หลังจากที่เมื่อวานนี้ นักแสดงสาว “น้ำชา ชีรณัฐ” ได้โพสต์เตือนภัยเกี่ยวกับการลักพาตัวใจกลางเมืองแบบกลางวันแสกๆ ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว ทำให้คนในวงการบันเทิงหลายเข้ามาคอมเมนต์แล้วก็แชร์ต่อมากมาย
โดยเนื้อหาที่สาวน้ำชาโพสต์ เขียนไว้ว่า “การ์ดคอนโดในซอยสุขุมวิท 39 (ซอยพร้อมจิต) ให้การว่า ตอนนี้มีหญิงสาวชาวต่างชาติถูกลักพาตัวไปจากถนนซอย 49, 39, 31 ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ระหว่างรอรถริมถนนบนฟุตบาท
สายข่าวกล่าวว่า ตำรวจกำลังขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากอาคารและคอนโดรอบๆ และเห็นรถคันหนึ่งขับวนไปมา รอช่วงจังหวะที่ไม่มีคนและดึงผู้หญิงเข้าไปในรถ ณ ตอนนี้มีหญิงสาวหายตัวไปแล้ว 4 คน เคสล่าสุดคือ 4 โมงเย็นเมื่อวาน (7 ธ.ค.) ความขนลุกคือคนร้ายปฏิบัติการตอนกลางวันแสกๆ 4 โมงเย็น ตำรวจกำลังสืบสวนคดีนี้อยู่แต่ข่าวนี้ไม่ได้รับความสนใจจากสื่อสายหลัก ยามคอนโดต่างๆ ในบริเวณกำลังกังวลใจเรื่องนี้มาก จึงอยากฝากสังคมและชาวเน็ตช่วยกันแชร์เรื่องนี้ด้วย
ถ้ามันเกิดขึ้นบนถนนสุขุมวิทกลางวันแสกๆ ได้ มันก็เกิดขึ้นทุกที่ในประเทศไทยได้”
สำหรับเรื่องนี้เอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้มีการแถลงข่าวไปเมื่อช่วงเช้านี้ (9 ธ.ค. 2563) ว่า มีเหตุลักพาตัวเกิดขึ้นจริง แต่เป็นผู้ชายเพียง 1 คน คือ นายเฉิน เล่ย หรือ ลูคัส อายุ 43 ปี สัญชาติจีน อาชีพนักธุรกิจ โดยถูกอุ้มหายตัวไปจาก ซอยสุขุมวิท 39 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563 ซึ่งกลุ่มคนร้ายได้ติดต่อเรียกเงินค่าไถ่ 15 ล้านบาท
ส่วนที่สาว "น้ำชา" โพสต์ในอินสตาแกรมว่ามีผู้หญิงถูกลักพาตัว 4 คน บริเวณสุขุมวิท 39 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ไม่เป็นความจริง และน่าจะเป็นการสื่อสารข้อมูลผิดพลาด เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม และสืบสวนขยายผลจนจับกุมกลุ่มคนร้ายดังกล่าวได้ภายในวันที่ 8 ธันวาคม วันเดียวกับที่ดาราสาวนำเสนอข้อมูล อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอบคุณ สาวน้ำชา ด้วยที่มีความประสงค์ดี
ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้เอง "น้ำชา" ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพื่อชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า ตนได้ข้อมูลมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้โดนบล็อคไปแล้ว โดยในฐานะที่ตนเป็นผู้หญิงอ่านแล้วตกใจ เลยโพสต์เตือนให้ทุกคนระมัดระวัง และตนได้คุยกับเพื่อนตำรวจ ซึ่งข้อมูลก็เป็นความจริง ตามที่ตนโพสต์ไป
สาวน้ำชา เผยต่ออีกว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้ประโยชน์อะไร ก็แค่หวังดี แล้วก็ไม่ทราบว่าโพสต์แล้วจะเกิดอันตรายกับเหยื่อ แต่ทุกอย่างเป็นสิ่งที่เป็นไปได้หมด โพสต์แล้วเขาอาจจะปล่อยตัวเลยก็ได้ นอกจากนี้ตนก็ยังไม่ทราบว่าเรื่องที่ตนโพสต์จะเป็นคดีเดียวกับนักธุรกิจชายชาวจีนที่โดนอุ้มแล้วตำรวจช่วยเหลือไว้ได้แล้วหรือเปล่า
ถามว่ากลัว ตำรวจดำเนินคดีที่มีการให้ข้อมูลบิดเบือนผ่านโลกโซเชี่ยลไหม ตนก็อยากจะบอกว่าตนทำหน้าที่ในส่วนของตน ถ้าทำให้ใครเดือดร้อนก็ขออภัยด้วย พร้อมย้ำว่าที่ตนโพสต์ไปก็เพราะหวังดี ส่วนจะบิดเบือนหรือไม่ ตนมองว่ามันคือการเตือนให้ทุกคนระวัง ทั้งที่ตนเสี่ยงด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนออกหน้า ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง ไม่ไปไหนคนเดียว อยู่ในที่ๆมีคนเยอะๆ
สาวน้ำชา เผยต่อว่า หลังเกิดเรื่อง ตนไม่ได้คุยกับการ์ดของคอนโดต่างๆ ในโพสต์ของตน เพราะมองว่าไม่ใช่หน้าที่ของตน ส่วนภาพกล้องวงจรปิด ตนก็ไม่ได้ดูเพราะไม่อยู่แถวนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ มีการติดต่อมาหาตนแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยรายละเอียดอะไรกัน
จากกรณีที่น้ำชาโพสต์ในเฟซบุ๊กเตือนภัยว่ามีคนร้ายลักพาตัวหญิงสาว ตรงนี้น้ำชาได้ข้อมูลมาจากตรงไหน?
“ได้มาจากเว็บไซต์หนึ่งนะคะ ที่เป็นเว็บไซต์ที่คนต่างประเทศเขาเขียน เป็นบทความภาษาอังกฤษแล้วเราก็แปลมาอีกทีหนึ่ง แปลตามนั้นเลย แล้วพออ่าน เราเป็นผู้หญิงก็ตกใจ ทุกคนต้องตกใจ เราก็ตกใจ อยู่ๆ มาโดนอุ้มตอนกลางวันแสกๆ เราก็เลยโพสต์เพื่อที่จะเตือนให้ประชาชนทุกคนระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เด็ก คนแก่ อะไรก็แล้วแต่"
เว็บไซต์นั้นมีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน?
“เราก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนพี่ๆ ทุกคน เราได้อ่านแล้วตกใจ ก็เลยแชร์ไปเป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกคนระวังตัว ไม่ประมาทเท่านั้นเอง”
น้ำชาได้ไปปรึกษาพูดคุยกับเพื่อนตำรวจด้วย เพราะมีเขียนไว้ว่าแหล่งข่าวจากเพื่อนตำรวจ?
“ค่ะ (มีการพูดคุยว่าเหตุการณ์มันมีขึ้นจริงใช่ไหม?) ใช่ค่ะ มันเป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะวงในอะนะ เราก็เลยโพสต์ไป ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็อยากจะช่วยคนที่โดนอุ้ม และเตือนประชาชนที่ใช้ชีวิตแบบไม่ระมัดระวัง”
ที่บอกว่าได้ข้อมูลจากตำรวจ ได้ข้อมูลมาว่าอะไร?
“ก็คือตามที่โพสต์ไป”
ก็คือมีการลักพาตัว?
“ตามที่โพสต์ไปเลยค่ะ ใช่ค่ะ”
ตำรวจคนนั้นยืนยันว่ามีการลักพาตัว แล้วน้ำชาก็เอามาโพสต์?
“ประมาณนั้นค่ะ ใช่ค่ะ แต่พอได้อ่านข่าวที่นำมากระพือต่อ และมาจากทาง สน.อะไรด้วย จริงๆ คนที่โดนอุ้มเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิงซึ่งอันนี้อาจจะเป็นข้อความ คือชาไม่รู้นะ อันที่ชาโพสต์เป็นอีกคดีหนึ่ง ชาก็ไม่รู้ คือชาเป็นแค่ประชาชนที่นำมาโพสต์ต่อ เพื่อเตือนทุกๆ คน เรื่องนี้ชาไม่ได้อะไรเลยทั้งสิ้น ชามีแต่หวังดี กับประชาชนเท่านั้นเอง”
ความหวังดีของน้ำชา ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันน้ำชาทราบไหมว่าวิธีการทำงานของตำรวจหากมีการโพสต์ข้อมูลในเรื่องของการลักพาตัวไปจะทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ชีวิตหรือมีอันตรายได้ น้ำชาพอจะทราบตรงจุดนี้ไหม?
“ชาไม่ได้ทราบค่ะ แต่ชาแค่โพสต์เพื่อเตือนทุกๆ คน ต่อให้ชาโพสต์หรือไม่โพสต์ ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับเหยื่อ หรือถ้าชาโพสต์ก็ไม่รู้อีกเช่นกัน เขาอาจจะปล่อยเลยก็ได้ คือทุกอย่างมันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ทั้งนั้น”
แต่ถือว่าเป็นการสุ่มเสี่ยงไหมในการโพสต์ข้อมูลนี้?
“ชานี่แหละเสี่ยง (หัวเราะ) นี่ยังนอยด์ยังหลอนอยู่เลย”
มันเสี่ยงไหมกับการที่โพสต์ออกไปเพราะเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือในการลักพาตัว?
“คนที่เสี่ยงก็คือชา เพราะชาคือคนออกหน้าทั้งหมด”
มันเสี่ยงในเรื่องความรับผิดชอบ?
“มันเสี่ยง แต่ชามองว่าชาขอออกไปเตือนคนดีกว่า เพราะทุกวันนี้ชาเชื่อว่ามีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมเยอะมาก ที่ไม่เป็นข่าว คนหายตัวไปอย่างที่ไม่มีเหตุผล ซึ่งอันนี้มันไม่มีใครกล้าออกมาพูด และชาก็ทราบสาเหตุว่าทำไมถึงไม่กล้าออกมาพูด ชารู้สึกว่าอย่างน้อยชาก็เป็นประชาชนคนหนึ่งที่เป็นหูเป็นตาให้กับทุกคน เป็นคนสาธารณะที่น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”
นักธุรกิจชาวจีน?
“ชาไม่ทราบค่ะ ชาเป็นแค่ประชาชนที่นำออกมาโพสต์เพื่อเตือนทุกคนเท่านั้นเอง ชาไม่ทราบว่ามันมีอีกคดีไหม”
อย่างที่เรารีเช็คกับเพื่อนตำรวจได้เอาข้อความให้ดูไหม รีเช็คว่าเป็นเรื่องจริงไหม?
“ก็ใช่ตามนั้นค่ะ เรื่องจริงก็คือคนโดนอุ้มถูกไหมคะ มันก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่ว่าอะไรที่มันบิดเบือนอะไรก็แล้วแต่ อันนี้ชาขอให้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้วกันว่ามันยังไงค่ะ”
กลัวว่าทางตำรวจจะมีการดำเนินคดีกลับไหม ข้อมูลมันบิดเบือน?
“ออกมาเตือนก็ถือว่าชาได้ช่วยทุกคน ทุกคนที่ดูอยู่ตรงนี้ ทุกคนที่ออกไปเดินตามถนน ใครก็แล้วแต่ ชาถือว่าชาได้ทำหน้าที่ของชา แต่ว่าถ้าจะไปทำให้ฝั่งอื่นฝั่งใดที่เดือดร้อน ชาก็ขออภัยด้วยค่ะ ชาไม่ได้ตั้งใจแต่ว่าที่ชาทำเพราะเจตนาดีทั้งนั้น คือต้องการออกมาเตือนประชาชนเท่านั้นเอง”
เราหวังดีใช่ไหม?
“ใช่ค่ะ คือชารู้สึกว่าพอชาได้ข่าวนี้มาเหมือนชาเป็นผู้ยืนดูให้เขาโดนอุ้มไป แล้วไม่เอาไปแจ้งความหรือไม่ไปบอกต่อให้คนอื่นระวัง แต่พอชาเห็นปุ๊ป ชาต้องการให้เขาได้รับความช่วยเหลือ คือพอรู้ปุ๊ป ทำปั๊ป โดนอุ้ม ขณะนั้นแล้ว ต้องมานั่งรออีกไหม ต้องผ่านไปกี่วัน ต้องรอให้เขาเสียชีวิตไปเลยเหรอ หรือต้องมีเหยื่อรายต่อไปเกิดขึ้นเหรอ ต้องรออีกกี่วัน มันต้องอีกวัน”
หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้คุยกับเพื่อนตำรวจคนนั้นหรือยังว่าข้อมูลมันบิดเบือน?
“ก็มีการคุยค่ะ แต่บิดเบือนไหมก็ต้องเอามาจากแหล่งข่าวที่ชาเอามาอีกทีหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อความที่มีอยู่จริง ซึ่งตอนนี้เปิดไปก็คือโดนบล็อกไปแล้ว ข้อความที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดโดนบล็อกไปแล้ว”
ชาว่าเรื่องนี้มันแปลกๆไหม ทำไมโดนบล็อกไป ทางตำรวจแถลงว่าเราอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือเปล่า คิดว่ามีอะไรมากกว่านี้ไหม?
“ชาไม่ทราบ ชาขอไม่ออกความเห็นดีกว่า”
ทางตำรวจระบุเลยว่าทางน้ำชาเข้าใจคลาดเคลื่อนในข้อมูลที่ออกมาโพสต์และตรงนี้เหมือนว่าเราเจตนาดี เพียงแต่ว่าตรงนี้เราจะแสดงความคิดเห็นยังไง?
“อย่างที่ชาบอกว่ามันอาจจะมีอีกคดีก็ได้ที่เรายังไม่รู้ แต่เป็นสิ่งที่ชาเอามาจากข้อความที่ฝรั่งเขาเขียนกันค่ะ”
เรายืนยันว่าข้อมูลตรงนี้เราได้มาจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ?
“เป็นแหล่งข่าวที่ฝรั่งเขาเขียน ก่อนที่คนไทยจะมาเขียนกันเอง เพราะว่าข่าวนี้มันพาดพิงถึงชาวต่างชาติ”
ทำไมถึงให้น้ำหนักทางฝรั่ง ในเมื่อเหตุการณ์เกิดในเมืองไทย?
“ทำไมเหรอคะ ไม่ว่าจะเป็นไทยหรือฝรั่งก็คือคนๆ หนึ่งที่โดนอุ้มไปมันเป็นเรื่องที่น่าคอนเซิร์น”
เรามีการตรวจสอบหรือเช็คข้อมูลให้ถ้วนถี่ก่อนไหมในการที่จะโพสต์แต่ละครั้ง?
“ก็มีนะคะ แต่ถึงยังไงนะสิ่งที่ชาโพสต์ไป ประชาชนมีแต่ได้กับได้ เขาได้ระมัดระวังตัวมากขึ้น ต่อให้จะบิดเบือนหรือไม่บิดเบือน แต่สิ่งที่ชาโพสต์ไปเป็นการเตือนให้ทุกคนระวัง เหมือนเตือนให้เขาอย่าหกล้มก่อนที่เขาจะหกล้ม ซึ่งมันมีแต่ผลดี แล้วสิ่งที่ชาได้ชาเสี่ยงด้วยซ้ำที่มาอยู่ที่นี่ตอนนี้ แต่ชารู้สึกว่าชาเป็นประชาชนคนหนึ่งที่ต้องปฎิบัติหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับทุกคนเท่านั้นเอง”
เราได้รีเชคกับการ์ดของคอนโดนั้นก่อนไหมว่ามีการอุ้มเกิดขึ้นจริง?
“ไม่ขนาดนั้นค่ะ ชาไม่ใช่ตำรวจที่ต้องไปสืบสวนสอบสวน หน้าที่นั้นคือหน้าที่ที่เกินขอบเขตของประชาชนอย่างชา คงไม่ขนาดนั้น”
แสดงว่าข้อความย่อหน้าแรกเราแปลมาจากภาษาอังกฤษหมดเลย?
“ใช่ค่ะ แปลมาจากภาษาอังกฤษหมดเลย มันเป็นเว็บที่ฝรั่งเขียนกัน ชาขอไม่เอ่ยชื่อ เหมือนว่าโดนลบออกไปแล้ว เป็นเว็บคอมมูนิตี้กลุ่มนักท่องเที่ยว”
ก่อนเราโพสต์เราได้ไปเช็คกับทางสน.ทองหล่อไหม?
“ชาไม่ได้เช็ค อย่างที่บอกชาไม่ได้ต้องการที่จะขุดคุ้ย ชาไม่ได้มีเวลามาสืบสวนสอบสวน ชาไม่ใช่โคนัน ชาก็มีอะไรที่ชาต้องทำเหมือนกัน สิ่งที่ชาทำได้ตอนนั้นคือเตือนทุกคน นี่คือทางที่ชาจะทำได้”
กรณีนี้จะถือเป็นบทเรียนของเราไหมในการแชร์ข้อมูลต่างๆ หลังจากนี้จะมีการรีเช็คก่อนไหม?
“รีเช็คก็ต้องรีเช็ค ชาว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องด่วนที่ชาต้องโพสต์เตือน ต่อให้จะบิดเบือนเล็กน้อย แต่มัน แต่โอเคถ้ามันไม่ได้มีเค้าข้อมูลจริง100เปอร์เซ็นต์ แต่นี่มันคือโดนอุ้มจริงๆ แล้วมันก็เกิดขึ้นจริงๆ ชาไม่ได้ว่างแล้วมานั่งปั้นเรื่อง”
หลังจากนี้ตัองระมัดระวังตัวเองมากขึ้นไหม เห็นบอกว่าเราเองก็เสี่ยงเหมือนกันที่ออกมาโพสต์เรื่องนี้?
“ค่อนข้างเหมือนกัน ก็มีความหลอนเหมือนกัน อย่างที่ทุกคนอ่านจากชาก็หลอน แต่ชาหลอนกว่านะเพราะชาออกหน้าเต็มๆ”
ต้องมีการเพิ่มการ์ดระวังตัวเอง?
“อาจจะไม่ต้องถึงขนาดนั้น อันนี้เบสิกไม่ว่าชาหรือคนที่ดูอยู่ คือแค่อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่ว่าจะกลางคืนหรือกลางวันก็ต้องระวังตัว ไปในที่ที่มีคนพลุกพล่านดีกว่าไปอยู่ในที่ที่ไม่มีคน”
ตำรวจสน.ทองหล่อ ได้ติดต่อไปหาเราไหม?
“ค่ะ แต่ไม่ได้คุยลงรายละเอียด ทั้งนี้ทั้งนั้นชาจะบอกว่าอย่างทางพี่ๆ ตำรวจเขาก็ได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ชาไม่อยากให้มีใครไปคอมเมนต์ลบๆ เกี่ยวกับเขา คือเขาก็ทำหน้าที่ของเขาได้อย่างดีที่สุด ชาก็เป็นประชาชนที่ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับประชาชนทุกคน บวกกับเป็นคนของสาธารณะด้วย ซึ่งทุกคนได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด ไม่อยากให้มีการคอมเมนต์อะไรที่แรงหรือลบกับฝั่งใดฝั่งหนึ่ง”
แค่ติดต่อไปพูดคุยเฉยๆ?
“เขายังไม่ลงรายละเอียดค่ะ”
แล้วเราต้องเข้าไปชี้แจงกับตำรวจไหมว่าเราโพสต์ไปด้วยสาเหตุอะไร เพราะวันนี้ทางตำรวจเขาแถลงว่าอยากให้เราเข้าไปชี้แจง?
“ชาขอพูดตรงนี้เลยแล้วกัน ก็เท่านั้นเองจริงๆ มันไม่ได้มีอะไร แค่โพสต์เตือนให้ทุกคนระวัง และหวังว่าทุกคนจะช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้ชาหรือเป็นหูเป็นตาให้กับประชาชนด้วยหลังจากนี้ รวมถึงตัวชาเองถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็จะได้ระวัง ก็เท่านั้น”
ตำรวจเขามาบอกข้อมูลกับเราในฐานะอะไร?
“เพื่อนกันค่ะ”
แล้วเขาโกรธเราไหมที่เราเอาข้อความไปโพสต์?
“ทำไมเขาต้องโกรธชา เขาก็บอกว่าดีแล้วได้ช่วย เพราะชาก็ถือเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงเท่านั้นเองไม่ได้มีอะไร”
เรื่องมันทำให้เกิดเอฟเฟคในหลายๆ แง่มุมอยากจะขอโทษใครที่ได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้ไหม?
“...(นิ่ง) ก็อยากฝากทุกๆ คนให้ระมัดระวังและช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับประชาชนรอบข้าง ครอบครัว เพื่อน คนรักทุกคน ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงด้วยแล้วกันค่ะ อะไรที่เตือนได้ก็เตือนกัน”
“ แล้วเหตุการณ์จริงคือผู้ชาย แต่ที่ชาเตือนคือผู้หญิง เพราะฉะนั้นถ้าคิดกลับกันมันน่ากลัวกว่าไหม ผู้ชายยังโดนหิ้วเลย แล้วผู้หญิงจะขนาดไหน ชามองว่ามันก็น่าคิดเหมือนกันเรื่องนี้”
อยากฝากเจ้าหน้าที่เช็คอีกรอบ ?
“คือชาว่าประเด็นเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าชาพูดว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ประเด็นคือคนโดนอุ้ม อยากให้คนโฟกัสเรื่องนั้นมากกว่า แล้วเขาเป็นผู้ชาย เขายังโดนอุ้มแล้ว ผู้หญิงจะเป็นยังไง ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เรื่องผลประโยชน์ หรือการลักทรัพย์ ชาว่าอยากให้คิดตรงนี้มากกว่า”
หลังจากนี้จะสืบเองไหม ?
“ไม่ ไม่อยากยุ่งแล้ว แค่นี้ก็กลัวแล้วค่ะ”
ที่โพสต์จะลบทิ้งไหม ?
“ชาว่าเป็นสิ่งที่เตือนขวัญกันได้ ไม่คิดว่าจำเป็นต้องลบนะคะ”
ได้เห็นกล้องวงจรปิดไหม ?
“ไม่ ชาไม่ได้อยู่แถวนั้นค่ะ”
