อังกฤษเตือนคนมีประวัติแพ้รุนแรง อย่าฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์" หลังพบคนแพ้ 2 ราย

10 ธ.ค. 63

อังกฤษเริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของบ.ไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค ให้ประชาชนกลุ่มแรกแล้ว พบมีคนแพ้ 2 ราย เตือนประชาชนที่มีประวัติแพ้ยาหรืออาหารรุนแรงอย่าเพิ่งรับวัคซีน 

อังกฤษ เริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบ.ไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค (Pfizer/BioNTech) ให้ประชากรกลุ่มแรกเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยนับเป็นการฉีดวัคซีนให้ประชาชนครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ และพบว่าภายใน 24 ชั่วโมงหลังการฉีดวัคซีน หน่วยงานกำกับดูแลยาของประเทศ ออกมาเตือนว่า ผู้ที่มีอาการแพ้ยาหรือแพ้อาหารรุนแรงยังไม่ควรรับการฉีดวัคซีนในขณะนี้

จำนวนของผู้ที่ไม่ควรฉีดวัคซีนในอังกฤษยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มีรายงานว่า มีประชาชนมากถึง 7 ล้านคนในประเทศ ที่มีอาการแพ้รุนแรงประจำตัวถึงขั้นต้องให้แพทย์ดูแล ในขณะที่ประชาชนราว 2.5 แสนคน จำเป็นต้องพกพายาแก้แพ้ฉุกเฉินติดตัวตลอดเวลา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อังกฤษไฟเขียววัคซีน "ไฟเซอร์" ชาติแรกของโลก เริ่มฉีดให้ปชช.สัปดาห์หน้า
- ไฟเซอร์ เผยข่าวดี วัคซีนต้านโควิดได้ผลกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 2 คน จำเป็นต้องได้รับการรักษาอาการแพ้ทันที แต่ขณะนี้กำลังฟื้นตัวแล้วหลังมีอาการแพ้ไม่นานหลังฉัดวัคซีน แต่ไม่ได้ระบุแน่ชัดว่า ทั้งคู่ต้องใช้ยาแก้แพ้ฉุกเฉินที่พกติดตัวตลอดเวลาหรือไม่

หน่วยงานด้านสาธารณสุขของอังกฤษ เผยว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนมีอาการแพ้ปานกลาง ที่รวมทั้งผื่นแดง หายใจถี่ ใบหน้าและลิ้นบวม หรือความดันโลหิตต่ำลง 

ล่าสุดสำนักงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ยาและสุขภาพ ออกมาให้คำแนะนำว่า ผู้ใดก็ตามที่มีประวัติแพ้ยาหรือแพ้อาหารรุนแรง ยังไม่ควรรับวัคซีนต้านโควิดในขณะนี้ อย่างไรก็ตามบรรดานักวิทยาศาสตร์ร้องขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกเรื่องการแพ้วัคซีน แต่ให้ตระหนักว่าผู้ที่มีประวัติแพ้ยามีความเสี่ยงที่เกิดอาการแพ้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมในการดูแลไว้แล้ว 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม