กรณีพบศพชายไทยไม่ทราบชื่อ ถูกฆ่าตายมัดมือมัดเท้า และใช้ผ้าขาวม้ารัดคอ นำศพยัดกระสอบโยนทิ้งไว้กลางทุ่งนา ในพื้นที่หมู่ 2 ต.วังบ่อ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 63 ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่น แล้วนำศพยัดกระสอบมาทิ้งไว้
ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายคำนึง เจริญรัตน์ อายุ 48 ปี ชาว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ แต่พักอาศัยอยู่กับภรรยาและลูก อยู่ในพื้นที่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
ล่าสุด วันที่ 24 ธ.ค. 63 เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 4 รายแล้ว โดยที่ สภ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนายสุเทพ มาลัยกุล หรือ จวบ ผู้ต้องหา หลังจากที่นายจวบเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงเช้าของเมื่อวานนั้น บรรยากาศในห้องสอบสวน นายจวบมีสีหน้าที่ปกติ
หลังจากสอบปากคำเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายจวบเข้าห้องขังต่อ ซึ่งระหว่างเดินเข้าห้องขัง ทีมข่าวได้สอบถาม นายจวบว่า ตนเองก็ไม่มีอะไรจะชี้แชงมาก สาเหตุที่ตนก่อเหตุไปนั้น เพราะตนต้องการป้องกันตัว เพราะนายคำนึงเขาทำร้ายตนก่อน ยืนยันว่าตนไม่ได้ใช้ไม้ตีทำร้ายนายคำนึง และตนก็ยังไม่ทราบว่าร่องรอยบาดแผลที่อยู่ในศพนั้นมาจากไหน ตอนที่ผู้เสียชีวิตล้มไปอาจถูกอะไรเกี่ยวก็ได้
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าการก่อเหตุจนทำให้นายคำนึงเสียชีวิต ลูกหลานของตนไม่ได้ก่อเหตุด้วย ตนก่อเหตุแต่เพียงผู้เดียว มีเพียงให้ลูกชายช่วยเอารถมารับเปลี่ยนคันเท่านั้น และไม่มีอะไรจะขอโทษญาติคนตายอีกด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “จวบ ร้อยศพ” ฉุนโดนเหยียบหน้าจับฆ่าหนุ่มยัดถุงปุ๋ย เมียป้อง “พี่จวบคนดี” ไม่เศร้าผัวตาย
- เมียหนุ่มถูกฆ่ายัดกระสอบโดดป้อง "จวบ ร้อยศพ" ฉะผัวอยากกร่างปัดแอบกิ๊กกัน
- จับแก๊งฆ่าหนุ่มยัดกระสอบร่วมหัวกับญาติฆ่า แค้นแอบตีซี้เมียแต่ผัวดันมาเจอ
- เบาะแสศพมัดมือเท้ายัดกระสอบทิ้งป่า คาดเป็นหนุ่มทะเลาะวัยรุ่นในเพชรบูรณ์ถูกฆ่าทิ้งอำพราง
เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ไปทำแผนประกอบคำสารภาพ จุดที่ 1 เหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 63 ที่บ้านนางไพลิน ภรรยาผู้ตาย เวลาประมาณ 22.00 น. นายจวบโทรหาหลานทั้ง 2 คือนายโก้ และนายกันต์ ให้มาที่เกิดเหตุ จากนั้นนายโก้และนายกันต์ได้ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านนางไพลิน
นายจวบเดินไปเรียกนายคำนึงผู้ตายอยู่ในบ้านเพื่อมาเคลียร์ พร้อมรุมทำร้ายร่างกาย แล้วอุ้มตัวนายคำนึงขึ้นด้านนั่งด้านหลังรถเก๋ง โดยมีนายจวบ และนายกันต์นั่งประกบ 2 ข้าง จากนั้น นายโก้ก็ขับรถเก๋งไปยังเขาสระแก้ว ต.สระแก้ว อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์
จุดทำแผนจุดที่ 2 ที่เขาสระแก้ว ต.สระแก้ว จ.เพชรบูรณ์ นายจวบ นายโก้ นายกันต์ ทั้ง 3 คน เอาศพลงจากรถเก๋ง ไว้ที่ป่าตรงป่า จากนั้นนายจวบได้โทรหานายสายชล ลูกชาย ให้ขับกระบะมาที่จุดนี้ เมื่อนายสายชลมาถึง นายจวบให้นายโก้ ได้ขับรถเก๋งกลับบ้าน
จากนั้นนายกันต์ นายสายชล และนายจวบ ได้นำศพนายคำนึงขึ้นท้ายกระบะ คลุมถุงกระสอบโดยนายสายชลขับกระบะ นายจวบนั่งข้าง นายกันต์นั่งเบาะหลัง นั่งกระบะ
จุดทำแผนจุดที่ 3 ต.กันจุ จ.เพชรบูรณ์ เป็นบริเวณปั๊มน้ำมัน ทั้ง 3 คนหลังจากขับรถออกมาจากเขาสระแก้ว ได้ขับมาเติมน้ำมันที่จุดนี้
จุดทำแผนจุดที่ 4 ที่ทุ่งนา ต.หนองบัว อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ นายจวบ นายกันต์ นายสายชล ทั้ง 3 คน เอาศพนายคำนึงมาทิ้ง ที่จุดนี้ ซึ่งตอนทำแผนทั้ง 3 คน ก็ได้มาชี้จุดดังกล่าว ที่เป็นทุ่งนาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดู หลังจากทิ้งศพเสร็จ ทั้ง 3 คนก็ได้ขับรถกระบะออกจากพื้นที่ไป
ทั้งนี้ ระหว่างทำแผนบริเวณตีนเขาสระแก้ว นายจวบบอกว่า ตนเองแค่นำศพของนายคำนึงออกจากรถเก๋ง และเปลี่ยนใส่รถกระบะเท่านั้น ไม่ได้มีการทำร้ายนายคำนึง ซึ่งนายคำนึงเสียชีวิตมาตามทางแล้ว
"ผมเสียใจด้วย ที่ผมกระทำอะไรลงไป ผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผมเสียใจ ในสิ่งที่ผมกระทำลงไป ตนขอโทษถึงครอบครัวผู้ที่เสียชีวิต ตนไม่ได้ตั้งใจ ตนบันดาลโทสะ ไม่คิดว่าเขาจะหมดลมหายใจ ตนไม่ได้ใช้อาวุธทุบตีเขาเลย เพียงเพราะว่าตนกดคอเขานานเกินไป จึงทำให้เขาตาย และวันนั้นตนโดนเขาเอาเท้ามาเหยียบหน้า ตนโกรธจัด เพราะตนอายุมากแล้วเด็กรุ่นลูกมากระทำกับตนแบบนั้น" นายจวบ ผู้ต้องหา กล่าว
ด้านายสายชล ลูกชายของนายจวบ กล่าวว่า วันเกิดเหตุ นายจวบ พ่อของตนได้โทรให้ตนขับรถกระบะมายังเขาสะแก้ว ตนก็ขับรถมายังจุดนี้ กระทั่งมาเจอว่ามีศพของนายคำนึง ซึ่งตนก็ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้เห็นเหตุการณ์ ตอนตนเห็นศพนายคำนึงยอมรับว่าตนตกใจมาก จากนั้นตนก็ได้อุ้มศพนายคำนึงขึ้นท้ายกระบะช่วยพ่อ พร้อมกับนายกันต์ และขับรถกระบะนำศพไปทิ้งที่ จ.นครสวรรค์ ตนอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเสียใจกับเหตุการณ์แบบนี้
ด้านนางเส็ง ลอยนิสัย และนางไพลิน แฟนไธสง ภรรยาและแม่ยายของผู้ตาย เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายของวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวนายจวบ พร้อมพวกมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านของตน วันนี้สวมใส่ชุดดำก็เพราะว่ารู้สึกเสียใจ และได้นำเสื้อผ้าของผู้ตายไปเผาเพื่อเป็นการส่งวิญญาณ จึงเผาเสื้อผ้าไปให้ ตั้งแต่เกิดเหตุ พวกตนพยายามติดต่อไปหาครอบครัวของนายคำนึง เพื่อจะแสดงความเสียใจ แต่เขาก็ไม่รับสาย ตนคงคิดว่าเขาคงเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่
ขณะที่นางไพลิน หรือ แพท เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนและแม่จะถูกสามีทำร้ายมาตลอดเวลาที่สามีเมา และวันที่เกิดเหตุสามีขู่จะทำร้ายตนจะฆ่าตนตลอด ตนจึงต้องโทรหานายจวบให้มาที่บ้าน ตอนนี้นายจวบถูกจับดำเนินคดีแล้ว ในอนาคตตนก็จะไปเยี่ยมนายจวบ ตนไม่ได้เข้าข้างใคร ตนเป็นกลาง ตนไม่รู้เรื่อง และถ้ามีโอกาส ตนมีเงินตนจะไปเยี่ยมนายจวบแน่นอน
ทั้งนี้ ตนเองก็อยากของคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ช่วยคลี่คลายคดีได้โดยเร็ว และดูแลครอบครัวตนมาเป็นอย่างดีตลอด ส่วนกรณีที่นายจวบมีการเล่นของนั้น ตนก็ไม่ทราบ และที่สังคมมองว่าตนเข้าข้างคนก่อเหตุมากกว่าสามีที่เสียชีวิต ตนยืนยันว่าตนตอบคำถามทุกเรื่องตรงไปตรงมา ตนเห็นอะไรมา ตนก็ตอบแบบนั้น ก็ย้ำคำเดิมว่าสามีตนเสียชีวิต ตนไม่ต้องร้องไห้ก็ได้ ตนร้องไห้ไป มันจะเหมือนตนแสดงละคร ตนไม่ชอบ อีกทั้งถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้สามีฟื้นขึ้นมาเลี้ยงลูก ตนจะตายแทนสามีเอง ตนอยากให้สามีหมดเวรหมดกรรม อย่าคิดบาดหมางครอบครัวตนเอง ก็ขออโหสิกรรมให้ลูกให้แมีย และตนก็ขออโหสิกรรมให้สามีเช่นกัน
ที่วัดซับบอน ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรีง จ.สุรินทร์ พิธีในช่วงเย็นวันนี้ ญาติได้นำร่างของนายคนึงกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา มีพิธีฌาปนกิจศพ
สำหรับด้านคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบัว เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา ฐานร่วมกันฆ่า ร่วมซ่อนเร้นศพ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งหลังจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างละเอียด จะมีการส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายในขั้นตอนต่อไป
