ถูกยกเป็นอภิชาตบุตร “เสือ เสฏกานต์” ยิ้มรับ สถานการณ์ครอบครัวดีขึ้น

11 ธ.ค. 63

อีกหนึ่งลูกคนดังคนหนึ่งที่พักหลังมานี้ถูกบกให้เป็นอภิชาตบุตรไปแล้วสำหรับ “น้องเสือ เสฏกานต์ ศุขพิมาย” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนักร้องขาร็อคในตำนาน “เสก โลโซ” หรือ “เสกสรรค์ ศุขพิมาย” กับ “กานต์ วิภากร ศุขพิมาย” ยังคงทำหน้าที่ลูกชายที่คอยดูแลครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศาลสั่งจำคุก 5 ปี “กานต์” เมีย “เสกโลโซ” โพสต์หมิ่นประมาท “อีฟ แม็กซิม”
- “เสก-กานต์” ถือฤกษ์ดี แต่งงานเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ลั่นขอมอบชีวิตนี้ให้ “กานต์” จะดูแลกันจนวันตาย
- "กานต์" ลบรูปต้นเหตุทำ "เสก" โดนตร.ออกหมายเรียก เผยขอโทษที่ไม่เคยดี

เสือ เล่าว่า ทุกครั้งที่เห็นแม่ตื่นเช้าหลายๆวันติดต่อกันก็จะแอบเป็นห่วงไม่น้อย จึงมักจะเตือนให้คุณแม่หาเวลาพักผ่อนอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คดีจะเยอะแค่ไหน ผมก็บอกว่าคุณแม่เป็นคนที่เข้มแข็งมาก ไม่เคยบ่น ไม่เคยทัอแท้อะไรเลย ด้านของคุณพ่อก็เริ่มกลับมารับงานปกติแล้ว อย่างเดือนธันวาคมนี้งานก็เยอะมากแต่ก็ต้องเจอกับปัญหาเรื่องโควิด-19 ทำให้งานในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายมีถูกแคนเซิลไปบ้าง

พร้อมกันนี้ก็ยังอัพเดตอีกว่าตอนนี้คุณพ่อยังคงต้องกินยาตลอด และมีการเปลี่ยนชนิดยาอยู่เรื่อยๆ ซึ่งมันทำให้คุณพ่อได้นอนมากขึ้น บวกกับตนเองก็มักจะตื้อคุณพ่อให้ออกไปตีแบต ไปเตะบอลหรือไม่ก็ไปเดินรอบหมู่บ้านบ้าง ซึ่งบางทีก็ทำ บางทีก็ไม่ทำ แต่ก็ทำให้คุณพ่อเครียดน้อยลง ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี

ก่อนที่จะยอมรับว่า “การทำหน้าที่เป็นหลักของบ้านทุกวันนี้ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอะไรที่หนัก ไม่ได้ท้อแท้อะไร ผมพร้อมสุดๆ ที่จะดูแล คล้ายๆ เป็นหัวหน้าครอบครัวเลยครับ รู้สึกว่าผมต้องทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว ก็ไม่ได้เป็นปัญหาหรือภาระอะไร ไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ดูแลพ่อ ดูแลแม่ ดูแลน้องๆ ด้วย ผมยอมทำได้อยู่แล้ว”

แถมตอนนี้ “น้องเสือ” ยังตั้งใจจะออกเพลงใหม่ที่ทำด้วยตัวเองอีกด้วยและอาจจะหาโอกาสไปเปิดตัวบ้างในคอนเสิร์ตของตัวเองและของคุณพ่อนั่นเอง พร้อมกับรู้สึกดีใจที่ทุกคนยกให้ตนเป็นอภิชาตบุตร

เมื่อเช้าเห็นคุณแม่โพสต์เกี่ยวกับลายเซ็นปลอม
“ผมยังไม่รู้เลยครับ (หัวเราะ) เพราะผมไม่ได้ติดตามว่าเขาโพสต์อะไร”

คุณแม่มีเฟซบุ๊คหลายอันหรือยังไง
“ตอนนี้เขาก็ใช้ตัวเดียวเป็นตัวหลักนะครับ แอคเคาท์เดียวครับ”

ก่อนหน้านี้ก็มีโพสต์เกี่ยวกับเรื่องโรงเรียนของน้อง
“ใช่ๆ ตอนนี้ก็เริ่มเงียบลงครับ เพราะสองฝั่งได้คุยกันนิดหน่อย แต่ไม่รู้ว่าจบหรือยังครับ ผมก็ทำหน้าที่ดูแลน้องเหมือนเดิม ไม่ค่อยได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาของที่โรงเรียนเขามีอยู่ตอนนี้ครับ”

ตอนนี้บรรยากาศในบ้านเป็นยังไงบ้าง
“ก็ดีปกติครับ”

แม่ย้ายมาอยู่ที่บ้านพ่อแล้วหรือยังไง
“ตอนนี้ยังอยู่กันที่บ้านคุณแม่ บ้านหลังเล็กกันอยู่ เพราะบ้านนู้นยังทำไม่เสร็จ 100% แล้วเขาขี้เกียจย้ายกันไปด้วย เพราะว่าของก็ยังอยู่ที่นี่”

จะย้ายกลับไปตอนไหน
“คือเขาเลื่อนมาหลายเดือนมากเลย ตอนแรกบอกจะย้ายตั้งแต่เดือนต.ค. ก็เลื่อนมาเรื่อยๆ เพราะบ้านไม่เสร็จสักที และเขาก็ขี้เกียจย้ายกันด้วย ก็น่าจะเป็นต้นปีหน้า ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

ปีที่ผ่านมาเหนื่อยกับข่าวคุณพ่อคุณแม่มั้ย
“ไม่ค่อยนะครับ ผมรู้สึกว่ามันซอฟกว่าช่วงที่ผ่านมาเยอะ ก็เลยไม่คิดว่ามันแย่อะไรมากครับ”

แต่แม่ต้องขึ้นศาลเยอะมากจนหลายคนเป็นห่วง
“ผมก็ให้กำลังใจเขาตลอดครับ เห็นเขาตื่นเช้าหลายๆ วันไปขึ้นศาล คือเวลาที่เขามีฟีลลิ่งอยากทำงาน เขาจะไม่นอนเลยครับ 2-3 วันไม่นอนเลย ทำงานติดต่อกันเลย แล้วพอเขานอน เขาก็ต้องนอนยาวๆ แต่พอมีใบศาลต้องไปทำนู่นทำนี่มันก็ทำให้เขาขาดเวลาพักผ่อน ผมก็เป็นห่วงนิดหน่อย แต่เขาก็รู้บ้างว่าต้องพักผ่อน เสือก็คอยเตือนเขาตลอด”

แม่มาระบายให้ฟังมั้ย เพราะต้องขึ้นหลายศาล เขาเหนื่อยมั้ย
“เขาเข้มแข็งมากเลยครับ ต่างจากพ่อเลยครับ (หัวเราะ) คดีเขาเยอะ แต่เขาไม่บ่น ไม่ทัอแท้อะไรเลย”

คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง
“คุณพ่อก็รับงานปกติครับ เดือนนี้ก็งานเยอะ แต่ก็มีปัญหาเรื่องโควิดเพิ่งเข้ามาภาคเหนือ งานก็เพิ่งแคนเซิลไปเชียงใหม่ เชียงรายครับ แต่ก็เยอะพอประมาณ”

ก่อนหน้านี้คุณพ่อเคยบอกว่าต้องทานยาตลอด
“ใช่ครับ เขาก็กินยาตลอดครับ ไม่แน่ใจว่าเขากินยาเพิ่มขึ้นหรือน้อยลง แต่ว่าครั้งล่าสุดที่ผมถามเขาเรื่องยา เขาบอกว่าเพิ่งไปเปลี่ยนยามาใหม่ ซึ่งมันทำให้เขานอนมากขึ้น แต่เขาเครียดน้อยลง ซึ่งก็ดีในแง่นึงครับ”

กิจกรรมยามว่างคุณพ่อทำอะไรบ้าง เห็นว่าแจกลายเซ็น
“เขาเซ็นเสื้อที่เราขายกันนี่แหละครับ ก็เซ็นเสื้อบ่อยอยู่ครับ แล้วก็มีเล่นกีต้าร์ครับ แล้วก็มีไปเชียร์ทีมฟุตบอล เพราะตอนนี้ทีมโลโซ ยูไนเต็ดกลับมาเล่นแล้วครับ”

เราช่วยดูแลคุณพ่อยังไงบ้าง
“ก็อยากพาเขาไปทำกิจกรรม ไปออกกำลังกายเยอะๆ ครับ เพราะเขาเป็นคนไม่ค่อยชอบออกไปทำนู่นทำนี่ ผมก็เลยชอบตื้อเขาให้ออกไปตีแบต ไปเตะบอลหน่อย หรือไม่ก็ไปเดินรอบหมู่บ้านนิดหน่อยครับ ซึ่งบางทีก็ทำ บางทีก็ไม่ทำครับ (ยิ้ม) แต่เตะบอลเขาชอบอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้ไปร่วมเตะด้วยทุกครั้ง”

เราให้กำลังใจตัวเองยังไง เพราะต้องดูแลทุกคน เหมือนเราเป็นหลักของบ้าน
“ก็ไม่ได้รู้สึกหนัก ไม่ได้ท้อแท้อะไร ผมพร้อมสุดๆ ที่จะดูแล คล้ายๆ เป็นหัวหน้าครอบครัวเลยครับ รู้สึกว่าผมต้องทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว ก็ไม่ได้เป็นปัญหาหรือภาระอะไร ไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ดูแลพ่อ ดูแลแม่ ดูแลน้องๆ ด้วย ผมยอมทำได้อยู่แล้ว”

พอสังคมรอบข้างกดดันมา เราเครียดมั้ย
“หมายถึงข่าวพ่อกับแม่ใช่มั้ยครับ มันก็มีบ้างครับ แต่ผมเป็นคนไม่ค่อยติดตามข่าว ไม่ค่อยติดตามโซเชียลว่าเขาคุยอะไรกันบ้างเกี่ยวกับพ่อแม่ ผมก็เลยไม่ได้ไปคิดมาก ไม่ได้นอยด์เรื่องพวกนี้ครับ”

ทุกวันนี้เราทำงานอะไรบ้าง
“ช่วงนี้ก็งานเยอะอยู่ครับ มีคอนเสิร์ตตัวเองด้วย มีงานแสดงด้วย และมีงานยูทูปที่ทำอยู่ครับ”

จะเป็นนักร้องแบบคุณพ่อเหรอ
“ไม่ได้เป็นนักร้องอาชีพหรอกครับ แค่อยากจะมีผลงานนิดหน่อย อยากจะมาแจมด้วยนิดหน่อย ถ้ามีโอกาส คือเวลามีคอนเสิร์ตของพ่อ เขาก็จะมีวงเปิด ผมก็รู้จักกับพี่ๆ เขาเหมือนกัน ผมก็อยากไปแจมกับเขาด้วย”

วันนี้ก็เป็นโชว์คอนเสิร์ตครั้งแรกในชีวิตเลย
“ใช่ๆ อันนี้เป็นงานส่วนตัว งานคอนเสิร์ตของเสือเองที่ร้องเองครั้งแรกเลย เพราะปกติผมจะไปร้องแจมเพลงมากกว่า”

จะมีไปทัวร์กับคุณพ่อมั้ย
“ผมว่าจะออกเพลงใหม่ของตัวเองครับ อยากจะทำเพลงเอง คือถ้าเพลงออกมาดีตามที่เสือชอบ ตามที่ตัวเองอยากจะทำก็อยากจะไปเปิดตัวบ้างในคอนเสิร์ตครับ”

พ่อแนะนำอะไรบ้างกับเส้นทางนักดนตรี
“อันนี้ไม่ค่อยได้ปรึกษากันเลยครับ (ยิ้ม)”

พ่อกับแม่ยกให้เป็นอภิชาตบุตรเลย
“(หัวเราะ) ก็ได้ยินคำนี้บ่อยอยู่ ก็รู้สึกดีใจครับ (หัวเราะ) ก็ไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษ”

ไม่ท้อกับข่าวของพ่อกับแม่เนอะ
“ครับ ผมรู้สึกว่ามันผ่านจุดพีคๆ มาแล้ว ก็เลยไม่ได้รู้สึกท้อแท้อะไร”

วันนี้เป็นห่วงการโพสต์โซเชียลของแม่มั้ย
“ไม่ค่อยเท่าแต่ก่อน เพราะผมไม่ได้ติดตามเขาขนาดนั้น กับพ่อผมก็ไม่ได้ติดตามนะ”

แม่ปิดกั้นเราหรือเปล่า
“ไม่ๆ (หัวเราะ) ถ้าเข้าไปก็เห็นอยู่ แต่ผมไม่เคยเข้าไปกดดู คือผมไม่ค่อยได้ใช้เฟซบุ๊คด้วย ก็เลยไม่ค่อยเห็น”

พ่อมีห้ามแม่มั้ยว่าให้โพสต์น้อยๆ หน่อย
“ไม่ครับ”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส