แก๊งเงินกู้ขนพวก 20 คน บุกสกรัมยิงหนุ่มตายคาบ้าน อึ้งนายทุนอาสาจัดงานศพให้ (คลิป)

21 ธ.ค. 63

กรณีตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทใช้อาวุธปืนยิงคู่อริ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณรังสิต-ปทุมธานี 14 ซอย 9 หน้าบ้านเลขที่ 1 หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

988220757154475941

โดยที่เกิดเหตุภายในบ้านพบข้าวของกระจัดกระจาย พร้อมทั้งหยดเลือดของผู้ได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีนำผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 คน ส่งโรงพยาบาลแพทย์รังสิต และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 1 คน ทราบชื่อนายธวัชชัย นิลวรรณ หรือ ปู อายุ 40 ปี ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ คือนายนาวี เพิ่มพูล หรือ กอล์ฟ อายุ 39 ปี ถูกขวานฟันท้ายทอย, คนที่ 2 นายการุพล พรหมสุวรรณ หรือ เอ อายุ 42 ปี ถูกยิงที่บริเวณท้องและขวดแก้วแทงที่ท้อง จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนทั้งหมด 6 ปลอกขนาดปืน 9 มม. และ 11 มม. 

864343

ล่าสุดวันที่ 21 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บ้านเลขที่ 1 หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบว่ายังมีแนวกั้นโพลิสไลน์ของตำรวจล้อมเอาไว้อยู่ เนื่องจากมีการเก็บหลักฐานยังไม่ครบถ้วน โดยหลังจากนี้กองพิสูจน์หลักฐานจะเดินทางลงพื้นที่ตรวจอีกครั้ง

ในช่วงเวลา 14.30 น. ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรภาค 1 ลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐาน และเก็บข้อมูลเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะมีการขยายผลและติดตามความคืบหน้า เกี่ยวกับกลุ่มที่ก่อเหตุทั้ง 20 คน โดยเบื้องต้นทราบว่าตำรวจรู้ตัวคนก่อเหตุแล้ว แต่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ คนก่อเหตุ เป็นลูกน้องคนสนิทของเสี่ยเจ้าของเงินกู้นอกระบบ 

710417

จากนั้น ทีมข่าวได้พยายามสอบถามข้อมูล เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงบ้านจุดเกิดเหตุ นางสาวอิม (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนอยู่ในบ้านพร้อมกับลูก พบเห็นรถกระบะเข้ามาจอดหน้าบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงคล้ายประทัดดังต่อเนื่อง ทีแรกคิดว่าเป็นการจุดพลุ กระทั่งมาทราบว่ามีการก่อเหตุยิงกัน ด้วยความตกใ จึงสั่งให้ลูกมอบลงกับพื้น โดยลักษณะของการยิง เหมือนยิงขู่ประมาณ 4 นัดแรก ก่อนที่จะมีเสียงรัวยิงต่อเนื่องอีก 4-5 นัด และมีปิดท้ายครั้งที่ 3 อีก 2 นัด ยอมรับว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าที่จะออกไปดูต่อว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะฝ่ายตรงข้ามมากันหลายคน

cg1_3

ส่วนในวันที่ 19 ธ.ค.63 ช่วงเวลาหัวค่ำเวลาประมาณ 18.00 น. ได้มีผู้ชาย 2 คน ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าบ้าน และเข้าไปมีปากเสียงกับคนในบ้าน โดยคนด้านในไม่ได้ออกจากตัวบ้านมาพูดคุยด้วย เป็นการพูดคุยผ่านประตูหน้าต่าง ซึ่งตนได้ยินเสียงคนในบ้านเป็นผู้หญิงตะโกนว่า “เก่งจริง มึงก็เข้ามาสิ” จากนั้นผู้ชาย 2 คนที่เข้ามาก่อเหตุ ก็ได้หยิบเอาขวดเหล้าเบียร์ที่วางอยู่หน้าบ้าน ขว้างปาบริเวณหน้าบ้าน ทำให้มีกระจกบ้านบางส่วนได้รับความเสียหาย จากนั้นก็ได้ขี่มอเตอร์ไซค์หลบหนีออกไป กระทั่งผ่านไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง กลุ่มคนก่อเหตุได้ย้อนกลับมาพร้อมกับรถกระบะสีดำ ถอยรถชนมอเตอร์ไซค์ 3 คันที่จอดอยู่หน้าบ้านล้มระเนระนาด โดยส่วนตัวเชื่อว่าเป็นชนวนเหตุที่เริ่มมีปากเสียงกัน ก่อนที่จะมาลงมือก่อเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา

สำหรับพฤติกรรมของคนในบ้าน เป็นกลุ่มคนที่ทำงานเป็นเซลส์ปล่อยเงินกู้นอกระบบ และมักจะมีกลุ่มคนแปลกหน้าแวะเวียนเข้ามาหาไม่ซ้ำหน้า ส่วนใหญ่กลุ่มคนเจ็บและคนตายมักจะนั่งดื่มสังสรรค์กันที่โต๊ะหินอ่อนตัวที่เกิดเหตุ บางครั้งก็ส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง เพราะชาวบ้านแถวนี้รู้กันดีว่ากลุ่มคนดังกล่าวทำงานอาชีพอะไร จึงไม่มีใครกล้าเสี่ยงเข้าไปมีเรื่องด้วย

ทีมข่าวยังได้ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ ให้ข้อมูลกับทีมข่าว ว่าหลังจากที่กลุ่มคนร้ายก่อเหตุ ได้วิ่งหลบหนีออกจากบ้านกัน เพราะเนื่องจากกระบะที่ขับมาส่ง ได้ขับวนออกไปรอที่ปากซอย จึงทำให้หลังจากก่อเหตุแล้วกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดต้องวิ่งตามรถกระบะ เพื่อจะไปขึ้นรถ และยังมีอาวุธซึ่งเป็นท่อนเหล็ก ที่นำมาใช้ก่อเหตุ ทิ้งเอาไว้อยู่บริเวณหน้าบ้านริมถนน 

631601

ทีมข่าวจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ โดยเฉพาะแยกปากซอย จุดที่มีกล้องวงจรปิดจับภาพช่วงที่กลุ่มคนก่อเหตุวิ่งหลบหนี โดยกล้องวงจรปิดสามารถเห็นภาพกลุ่มวัยรุ่นกว่า 15-20 คน วิ่งออกมาจากซอยบ้านจุดเกิดเหตุ เลี้ยวขวาเพื่อจะวิ่งตามรถกระบะ ไปขึ้นรถเพื่อหลบหนี

374998

นอกจากนี้ ยังมีช่วงหนึ่งที่กล้องวงจรปิดตัวดังกล่าว สามารถจับภาพรถกระบะสีขาว ซึ่งเป็นรถกระบะของรุ่นพี่คนเจ็บ ที่มีการลำเลียงคนเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ

ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านของนายธวัชชัย นิลวรรณ หรือ ปู อายุ 40 ปี คนตาย อ.ลำลูกกา จ.ประทุมธานี โดยพบว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านของ 2 ตายายรับเลี้ยงนายปูเอาไว้ เพราะพ่อแม่ของนายปูเสียชีวิต โดยเห็นว่าเป็นเด็กที่น่าสงสาร และสามารถทำไร่นาได้ จึงได้รับเลี้ยงและดูแล พร้อมกับย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาอาศัยอยู่ร่วมกับ 2 ตายาย

858380

นายยอด สร้อยทอง อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ตนรู้จักและเคยพบเห็นนายธวัชชัย หรือ ปู ตั้งแต่สมัยวัยรุ่น โดยเจ้าตัวเป็นคนที่ค่อนข้างเกเร และเป็นคนพูดจาเสียงดังโวยวาย แต่ก็ไม่เคยเห็นมีเรื่องกับใคร กระทั่งในระยะหลัง ไปรู้จักกับกลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่ง และมีการใช้ยาเสพติดเกิดขึ้น จึงถูกจับในข้อหายาเสพติด และติดคุกประมาณ 2 ปี หลังจากที่ทราบว่าออกจากคุกแล้ว ก็ไม่รู้ว่าไปอาศัยอยู่ที่ใด จนกระทั่งมาเจอกันช่วงประมาณ 2-3 ปี ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ถูกยิงครั้งนี้ เจ้าตัวได้ไปทำงานอยู่แถวรังสิต ทำงานเงินกู้นอกระบบ และนานทีจะกลับมาในหมู่บ้านย่านบึงคำพร้อย ปทุมธานี

แต่หลังจากเกิดเหตุยอมรับว่า ค่อนข้างตกใจ เพราะไม่คิดว่า จะต้องตายด้วยเหตุถูกยิง แต่ก็ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ส่วนตัวได้ประสานญาติหรือคนตายบ้านเลขที่ดังกล่าวแล้ว ซึ่งทราบว่า จะมีการติดต่อรับศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดนางคันยันตรี แต่ทั้งนี้ทราบว่า ทางด้านของนายจ้างได้ติดต่อกลับมา เตรียมที่จะรับศพไปดูแล พร้อมกลับทำพิธีฌาปนกิจให้นายปู ซึ่งตนในฐานะคนที่รู้จัก ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน และในฐานะคนที่เป็นตัวกลาง ก็ขึ้นอยู่กับนายจ้างของนายปู หากจะรับศพของนายปูไปตั้งบำเพ็ญกุศล ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร

440294

วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวยังได้เจอกับนายป้อม (นามสมมติ) รุ่นพี่ของคนเจ็บ-คนตาย เปิดเผยว่า กลุ่มคนเจ็บและคนตายเป็นรุ่นน้องที่ดี ไม่ได้เกเรหรือมีเรื่องกับใคร ส่วนใหญ่มีเรื่องอะไรก็จะเล่าให้ตนฟังทั้งหมด แต่ไม่เคยพูดถึงปมปัญหาที่จะถูกยิงครั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุยอมรับว่าค่อนข้างตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีคนยกพวกเข้ามายิงถล่ม ส่วนหนึ่งในคนก่อเหตุ ตนไม่รู้ว่าเป็นใคร หรือขัดแย้งอะไรกับนายปู เพราะส่วนใหญ่กลุ่มรุ่นน้องมักจะปรึกษาเฉพาะเรื่องการซื้อขายพระเครื่อง แต่ไม่ค่อยยอมเล่าปมปัญหาอื่นให้ฟัง จึงอยากที่จะบอกว่าปมปัญหาเกิดจากเรื่องอะไร ดังนั้นควรถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยกันจะรู้เรื่องดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะรุ่นพี่และคนรู้จักกลุ่มคนเจ็บและคนตาย อยากจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดติดตามกลุ่มคนก่อเหตุ เพราะเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ มีคนก่อเหตุมากกว่า 20 คน และใช้อาวุธปืนถล่มยิงจนทำให้มีคนตาย อยากให้กระบวนการยุติธรรมให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายของตนเอง และจับกุมคนก่อเหตุดำเนินคดีให้ได้ พร้อมทั้งฝากถึงกลุ่มคนที่ก่อเหตุ อยากให้มอบตัว และรับโทษตามที่ก่อเอาไว้ และอยากให้เปิดเผยถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส