็เห็นว่านายเฉลิมและนายเหลือนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว จากนั้นตนจึงชวน นายภุชงค์ ผู้เสียชีวิต มาที่สวนอาหารด้วย ซึ่งนายไผ่ก็มาถึงร้านประมาณ 21.30 น. ขณะนั้นนายไผ่ก็ดื่มมาบ้างแล้ว มีอาการค่อนข้างเมา จึงโทรให้นายธนสิทธิ์ ผู้เสียชีวิตอีกคนมาด้วย ถึงร้านประมาณ 22.00 น.
จากนั้น ก็มีการพูดคุยเรื่องตีไก่ เรื่องราวเก่า ๆ ที่ผ่านมา โดยนางเฉลิมเองก็เล่าเรื่องตัวเองให้ฟังว่าทำบ่อกุ้ง นายไผ่จึงพูดกับนายเฉลิมว่าฝากเพื่อน ๆ คนอื่นด้วย เป็นเพื่อนกันแล้วมีอะไรต้องช่วยเหลือกัน วนไปวนมาหลานรอบ ซึ่งสถานการณ์ก็ดูปกติทุกอย่าง กระทั่งนายเฉลิม พูดว่าคุยกันแบบนี้เหมือนนักเลง คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว เดินออกจากร้านพร้อมนายเหลือ ซึ่งตนก็เดินไปส่งนายเฉลิมและนายเหลือที่ลานจอดรถ ตนเดินกลับเข้ามาที่ร้าน นายไผ่ก็ได้มีการสั่งเหล้ามากินต่อ ก็พูดคุยแซวเด็กในร้านปกติ กระทั่งเวลา 00.30 น. นายเฉลิมเดินเข้ามาใช้ปืนกระหน่ำยิงไปที่นายไผ่ก่อน จากนั้นหันไปยิงนายตู่
นางนิติมา อินขลิบ อายุ 47 ปี แม่ครัวร้านอาหาร เล่าว่า ปกตินายเฉลิมเป็นลูกค้าประจำที่ร้าน เดินทางมาถึงร้านเวลาประมาณ 18.30 น. จากนั้นตนได้ยินเสียงนายเฉลิมจอดรถพูดคุยกับเจ้าของร้านว่า "กลับดีกว่า แถวนี้มีแต่อันธพาล" ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่ามีเรื่องอะไรกันหรือไม่ จากนั้น เวลาประมาณ 00.20 น. ตนออกจากครัวมานั่งในร้านอาหาร กระทั่งเวลา 00.30 น. เห็นนายธนกฤตเดินเข้าในร้านพร้อมชักปืนยิงนายภุชงค์และนายธนสิทธิ์ ซึ่งมีนายถนอมศักดิ์ตามมาด้วย ตนก็ตกใจเสียงปืน จึงรีบมุดลงเข้าที่ใต้โต๊ะ แล้วนายเฉลิมกับนายเหลือก็หลบหนีไป ส่วนตัวเห็นนายเฉลิมเป็นคนพูดอ่อนโยน ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่โหดร้ายเช่นนี้ การกระทำเช่นนี้เกินไปกว่าเหตุมาก
ที่วัดกุยเหนือ ต.กุยเหนือ อ.กุยเหนือ จ.ประจวบคีรีขันธ์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ภายในศาลามีการจัดเตรียมงานศพของนายธนสิทธิ์ อยู่เหมาะ ซึ่งศพอยู่ในระหว่างการผ่าพิสูจน์ ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
นายสมจิต อยู่เหมาะ อายุ 68 ปี พ่อของนายธนสิทธิ์ ผู้เสียชีวืต เล่าว่า ลูกชายของตนเป็นเพื่อนสนิทกับนายไผ่ เรียนมาด้วยกัน และไม่มีพฤติกรรมการดื่มสุราและของมึนเมา ประกอบอาชีพพนักงานดับเพลิงของเทศบาลมานานกว่า 10 ปี โดยไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน วันเกิดเหตุ นายไผ่โทรมาหาลูกชายของตนเพื่อชวนให้ออกไปหาที่สวนอาหาร ตนยืนยันว่าลูกชายของตนไม่ได้มีปัญหากับนายเฉลิมด้วย
กระทั่งเวลาประมาณ 00.45 น. มีคนโทรมาแจ้งข่าวว่าลูกชายของตนเสียชีวิต ตนรีบเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ พอมาถึงสภาพนายตู่ ลูกชายของตนตายในลักษนะที่ยังคงลืมตาค้าง ร่างกายถูกยิงบริเวณศีรษะ 1 นัด และตามร่างกายอีกหลาย 5 นัด การกระทำเช่นนี้ถือว่าเกินไปกว่าเหตุมาก ลูกชายตนเป็นเสาหลักของครอบครัว เนื่องจากมีลูกชาย 2 คน วัย 9 ขวบ และวัย 3 ขวบ ตนอยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากนายเฉลิมไม่มาขอขมา ตนก็ให้อภัย ส่วนญาติคนอื่น ๆ ตนก็ไม่สามารถบังคับความคิดได้
นายอาทิตย์ แสงใส อายุ 31 ปี น้องชายนายภุงชค์ ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนทราบเพียงว่าพี่ชายของตนออกไปดื่มสุรานอกบ้าน กับนายธงชัย โดยปกติก็จะชวนพี่ชายของตนเป็นประจำ ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว ตนเคยไปเที่ยวที่สถานบันเทิง ก็นั่งโต๊ะข้าง ๆ กับนายเฉลิม แล้วเพื่อนร่วมโต๊ะของนายเฉลิมชื่อว่านายบอย เหมือนพูดขัดหูนายเฉลิม แต่ก็มีการเคลียร์จบในคืนนั้น แต่ความอันธพาลของนายเฉลิมและนายเหลือล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 63 นายเหลือใช้ปืนตบหน้าเพื่อนของตนบาดเจ็บ ส่วนตัวรู้สึกเสียใจและโกรธนายเฉลิมมากที่ยิงพี่ชายของตน มองว่าไม่น่าถึงกับต้องฆ่ากัน ถ้ามีปัญหากันจริงก็น่าจะพูดคุยกันได้ การฆ่าคนอื่นเท่ากับว่าตัดชีวิตคนอื่น ทำไมนายเฉลิมไม่รู้จักนึกถึงคนอื่นบ้างว่าใครจะต้องเดือดร้อนบ้าง
ทั้งนี้ ตนมีลางสังหรณ์ พี่ชายของตนเอารถไปต่อภาษีทะเบียนรถหมดทุกคัน ซึ่งปกติพี่ขายตนจะไม่สนใจทำ และให้ตนไปทำแทน สุดท้ายนี้อยากบอกกับพี่ตนว่ารักพี่ชายมาก สิ่งที่ยังเหลืออยู่จะสานต่อให้เอง จะดูแลครอบครัวต่อเอง ขอให้พี่ไปสบาย
โดยประวัติของนายธนกฤต แสงเขียว ผู้ต้องหา ฉายา "เหลิม ดอนยายหมู" เมื่อปี 2555 เคยก่อเหตุยิงผู้จัดการวงดนตรีและแดนเซอร์ เสียชีวิต 3 ศพ ที่บ้านดอะมะขาม อ.กุยบุรี โดยที่ยังไม่ถูกดำเนิคดีแต่อย่างใด
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.อาจิน บัวผัน ผกก.สภ.กุยบุรี ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย จากศาล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วยนายธนกฤต แสงเขียว เจ้าของธุรกิจนากุ้ง ผู้ใช้อาวุธลงมือสังหาร ส่วนอีกราย นายถนอมศักดิ์ เพ็ชรประดับ อายุ 44 ปี เป็นผู้ขับรถพามือปืนหลบหนี ตั้งข้อหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
